หนูมีอะไรกับแฟนค่ะ แล้วตอนหลั่งนอกเขาเอาออกมาพอดีค่ะ แต่กลัวมีน้ำอยู่ในช่องคลอด วันนี้เป็นวันตกไข่วันสุดท้ายพอดีค่ะ พอมีอะไรกับแฟนได้ประมาณ20นาทีรีบไปซื้อยาคุมฉุกเฉินแบเม็ดเดียวกินเลยค่ะ หนูจะมีโอกาศท้องมั้ยค่ะ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่นั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปผสมกับไข่ได้

แต่ถ้าหากรับประทานยาคุมฉุกเฉินในทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็จะช่วยลดโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ลงได้ประมาณ 85% ครับ

ทั้งนี้ครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์อีกหมอแนะนำว่าควรมีการป้องกันทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถุงยางอนามัยหรือยาคุมกำเนิด เนื่องจากการใช้วิธีหลั่งนอกนั้นมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้สูงครับ

ในกรณีที่จะใช้ยาคุมกำเนิดนั้นก็สามารถ
- เริ่มใช้ได้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนหาดใช้ในรูปแบบรับประทาน
- เริ่มใช้ได้ภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน ในกรณีที่ใช้วิธีการฉีดหรือฝังยาคุม

การหลั่งนอกไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่ดีค่ะ เพราะมีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้ 22%

ส่วนยาคุมฉุกเฉิน ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพที่สูงมากเหมือนกับวิธีคุมกำเนิดปกติ ดังนั้น แม้จะรับประทานเร็วและครบขนาด ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% นะคะ

แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ ถ้าไม่มี ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ โดยสามารถตรวจด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

และหากจะมีเพศสัมพันธ์อีก ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งค่ะ เพราะถ้าใช้ได้ถูกต้องและไม่มีการรั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วยนะคะ

หมายถึงใส่ถุงยางอนามัยหรือเปล่าคะ?

ถ้าใช่ หากมีการใช้ถูกต้อง และตรวจสอบแล้วว่าไม่มีการรั่วซึมหรือฉีกขาด ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก แค่ 2% ค่ะ และไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินนะคะ (แต่ถ้ารับประทานไปแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ)

หมายถึง ใส่ถุงยางอนามัยด้วยใช่ไหมครับ

โอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ในกรณีนี้ขึ้นอยู่กับว่าถุงยางอนามัยมีการฉีกขาดหรือไม่ครับ
- ถ้าหากถุงยางอนามัยไม่มีการฉีกขาดและใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้อง ก็มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นโดยไม่จำเป็นต้องรับประทานบาคุมฉุกเฉินในกรณีนี้
- แต่ถ้าหากถุงยางอนามัยมีการฉีกขาดโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะมีมากขึ้น แต่ก็โอกาสก็จะมีน้อยลงจากยาคุมฉุกเฉินที่รับประทานไปแล้ว

ในกรณีนี้ถ้าหากไม่ได้เห็นว่าถุงยางอนามัยมีการฉีกขาดอย่างชัดเจนหรือเห็นว่ามีน้ำอสุจิเข้าไปในช่องคลอดอย่างชัดเจนโอกาสตั้งครรภ์ก็มีน้อยและไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ

แต่ถ้าหากรับประทานไปแล้วก็ไม่เป็นไรครับ เพียงแต่อาจมีผลข้างเคียงทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม เลือดออกกระปริดกระปรอยหลังรับประทานยาได้

ถ้าถอดถุงยางออกเมื่อถอนอวัยวะเพศของฝ่ายชายออกมาเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะต่อให้น้ำอสุจิจะเปื้อนอวัยวะเพศของฝ่ายหญิง แต่อสุจิก็ไม่สามารถเข้าไปในช่องคลอดเองได้ค่ะ