ครบกำหนดฉีดยาคุมเมื่อวันจันทร์ที่21 แต่ลืมไปฉีดยา แถมดันมีเพศสัมพันธ์กับแฟนอีก จะเป็นอะไรไหมคะ ไม่ได้สวมถุงยาง+หลั่งใน

สวัสดีค่ะ
การไม่ต่อเนื่องของยาคุมกำเนิดนั้น มีโอกาสในการผิดพลาดได้ค่ะ
สำหรับการฉีดยาคุมกำเนิดในคนทั่วไปโอกาสตั้งครรภ์ 3% และในคนที่ฉีดยาสม่ำเสมอสมบูรณ์แบบ โอกาสตั้งครรภ์มีเพียง 0.3%ค่ะ
กรณีนี้ หากยังไม่เกิน 120 ชม แนะนำ ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ ยิ่งทานเร็วยิ่งดี
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินภายใน 24 ชม มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 10-15%
ภายใน 72 ชม มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-20% ค่ะ

แนะนำตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ ซึ่งจะตรวจได้เองหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย 14 วัน จึงจะแปลผลน่าเชื่อถือค่ะ

ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมนะคะ

1. ไม่ทราบว่าฉีดยาคุมเข็มล่าสุด (ที่ได้ฉีดจริง) ในวันที่เท่าไหร่คะ
2. หลังจากนี้ต้องการคุมกำเนิดด้วยวิธีใดต่อคะ

หลังจากที่มีประจำเดือนมาในวันที่ 21 มีนาคม ผู้ถามมีประจำเดือนมาอีกรอบหรือยังคะ ถ้ามี ประจำเดือนมาตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่คะ

ขออภัยที่ไม่ได้ตอบในรอบก่อนนะคะ

โดยปกติ การฉีดยาคุมแบบ 1 เดือน จะมีการนัดฉีดทุก ๆ 4 สัปดาห์ (28 วัน) หรือถ้าฉีดไม่ทัน ก็สามารถเลื่อนนัดให้ช้าออกไปได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์ (7 วัน) แต่รวมแล้วจะต้องไม่เกิน 5 สัปดาห์ (35 วัน) นับจากวันที่ฉีดยาคุมเข็มล่าสุดค่ะ

และยาคุมชนิดนี้ไม่ได้ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือไม่มีประจำเดือนเหมือนกับยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือนนะคะ ดังนั้น ผู้ใช้ควรจะมีประจำเดือนมาในสัปดาห์ที่ 4 ของการฉีดยา (ประมาณวันที่ 22 - 28 นับจากวันที่ฉีดยาคุมเข็มล่าสุด)

ดังนั้น ในกรณีนี้ถือว่าผิดปกติที่ผู้ถามไม่มีประจำเดือนมาก่อนถึงวันนัดฉีดยาเข็มล่าสุดค่ะ ซึ่งโดยปกติควรจะมีการตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนก่อนที่จะฉีดยาคุมเข็มต่อไป แต่ไม่มั่นใจว่าผู้ถามได้ตรวจหรือไม่ก่อนจะฉีดยาในวันที่ 23 เมษายน

และเนื่องจากวันที่ผู้ถามไปฉีดยานั้น เกินกรอบเวลายืดหยุ่นไปแล้ว หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในช่วงที่ไม่มีผลคุมกำเนิดจากยา ก็เสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้อีกเช่นกันนะคะ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ แม้จะมีการตรวจตั้งครรภ์ในวันที่ 23 เมษายนก็จะยังไม่พบค่ะ

ดังนั้น ในกรณีที่มีความเสี่ยง คุณหมอจะไม่พิจารณาฉีดยาคุมให้จนกว่าจะมั่นใจว่าผู้ใช้ไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่อย่างแน่นอน เช่น รอให้ประจำเดือนมาก่อน หรือรอตรวจการตั้งครรภ์ในเวลาที่เหมาะสม

แต่เมื่อผู้ถามได้ฉีดยาคุมต่อเนื่องไปแล้ว ก็น่าจะได้รับคำแนะนำจากสูตินรีแพทย์แล้วนะคะว่ายาคุมที่ฉีดไปนี้จะเริ่มมีผลคุมกำเนิดได้วันไหน และสาเหตุที่ประจำเดือนยังไม่มาคืออะไร รวมถึงควรจัดการเช่นไรกับการที่ยังไม่มีประจำเดือนมา จึงแนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวค่ะ

หรือหากมีความกังวลใจมาก แนะนำให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจน ด้วยการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ค่ะ อย่างไรก็ตาม หากฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอ ความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ก็จะมีน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ

ความเสี่ยงที่กล่าวไปข้างต้น เกิดจากการที่ผู้ถามไม่ได้ไปฉีดยาคุมตามนัด ซึ่งทำให้ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง ถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในช่วงที่ไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาก็เสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ยังมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมนั่นเอง

ผู้ถามจึงต้องทบทวนว่าคุณหมอแนะนำว่าอย่างไรบ้างในการฉีดยาวันที่ 23 เมษายน และผู้ถามได้ปฏิบัติตรงตามที่คุณหมอแนะนำหรือไม่ ถ้าปฏิบัติตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัดแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาให้ต้องกังวลค่ะ