เชื้อ HPV มีหลายสายพันธ์และหลายอาการแสดงค่ะ
ถ้าเป็นสายพันธ์6,11 เป็นสายพนธ์ที่ทำให้เกิด หูดหงอนไก่ ไม่ทำให้เกิดมะเร็ง การนักษาได้แก่ การทายาและจี้ออกค่ะ
ถ้าสายพันธ์อื่นๆ โดยเฉพาะ 16,18 อาจไม่แสดงอาการค่ะ เบื้องต้น ยังไม่มียาเฉพาะรักษาเชื้อ HPV บางคนอาจหายไปได้เอง ถ้าร่างกายแข็งแรง ภูมิคุ้มกันดี แนะนำให้ตรวจติดตาม pap smear เป็นประจำทุกปีนะคะ และหากมีอาการใดๆ ผิดปกติ เช่น มีแผล ตกขาวผิดปกติ เลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ แนะนำให้ไปพบแพทย์ นอกจากนี้ การทานอาหารที่ทีประโยชน์ ออกกำลังกาย และการระมัดระวังเรื่องการใช้ยา โดยเฉพาะยาต้มยาหม้อ ยาลูกกลอน ยาที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจกดภูมิคุ้มกันของเรา ไม่แนะนำให้ใช้ค่ะ

เชื้อ HPV มีหลายสายพันธ์ุค่ะ 
โดยจะแบ่งเป็นสายพันธ์ความเสี่่ยงต่ำ คือ ความเสี่ยงต่ำ ที่จะก่อมะเร็งปากมดลูก แต่ทำให้เป็นหูดหงอนไก่เช่น สายพันธ์ 6 และ 11 

ส่่วนสายพันธ์เสี่ยงสูงที่ก่อมะเร็งปากมดลูก หลักๆ คือสายพันธ์ 16 กับ 18

ส่วนใหญ่ ที่แพทย์จะตรวจพร้อมการตรวจภายใน ป้ายเซลล์ที่ปากมดลูกไปตรวจ คือ DNA ของ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูงค่ะ

ถ้าพบสายพันธุ์เสี่ยงสูง แต่ผลเซลล์ปากมดลูกยังปกติ

ให้ดูว่า สายพันธุ์เสี่ยงสูงที่พบ เป็น สายพันธุ์ 16 หรือ 18 หรือไม่ ???

- ถ้า เป็น สายพันธุ์ 16 หรือ 18 ต้องทำการส่องกล้องขยายดูปากมดลูก และ อาจมีการสุ่มตัดชิ้นเนื้อร่วมด้วย (Colposcopy)
- ถ้าเป็นสายพันธุ์เสี่ยงสูงอื่น ที่ไม่ใช่ 16 หรือ 18 ให้ทำการตรวจภายใน ป้ายเซลล์ที่ปากมดลูก และตรวจ HPV DNA ซ้ำ ที่ 1 ปีค่ะ

นอกจากนี้
ปัจจุบันวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV ถือว่า มีประโยชน์มากค่ะ แนะนำให้ฉีดนะคะ แม้ว่าจะเคยติดเชื้อHPV บางสายพันธุ์มาแล้ว แต่ยังสามารถป้องกันสายพันธุ์อื่นๆได้ค่ะ

โดยในปัจจุบัน มีวัคซีน 2 ชนิดค่ะ คือ 
1. แบบ 2 สายพันธ์ : กันสายพันธ์ 16 กับ 18 กันมะเร็งปากมดลูกค่ะ 
2. แบบ 4 สายพันธุ์ : กันสายพันธ์ุ 6, 11, 16, 18 กันทั้้งมะเร็งปากมดลูก และ หูดค่ะ 

แต่ทีสำคัญ คือ แม้ว่า จะฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแล้ว ก็ยังต้องตรวจภายในสม่ำเสมอนะคะ ไม่สามารถละเลยการตรวจภายใน คัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้