April 23, 2019 07:12
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
"การหลั่งนอก" มีโอกาสตั้งครรภ์ 4 - 22% แต่โดยทั่วไปถือว่าความเสี่ยงจะค่อนไปทางสูง คือ 22% นะคะ หากเทียบกับการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องและไม่รั่วซึม ซึ่งจะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ก็จะเห็นได้ว่าการหลั่งนอกไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์เลยค่ะ
ส่วนยาคุม หากหมายถึง "ยาคุมฉุกเฉิน" ประสิทธิภาพไม่สูงนักนะคะ แม้จะใช้เร็วและครบขนาด ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15%
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ผู้ที่ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติ หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ ซีึ่งประจำเดือนปกติก็ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ
ส่วนเลือดที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน เป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ จะเป็นหยดเลือดซึมหรือเลือดกะปริบกะปรอย อาจพบหรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร
ดังนั้น หากยังไม่ถึงรอบประจำเดือนปกติของผู้ถาม แนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะ
แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ หรือกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ไม่ทราบว่าได้เริ่มรับประทานยาคุมก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ครับ และในปัจจุบันรับประทานยาคุมชนิดใด รับประทานมาถึงเม็ดที่เท่าไหร่แล้ว
การรับประทานยาคุมที่จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้นั้นจะต้องรับประทานก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์และควรรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนเพื่อให้ยาคุมออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยาครับ หรือถ้าเริ่มรับประทานยาช้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะต้องรับประทานยาติดต่อกันนานอย่างน้อย 7 วันก่อนยาจึงจะเริ่มออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ถ้าหากไม่ได้รับประทานตามนี้ยาคุมก็จะยังไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ในช่วงแรกที่รับประทานยาได้ครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่นั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้
แต่การที่ประจำเดือนยังไม่มานั้นก็อาจเป็นผลของการที่ยังรับประทานยาคุมอยู่ได้เช่นกัน เนื่องจากในช่วงนี้ที่รับประทานยาคุมอยู่ประจำเดือนจะมาในช่วงเวลาดังนี้ครับ
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 21 เม็ด ประจำเดือนก็ควรจะมาในช่วงที่เว้นการรับประทานยา 7 วันก่อนเริ่มยาแผงใหม่
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 28 เม็ด ประจำเดือนก็จะมาในช่วงที่รับประทานยาเม็ดแป้ง 4-7 เม็ดสุดท้ายของแผงขึ้นอยู่กับยี่ห้อของยา
ถ้าหากถึงเวลาที่จะต้องเริ่มยาคุมแผงใหม่แล้วประจำเดือนยังไม่มา หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูในตอนเช้าของวันที่จะเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ก่อน ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์จึงรับประทานยาแผงใหม่ต่อไปได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีเพศสัมพันธ์แล้วแต่แตกนอกกินยาคุมแล้วทำไมประจำเดือนไม่มา
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)