หลังจากมีอะไรกับแฟนก็มีตกขาวสีเขียวเยอะขึ้นเรื่อยๆคล้ายจะเป็นน้ำเลยค่ะคันด้วยแต่ไม่มีกลิ่นเหม็นซื้อยาทามาใช้ก็ลดคันลงบ้างแต่ยังตกขาวเยอะเหมือนเดิมกินยาอะไรดีคะจะสามอาทิตย์​แล้วค่ะ

สวัสดีครับ
ลักษณะของคนไข้เหมือนมีการอักเสบ ติดเชื้อ ครับ เช่น เชื้อโปรโตซัว เช่น tricomanas ทำให้มี ช่องคลอดอักเสบ หรือ ปากมดลูกอักเสบ หรือเชื้อ แบคทีเรีย เช่น chlamydia หรือ Gardnerella ครับทำให้มีลักษณะตกขาวที่ผิดปกติ คือ มีสีเหลืองหรือเขียวปริมาณมาก จะเป็นแบบขุ่น หรือใสก็ได้ หรือมีกลิ่นเหม็นครับ
นอกจากนี้ อาจเป็นอาการแสดงของหนองในแท้ หรือ หนองในเทียมก็ได้ครับ โดยลักษณะอาการของผุ้หญิงมักไม่เฉพาะเจาะจง เช่นอาจมีตกขาวผิดปกติร่วมกับปัสสาวะแสบขัดได้ บางคนอาจพบแผลที่อวัยวะเพศได้ครับ
ซึ่งต้องอาศัยการตรวจร่างกายอีกครั้ง เพื่อดูลักษณะของมดลูกและปากมดลูกครับ
วิธีการรักษาของการติดเชื้อเหล่านี้ คือ การทานยาฆ่าเชื้อ หรือ ฉีดยาฆ่าเชื้อครับ
แนะนำให้คนไข้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและตรวจภายในเพิ่มเติมครับ และอาจตรวจตกขาว เพื่อยืนยันการวินิจฉัยครับ
ยังไม่แนะนำให้ซื้อยากินเองนะครับ เนื่องจากยาฆ่าเชื้อทีหลายชนิด จะรักษาให้ตรงจุดต้องรักษาให้ถุกกับเชื้อต่างๆที่นึกถึง ซึ่งต้องอาศัยการตรวจร่างกายและส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่ทเติมครับ

สวัสดีครับ
การมีตกขาวเปลี่ยนเป็นสีเขียวผิดปกตินั้นอาจเกิดจากการติดเชื้อบางอย่างภายในช่องคลอดได้ครับ เช่น เชื้อแบคทีเรียทั่วไป หนองใน เชื้อทริโคโมแนสซึ่งเป็นเชื้อโปรโตซัวชนิดหนึ่ง ซึ่งแต่ละสาเหตุก็จะมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจดูลักษณะตกขาวให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างถูกต้องครับ

ตกขาวปกติจะมีสีขาวใส และไม่มีกลิ่นครับ
ตกขาวที่มีสีหรือกลิ่น หรือมีเลือดปน มักเป็นตกขาวที่ผิดปกติครับ ซึ่งเกิดได้จากหลายอย่างครับ เช่น
- ตกขาวสีขาวปนเทา กลิ่นคล้ายคาวปลา อาจจะเกิดจากการสวดล้างช่องคลอด ทำให้แบคทีเรียบริเวณช่องคลอดไม่สมดุลครับ
- ตกขาวสีเขียวปนเทา กลิ่นเหม็น มีฟองมาก และคัน อาจเกิดจากเชื้อปรสิต
-ตกขาวสีเหลือง/เขียว เจ็บ/คันรอบช่องคลอด หรือเจ็บขณะปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากเชื้อหนองในแท้หรือหนองในเทียม
เป็นต้นครับ

เบื้องต้น งดสวดล้างช่องคลอด งดมีเพศสัมพันธ์ ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ ไม่ใส่เสื้อผ้าอับชื้น ครับ
แนะนำให้ ไปพบแพทย์หรือสูติแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และอาจนำตกขาวไปตรวจเพิ่มเติมเพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง และที่สำคัญถ้านำคู่นอนไปตรวจด้วยก็จะดีครับ เผื่อเป็นโรคที่จะต้องรักษาด้วยครับ

แนะนำให้คนไข้ไปตรวจการติดเชื้อก่อนครับ ทั้งการตรวจจากตกขาวเพื่อย้อมหาเขื้อทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งอาจพบได้จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่น การติดเชื้อรา เชื้อโปรโตซัวทริโคโมแนส หนองในแท้ หนองในเทียม เป็นต้น เพื่อหาสาเหตุของการติดเชื้อก่อนรับการรักษาที่ตรงกับโรคครับ

ลักษณะของตกขาวปกติ จะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงของรอบเดือน
โดยช่วงก่อนไข่ตก (2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนมา) จะมีลักษณะเป็นมูกยืดๆ สีใส
หลังไข่ตก จะเปลี่ยนเป็นลักษณะสีขาวคล้ายแป้ง
อย่างไรก็ตาม ตกขาวปกติ จะไม่ทำให้มีอาการคัน ระคายเคือง หรือแสบช่องคลอด ไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่มีอาการอื่น เช่น ปวดท้องน้อย หรือเป็นไข้ ร่วมด้วย
ถ้าตกขาวมีอาการผิดไปจากนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งมีหลายสาเหตุ จะมีลักษณะตกขาวต่างๆ กับไป เช่น
ตกขาว เหมือนแป้ง เป็นก้อน คล้ายคราบนมเด็ก คันมาก เกิดจากเชื้อรา
ตกขาว สีเหลือง กลิ่นเหม็น ปวดท้อง มีไข้ เกิดจาก อักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
ตกขาวสีขาว เทา กลิ่นคล้ายปลา เกิดจาก ไม่สมดุลย์ของแบคทีเรียในช่องคลอด
ซึ่งการรักษา จะรักษาตามสาเหตุ
เพราะฉะนั้น ถ้ามีลักษณะตกขาวผิดปกติไป ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจภายในค่ะ จะได้รักษาตรงสาเหตุ

การมีตกขาวผิดปกติในช่วงที่มีการตั้งครรภ์อยู่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรหรือการคลอดก่อนกำหนดได้ครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาตกขาวที่เกิดขึ้นก่อนครับ

การตั้งครรภ์แล้วติดเชื้อโรคติดตาอทางเพศสัมพันธ์ มันมีหลายโรคครับ เช่น
1.ซิฟิลิส ถ้าไม่รักษา เด็กก็จะออกมาผิดปกติ ช่น เป็นต้อกระจก สติปัญญาผิดปกติ
2.เริม จะมีปัญหาตินคลอดคือ ถ้าเป็นเริมระยะแพร่กระจายอยู่ ที่ปากช่องคลอด จะไม่สามารถคลอดเองได้จะทำให้ทารกติดเริมแล้วพิการ
3.ถ้าเป็นหูดต่างๆ ที่ปากช่องคลอด แล้วคลอดเอง เด็กอาจจะสำลักเข้าไป แล้วเกิดเป็นหูดภายในระบบหายใจได้ครับ เป็นต้น เพราะฉะนั้นแนะนำให้ไปโรงพยาบาลตรวจและค้นหาโรคครับว่าเป็นโรคอะไรแล้วก็จะได้รักษาต่อไปครับ