August 30, 2019 17:26
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ประจำเดือนปกติ จะมีลักษณะดังนี้ค่ะ
1. มาสม่ำเสมอ ทุก 24-35 วัน โดยส่วนใหญ่ จะมาทุก 28 - 30 วันค่ะ
2. มาครั้งละ 3-7 วันค่ะ
3. ใช้ผ้าอนามัย วันละ ประมาณ 2-3 แผ่นค่ะ
4. มีอาการปวดท้องน้อยได้เล็กน้อย ช่วงวันแรกๆ ไม่ปวดรุนแรง
ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ โดยสาเหตุหนึ่งที่พบบ่อย คือ เกิดจากภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรังค่ะ เมื่อไข่ไม่ตก เมนส์ก็ไม่มา บางครั้งมีเศษของเยื่อบุโพรงมดลูกหลุดออกมา (แต่ไม่ใช่ประจำเดือน) ก็จะมีลักษณะเป็นเลือดออกกระปริยกระปรอย หรือเป็นเลือดสีดำๆได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม อันนี้เป็นแค่สาเหตุที่พบส่วนใหญ่นะคะ การจะรู้ได้แน่นอน ต้องได้รับการตรวจภายใน ตรวจอัลตราซาวด์ หรือบางรายตรวจเลือดร่วมด้วย เพื่อหาสาเหตุก่อนค่ะ และรักษาตามสาเหตุ
บางสาเหตุ อย่างไข่ไม่ตกเรื้อรัง ใช้การรักษาด้วยยาฮอร์โมนได้ค่ะ แต่บางสาเหตู อาจต้องตรวจเพิ่มเติม และรักษามากกว่านั้น
เพราะฉะนั้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดค่ะ
อาการของไข่ไม่ตกเรื้อรัง (PCOS) จะประกอบด้วย 1. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ 2. มีสิว หน้ามัน ขนดก 3. อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด พบถุงน้ำ ขนาดเล็กๆ ปริมาณมากที่รังไข่ จะวินิจฉัยภาวะนี้ เมื่อมีอาการ 2 ใน 3 ข้อนี้
ไข่ไม่ตกเรื้อรัง ใช้การรักษาด้วยยาปรับฮอร์โมนได้ค่ะ แต่ถ้าหยุดยา ก็มักจะกลับมามีอาการเหมือนเดิม
การปฏิบัติตัว เพื่อให้กลับมาไข่ตกได้ ก็ประกอบด้วย การลดน้ำหนัก ในคนที่มีน้ำหนักเกิน ออกกำลังกาย บางคนพอ น้ำหนักลด ก็สามารถกลับมาไข่ตกปกติ ประจำเดือนสม่ำเสมอ สามารถหยุดยาได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
เรื่องประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ถ้าไม่มีความเสี่ยงตั้งครรภ์ นั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีปัญหาการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
- รังไข่ผิดปกติ เช่น การมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่
- ฮอร์โมนในเลือดผิดปกติ
- ความเครียด/วิตกกังวล/อารมณ์แปรปรวน
- การออกกำลังกายที่หนักเกินไป
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
เป็นต้นครับ
ส่วนเรื่อง ตกขาว ปกติทั่วไป จะมีสีขาวใส และไม่มีกลิ่นครับ
ตกขาวที่มีสีหรือกลิ่น หรือมีเลือดปน มักเป็นตกขาวที่ผิดปกติครับ ซึ่งเกิดได้จากหลายอย่างครับ เช่น
- ตกขาวสีขาว เป็นก้อนเปียก มีกลิ่น คล้ายนมบูด และคัน อาจจะเกิดจากเชื้อราได้
- ตกขาวสีขาวปนเทา กลิ่นคล้ายคาวปลา อาจจะเกิดจากการสวดล้างช่องคลอด ทำให้แบคทีเรียบริเวณช่องคลอดไม่สมดุลได้ครับ
- ตกขาวสีเขียวปนเทา กลิ่นเหม็น มีฟองมาก และคัน อาจเกิดจากเชื้อปรสิต
-ตกขาวสีเหลือง/เขียว เจ็บ/คันรอบช่องคลอด หรือเจ็บขณะปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากเชื้อหนองในแท้หรือหนองในเทียม
-ตกขาวปนเลือด สามารถเป็นได้จากหลายสาเหตุครับ
เช่น ก่อนประจำเดือนมา อาจเป็นอาการปกติได้ เพราะมีการหลุดลอกของเยื่อยุโพรงมดลูก
, ติดเชื้อในโพรงมดลูก มดลูกอักเสบ หรือเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
เป็นต้นครับ
เบื้องต้น งดสวดล้างช่องคลอด งดมีเพศสัมพันธ์ ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ ไม่ใส่เสื้อผ้าอับชื้น ครับ
ดีที่สุดแนะนำให้ ไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และอาจนำตกขาวไปตรวจเพิ่มเติมเพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีคะ ดิฉันเป็นคนประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้วคะ2-3เดือนจะมา1ครั้งคะ แต่ก็ไม่เคยมีเพศสัมพันคะ แต่เดือนนี้ปวดท้องน้อยคะเหมือนประจำเดือนจะมาแต่ไม่มาคะ แถมมีตกขาวมีกลิ่นด้วย สิวก็เห่อเต็มหน้าคะทั้งที่ดูแลตัวเองปกติ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)