September 03, 2019 00:50
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยิ่งกินเร็วเท่าไหร่ หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งดีค่ะ โดยตามหลักการ ให้กินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันยืดหยุ่นให้ถึง 120 ชั่วโมงแล้วค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีไม่เท่า การคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น การกินยาคุมปกติค่ะ (ยาคุมปกติ ถ้ากินถูกวิธี ประสิทธิภาพคุมกำเนิด มากกว่า 95 % แต่คุมฉุกเฉิน อาจจะแค่ประมาณ 80% - 85%
เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ แนะนำใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นเท่านั้น
ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ สูงกว่าระดับธรรมชาติในร่างกาย หลังได้รับไปแล้วจะทำให้รอบเดือนแปรปรวนได้ค่ะ อาจจะบอกยากว่า เมนส์จะมาเมื่อไหร่
และด้วยความที่ฮอร์โมนสูง ก็ทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าถึงรอบเมนส์มาปกติ แล้วเมนส์ยังไม่มา ให้ลองตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ดูค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เเสดงว่ามีสิทท้อง50-50ใช่มั้ยคะ
เเล้วยาคุมเเบบปกติดีกว่ายาคุมฉุกเฉินอย่างนั้นหรือป่าวคะ
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ ถ้ามีเพศสัมพันธ์กันโดยไม่ได้ป้องกัน หรือป้องกันแล้วด้วยถุงยางอนามัยแล้วเกิดถุงยางแตก เบื้องต้นแนะนำว่าควรกินยาคุมฉุกเฉินครับ
ซึ่งการกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้องคือ กินเม็ดแรกให้เร็วที่สุด หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันทันที โดยไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมง และจะต้องกินยาเม็ดที่สองหลังจากกินเม็ดแรกไม่เกิน 12 ชั่วโมง
- การกินยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ดังกล่าวตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาภายใน 24ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด
- หากมีการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังกินยาแต่ละเม็ด ต้องกินยาใหม่ และไม่แนะนำให้กินยาเกิน 4 เม็ด หรือ 2 กล่อง ต่อเดือนครับ
และแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์อีกครั้งเมื่อผ่านไป 14 วันครับ โดยใช้ ปัสสาวะในตอนเช้าในการตรวจครับ จะเชื่อผลได้ 99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ผมกับเเฟนมีอะไรกันครับ วันที่4ตค. ไม่ได้ป้องกันเเต่ปล่อยข้างนอกตลอดครับ มีอะไรกัน5รอบในวันเดียวครับ เวลามีอะไรกัน้สร็จเเต่ละครั้ง ผญ.จะใช้ปากทำความสะอาดครับ เเล้วก็มีอะไรกันต่อ จนครบ5รอบ ตอนนี้เครียดมากครับทั้งผมเเละผ่าย ผญ ควรทำยังดีครับ ขอคำเเนะนำหน่อยครับ จะท้องหรือป่าวครับ ผมอายุ16 ผญ.อายุ14
ผมกับเเฟนมีอะไรกันครับ วันที่4ตค. ไม่ได้ป้องกันเเต่ปล่อยข้างนอกตลอดครับ มีอะไรกัน5รอบในวันเดียวครับ เวลามีอะไรกัน้สร็จเเต่ละครั้ง ผญ.จะใช้ปากทำความสะอาดครับ เเล้วก็มีอะไรกันต่อ จนครบ5รอบ ตอนนี้เครียดมากครับทั้งผมเเละผ่าย ผญ ควรทำยังดีครับ ขอคำเเนะนำหน่อยครับ จะท้องหรือป่าวครับ ผมอายุ16 ผญ.อายุ14
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หนูอายุ14คะหนูมีอะไรกับเเฟนรุ่นเดียวกันเเต่ตอนที่มีอะไรกันเเฟนหนูได้ใส่ถุงยางเเต่แฟนหนูไมรุ้ว่าถุงยางแตกหรือป่าว่หนูกับเเฟนมีเพศสัมพันธ์กันเมื่อวันเสาร์ที่31ส.คที่ผ่านมาหนูไม่มั่นใจว่าถุงยางเเตกหรือป่าวหนูเลยซื้อยาคุมมากินตอนวันอาทิตย์ที่1ก.ยที่ผ่านมาหนูกินยาคุมหลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาน15-20ชั่วโมงเเต่พอรุ่งอีกวันหนึ่งหนูมีเลือดออกทางช้องคลอดมาเหมือนประจำเดือนปกติมีอาการปวดท้องเล้กน้อยเหมือนคนเป้นประจำเดือนปกติคือตอนนี้หนูอยากทราบว่าหนูจะท้องมั้ยคะเพราะหนูกับเเฟนไม่มั่นใจว่าถุงยางเเตกหรือป่าวเเต่เเฟนหนูเขามั่งใจว่าไม่เเตกเเน่นอนเเต่หลังจากมีเพศสัมพันธ์เเฟนหนูได้หรั่งนำอาสุจิเข้าในช้องคลอดของหนูเเต่หนูไม่เเน่ใจว่าถุงยางเเตกหรือป่าวหนูอยากรุ้ว่ากินยาคุมไปเเล้วเเล้วเลือดออกเเบบนี้จะมีโอกาศท้องหรือป่าวคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)