หลังจากมีเพศสัมพันหลั่งนอกแล้วกินยาคุมฉุกเฉินแต่กินยาคุมแบบแผงเลยจะเป็นอะไรไหมค่ะ

ยาคุมรายเดือนไม่มีผลคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ การใช้ร่วมกันกับยาคุมฉุกเฉินไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ให้น้อยลง และในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ก็จะทำให้ประจำเดือนรอบนี้เลื่อนช้าออกไปมากขึ้น จึงยิ่งสับสนว่าประจำเดือนไม่มาเพราะตั้งครรภ์หรือว่าเป็นผลจากยาคุมที่ใช้

ดังนั้น หากเริ่มใช้ยาคุมรายเดือนไปเพียงไม่กี่วัน แนะนำให้หยุดใช้ไปก่อนค่ะ

หากไม่มีการตั้งครรภ์ ควรจะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันนะคะ ซึ่งประจำเดือนปกติก็ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ

เมื่อมีประจำเดือนมาแล้ว ก็หมายถึงไม่มีการตั้งครรภ์ หากต้องการคุมกำเนิดต่อไปข้างหน้า (เช่น ในกรณีที่คาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อย ๆ) ก็ให้เริ่มรับประทานยาคุมรายเดือนแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ซึ่งจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานนะคะ

แต่ถ้าผู้ถามมีเลือดออกมาภายใน 7 วันโดยประมาณนับจากวันที่รับประทานยาคุมฉุกเฉิน หรือเมื่อหยุดรับประทานยาคุมรายเดือน ในลักษณะของหยดเลือดซึม หรือเลือดออกกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน หรือจากการใช้และหยุดใช้ยาคุมรายเดือนอย่างไม่เหมาะสม แต่ไม่สำคัญอะไรค่ะ อาจมี หรือไม่มีเลยก็ได้ และไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ จึงยังเริ่มต้นใช้ยาคุมรายเดือนไม่ได้นะคะ

สวัสดีค่ะ
ขอขยายคำถามอีกทีนะคะ
1. มีเพศสัมพันธ์วันที่เท่าไร ไม่ได้ป้องกันใดๆเลยใช่หรือไม่?
2. รับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินห่างจากระยะเวลามีเพศสัมพันธ์กี่ชั่วโมง
3. เริ่มยาคุมรายเดอืนวันที่เท่าไร

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นจะมีโอคผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่นั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ แต่ถ้าหากได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วโอกาสตั้งครรภ์ก็จะลดลงไปได้ 75-85% ครับ

ส่วนการรับประทานยาคุมแบบรายเดือนนั้นจะไม่มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ในขณะนี้จึงอาจยังไม่มีประโยชน์จะรับประทานในทันทีครับ

การรับประทานยาคุมแบบรายเดือนนั้นควรเริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนเพื่อให้ยาคุมมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้วแต่วันแรก แต่ถ้าหากจะรับประทานหลังจากนั้นก็ควรต้องมั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ก่อนและต้องรับประทานยาติดต่อกันนานอย่างน้อย 7 วันยาคุมจึงจะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งในกรณีนี้คงยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการตั้งครรภ์แน่ๆครับ

ถ้าหากในตอนนี้เพิ่งเริ่มรับประทานยาคุมไป 1-2 วันหมอก็แนะนำให้หยุดรับประทานยาคุมไปก่อน แต่ถ้าหากรับประทานยาคุมติดต่อกันมานานแล้วหมอก็แนะนำให้รับประทานยาต่อเนื่องไปก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้มีฮอร์โมนแปรปรวนและจะมีปัญหาในการสังเกตประจำเดือนได้ยากตามมาครับ