August 04, 2019 07:59
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ สำหรับการไอเรื้อรัง อาจจะเป็น
1.หลอดลมอักเสบ ซึ่งมักเป็นตามหลัง การติดเชื้อต่างๆ จะไอแห้งๆ ไม่มีไข้
2.การเป็นวัณโรคปอด ซึ่งคือโรคติดต่อชนิดหนึ่ง จะมีอาการไอเรื้อรัง ไอแห้ง ๆ มีไข้ต่ำๆช่วงกลางคืน น้ำหนักลด ถ้าเป็นมากอาจจะไอเป็นเลือดได้ครับ
3.โรคหอบหืด หรือถุงลมโปร่งที่ไม่ได้รักษา จะมีอาการไอเรื่อรังได้ ไอแห้ง อาจจะหอบเหนื่อยได้ครับ
การไอเรื้อรังแนะนำว่าควรไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลครั
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการไอมากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป เป็นอาการที่ควรเริ่มจะต้องหาสาเหตุ เรื่องจากอาจกลายเป็นอาการไอเรื้องรังได้ครับ
ซึ่งสามารถเป็นได้จากหลายสาเหตุครับ
ซึ่งควรจะต้องได้รับการซักประวัติ ตรวจร่างกายเพ่มเติมค่ะว่าอาการร่วมต่างๆมีอะไรบ้าง เพื่อช่วยการวินิจฉัย ได้แก่
1.หากมีน้ำมูกไหลลงคอ มีปวดตามใบหน้า มีน้ำมูกเขียวข้น อาจเป็นไซนัสอักเสบได้ ควรจะค้องได้รับยาฆ่าเชื้อเฉพาะ และอาจจะต้องตรวจร่างกายส่องดูไซนัส
2.อาการภูมิแพ้ อาจมีอาการไอบ่อยๆ โดยเฉพาะถ้ามีไอกลางคืนบ่อยๆ ทำกิจกรรมแล้วเหนื่อยมากขึ้น ร่วมกับถ้าคนไข้สุบบุหรี่ หรือ เคยสูบบุหรี่อาจมีปัญหาหลอดลมตีบ หรือ หอบหืด/ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ได้ หรือไอมากเมื่ออยู่ในห้องที่ฝุ่นค่อนข้างเยอะหรือ ไปทุ่งดอกไม้เป็นต้นครับ
3.วัณโรคปอด ต้องถามเพิ่มเติมว่ารอบตัวคนไข้มีใครไอเรื้อรัง ไหม คนไข้มีอาการอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่ เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น และวัณโรค ถ้าเป็นมากๆ อาจมีไอเป็นเลือดร่วมด้วยได้ครับ
4.เส้นเสียง กล่องเสียงอักเสบ อาจมีอาการไอเรื้อรัง เสียงแหบได้ มีเสมหะในคอ
4. อาจไม่เกี่ยว กับการติดเชื้อหรือภูมิแพ้ ได้แก่ กรดไหลย้อน ซึ่ง อาจมีอาการจุกแสบแน่นอก และแสบร้อนยอดอก ระคายเคืองกล่องเสียง อาจมีอาการไอเรื้อรังได้ เยื้องต้นแนะนำให้ไปตรวจกับอายุรแพทย์ หรือ แผนกหูคอจมูก เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดและส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมครับ เพื่อรักษาตามสาเหตุนะครับ
การบรรเทาอาการเบื้องต้น ได้แก่
การใช้ยาแก้ไอ ซึ่งโดยปกติมีอยู่สองชนิดด้วยกัน คือ
1.ยาละลายเสมหะ จะทำการละลายเสมหะทำให้ไอและขับเสมหะได้มากขึ้นยาแก้ไอชนิดนี้ส่วนใหญ่จะทำให้ไอลดลงจากการที่เสมหะลดลงครับ
2.ยากดการไอ ยาจะไปยับยั้งไม่ให้เกิดการไอเกิดขึ้นมักจะใช้ในกรณีไอแห้งๆไม่มีเสมหะไอจากอาการแพ้หรือหลอดลมตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นไวเกินครับ
ไม่แนะนำให้ใช้ในการอักเสบติดเชื้อเนื่องจากจะขับเอาเสมหะออกไม่ได้ครับ
ในกรณีนี้อาการอย่างเดียวอาจจะยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นจากสาเหตุอะไรแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อหาวาเหตุเพิ่มเติมจึงจะรักษาได้ถูกต้องตามการงินิจฉัยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการไอเรื้อรังเป็นเวลา 1 เดือนนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีการติดเชื้อในปอด
- วัณโรคปอด
- การสัมผัสกับสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองในทางเดินหายใจหรือควันต่างๆเป็นเวลานาน
- โรคภูมิแพ้
- โรคหอบหืดหรือถุงลมโป่งพอง
- โรคหลอดลมโป่งพอง
- กรดไหลย้อน
หมอแนะนำว่าในเบื้องต้นนั้นควรพาแฟนไปพบแพทย์อายุรกรรมเพื่อตรวจประเมินอาการและเอ็กซเรย์ปอดเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
แฟนมีอาการไอมาเป็นเวลา1เดือนแล้วค่ะ เขาจะไอหนักมากเวลากลางคืยจนทำให้นอนไม่หลับ ตอนเช้าและระหว่างวันก็ไอหนักเช่นกันแต่ตอนกลางคืนก่อนจะนอน ไอหนักมาก เป็นกังวลว่าปอดเขาจะติดเชื้อหรือป่าวค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)