1.ฝังยาคุม (แบบ1แท่ง 3ปี)ช่วงแรกหลังฝังมีประจำเดือนกะปริดกะปรอย(เป็นอยู่ไม่ถึง1เดือน ถ้าจำไม่ผิด เกือบๆเดือน) หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นขาดประจำเดือนมาตลอด(เกิน1เดือนแล้ว) แล้วล่าสุดก็มี2-3วันที่ ประจำเดือนมา กะปริกะปรอยค่ะ แต่ก็กลับมาขาดประจำเดือนต่อ ยังงี้สามารถมั่นใจได้ใช่ไหมคะ ว่ายาฝังออกฤทธิ์แน่ๆ(และออกเต็มประสิทธิภาพด้วย?) คือใช้ผลข้างเคียง เช็คได้ใช่ไหมคะ เพราะเกิดกลัวว่า ยาที่ฝังอาจจะเป็นยาเสื่อมสภาพหรือหมดอายุไปแล้วมาฝังให้(โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ) ฝังที่ รพ รัฐค่ะ แต่ถ้ามีผลข้างเคียงเกิด ก็แปลว่ายาออกฤทธิ์ชัวร์ๆ ??? 2.ฝังยาคุมอยู่ ถ้ามี ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย หลังมีเพศสัมพันธ์ไปประมาณ1อาทิตย์ แปลว่า ไม่ตั้งครรภ์แล้วแน่ๆใช่ไหมคะ ใช้ประจำเดือนกะปริดกะปรอย(ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากยาฝัง) เช็คได้ เรื่องตั้งครรภ์ เหมือนกับว่า ถ้ามีประจำเดือนกะปริดกะปรอยมาก็คือ เทียบได้เหมือนกับว่า ประจำเดือนปกติมา ในคนทั่วไป???

ผลข้างเคียงจากยาฝังคุมกำเนิดไม่ใช่ตัวบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพของยาหรือบ่งชี้ถึงโอกาสตั้งครรภ์ค่ะ จึงไม่สามารถใช้เป็นข้อสรุปว่ามีผลคุมกำเนิดจากยาหรือไม่, ยานั้นมีคุณภาพหรือเปล่า หรือมีการตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์

โดยปกติจะมีมาตรฐานการทำงานซึ่งจะไม่นำเอายาฝังคุมกำเนิดที่เสื่อมสภาพมาใช้อยู่แล้วนะคะ จึงไม่น่าจะกังวลถึงเรื่องนี้ แต่ถ้าผู้ถามต้องการความชัดเจนว่ายาฝังคุมกำเนิดที่ใช้มีวันผลิตหรือหมดอายุเมื่อไหร่ หรือมีรุ่นการผลิตใด ก็สามารถขอข้อมูลดังกล่าวจากสถานบริการทางสุขภาพที่ผู้ถามไปรับบริการฝังยาคุมกำเนิดได้ค่ะ เพราะโดยปกติจะมีระบบเก็บข้อมูลที่ให้ตรวจสอบได้ไม่โดยตรงก็โดยอ้อม

ส่วนผลในการป้องกัน จะพิจารณาจากช่วงเวลาที่ฝังยาคุมกำเนิดค่ะ ว่าน่าจะมีผลยับยั้งไข่ตกในรอบเดือนนั้นได้เลยหรือไม่

เช่น สำหรับกรณีทั่วไป ถ้าฝังยาคุมภายใน 5 - 7 วันแรกของการมีประจำเดือน (หากผู้ปฏิบัติงานยึดตามแนวทางของ WHO 2016 จะใช้หลักเกณฑ์ 7 วัน แต่ถ้ายึดตามแนวทางของ US CDC 2016 จะยึดที่ 5 วัน) ก็จะถือว่ายาจะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งไข่ที่จะตกในรอบเดือนนั้นได้เลย จึงถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันทีหลังจากที่ฝังยาคุมไปแล้ว

แต่ถ้าฝังยาคุมไม่ทันช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสามารถทำได้ในกรณีที่มั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์อยู่ แต่เนื่องจากยาอาจยับยั้งไข่ที่กำลังจะตกในรอบเดือนนั้นไม่ทัน จึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปอีก 7 วันหลังจากฝังยาคุมไปแล้ว

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลป้องกันจากยาฝังคุมกำเนิด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.05% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ดังนั้น หากผู้ใช้กังวลใจว่าอาจตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจสอบให้แน่ชัดได้ค่ะ โดยใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน (ปัสสาวะแรกของวัน) ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ