November 16, 2019 20:38
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากต้องการใช้ยาคุมรายเดือน ควรจะรับประทานให้ถูกต้องและมีผลคุมกำเนิดจากยาขึ้นมาก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์นะคะ และควรรับประทานต่อเนื่องจนหมดแผง ทั้งเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ และเพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแปรปรวนมาก ซึ่งอาจทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนจนคาดการณ์ได้ยาก
แต่ยาคุมอาจทำให้ผู้ใช้เกิดผลข้างเคียงจากยานะคะ เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, ฝ้า, บวมน้ำ, เจ็บคัดตึงเต้านม, สิว, อารมณ์แปรปรวน หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอย ขึ้นกับชนิดของยาคุมที่ใช้ และขึ้นกับการตอบสนองของผู้ใช้แต่ละราย
และหากมีการใช้อย่างไม่เหมาะสม อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ดังนั้น หากผู้ถามกังวลกับผลข้างเคียงหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้น การป้องกันด้วยถุงยางอนามัย ก็เป็นทางเลือกที่ดีแล้วนะคะ โดยเฉพาะในกรณีของผู้ถามซึ่งไม่ได้มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง เพราะถ้าใช้ถุงยางถูกต้อง และไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งแม้ว่าประสิทธิภาพสูงสุดของถุงยางอนามัยจะด้อยกว่ายาคุมรายเดือน แต่ก็ถือว่าความเสี่ยงมีน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ
แต่ถ้าผู้ถามต้องการจะใช้ยาคุมร่วมด้วย ก็มีหลายทางเลือกที่นอกเหนือจากการรับประทานยาคุมรายเดือนนะคะ เช่น การใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด, การฉีดยาคุมกำเนิด, การฝังยาคุมกำเนิด หรือแม้แต่การใส่ห่วงอนามัย ซึ่งมีประสิทธิภาพดีและไม่ต้องบริหารยาบ่อย ๆ ซึ่งผู้ถามสามารถไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมและพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับผู้ถามได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมกำเนิดแต่ละครั้งนั้นควรจะรับประทานยาต่อเนื่องไปจนหมดแผงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแปรปรวนของฮอร์โมนในร่างกายครับ และถ้าหากรับประทานยาคุมหมดแผงแล้งคาดว่าจะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกในช่วงเร็วๆนั้นก็สามารถหยุดรับประทานยาคุมไปก่อนได้
แต่ถ้าหากจะกลับมารับประทานยาคุมใหม่อีกครั้งก็จะต้องเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนเพื่อให้ยาคุมมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยา หรือถ้าไม่ได้เริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ได้อย่างน้อย 7 วันก่อนจึงจะเริ่มมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยได้ครับ
อย่างไรก็ตามการคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยก็เป็นวิธีการที่ป้องกันการคั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว คือ ถ้าหากมีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้น
ดังนั้นถ้าหากมีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมออยู่แล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมร่วมด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้ามีเป็นครั้งๆใช้ถุงยางดีกว่าครับ เเต่ถ้ามีเป็นช่วงๆ เช่น เเฟนไปทำงานสามเดือน กลับมาอยู่ด้วย1เดือน ในหนึ่งเดือนนี้มีเพศสัมพันธ์หลายครั้ง เเบบนี้ควรกินยาคุมแผงรายเดือนครับ (การกินยามีผลข้างเคียงเสมอ ดังนั้นควรใช้เมื่อประโยชน์นั้นคุ้มค่าครับ)
ยาคุมกำเนิดรายเดือน รุ่นใหม่ๆ เช่น Yaz Yasmin พวกนี้มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ สิวลดลงได้ครับ (อาการบวมก็ไม่มากเนื่องจาก เอสโตรเจนไม่ได้สูงมาก)
อาการคลื่นไส้อาเจียนจะน้อยลง ระยะยาวโอกาสเกิดฝ้าก็น้อยกว่าครับ เเต่ ถ้ากินไม่ตรงเวลาอาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้ครับ
แนะนำเริ่มกินในวันที่1-5นับจากประจำเดือนมาวันเเรก(เพราะชัวร์ว่าไม่ได้ท้องเเละยาออกฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ คุมกำเนิดได้เลย)
หรือกินช่วงไหนของเดือนก็ได้เเต่ต้องชัวร์ว่าไม่ท้อง เเละต้องกินไปอย่างน้อย7วันจึงจะมีฤทธิ์คุมกำเนิดครับ
ถ้าเป็นแผง21เม็ดหลังกินหมดเเผงให้เว้น 7 วัน เเล้วเริ่มเเผงใหม่ครับ
เเต่ถ้าเป็น28เม็ดเมื่อหมดเเผงให้กินเเผงต่อไปต่อได้เลยครับ
ถ้ากรณี21เม็ด ช่วงที่เว้น7วันก่อนเริ่มยาแผงใหม่จะมีประจำเดือนมาได้ครับ
ส่วนกรณี28เม็ด ช่วงที่กิน7เม็ดสุดท้าย(เม็ดเเป้ง) จะมีประจำเดือนมาครับหรือบางยี่ห้อจะมีเม็ดฮอร์โมน24เม็ดครับ ช่วง4เม็ดสุดท้ายจะมีประจำเดือนมาครับ
ถ้าไม่มีประจำเดือนมา เเสดงว่ามีโอกาสหลุดท้อง ควรตรวจการตั้งครรภ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สอบถามคุณหมอค่ะ นานๆทีจะมีเพศสัมพันธ์กับแฟน ประมาณ3เดือนจะมีครั้งนึง ปกติจะป้องกันโดยถุงยางค่ะ แต่อยากกินยาคุมกำเนิดร่วมด้วย อยากทราบว่าจะต้องกินยาคุมกำเนิดไปตลอดเลยรึเปล่าคะ หรือว่ากินให้หมดเป็นแผงๆไป เฉพาะช่วงที่จะมีเพศสัมพันธ์ แล้วจะหยุดยาได้ตอนไหน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)