November 08, 2019 01:51
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามานั้นหมอคิดว่ายังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงครับ เนื่องการการรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะสามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้เพียง 75-85% เท่านั้น และหลังจากนั้นถ้าหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันอีกก็จะไม่มีผลป้องกันการตั้งครรภ์จากยาคุมฉุกเฉินแล้ว ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นก็อาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ
ส่วนการฉีดยาคุมครั้งแรกที่ไม่ได้ฉีดภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือนนั้นก็จะต้องเว้นการมีเพศสัมพันธ์ให้ได้อย่างน้อย 7 วันหลังฉีดยาคุมเพื่อให้ยาคุมออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างเต็มที่ก่อน ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์ไปในช่วง 7 วันแรกของการฉีดยาคุมโอกาสตั้งครรภ์ก็จะไม่ได้แตกต่างๆไปจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ฉีดยาคุมครับ
ในกรณีนี้จึงควรวดการมีเพศสัมพันธ์และลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สอบถามค่ะ หนูอายุ 19 ปี ประจำเดือนครั้งล่าสุดมาเมื่อ 17 - 23 ตุลา แล้ววันที่ 24 หนูมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก แบบไม่ได้ป้องกัน และกินยาคุมฉุกเฉินไป และวันต่อมาก็มีเพศสัมพันธ์อีก และมีมาเรื่อยๆจนถึงวันที่ 28 ตุลา - 1 พฤศจิ หนูมีเลือดคล้ายประจำเดือนแต่เป็นสีน้ำตาลๆค่ะ วันที่ 4 หนูเลยไปฉีดยาคุมแบบ 3 เดือน และพยาบาลบอกว่าจะไม่มีประจำเดือน และช่วงวันที่ 4 - 6 หนูก็มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันอีก แต่ทุกครั้งแฟนหลั่งนอกหมดเลยนะคะ ตอนนี้กังวลมากเลยค่ะว่าจะท้อง หากรอประจำเดือนแล้วไม่มาตามพยาบาลบอก เราจะรู้ได้ไงว่าท้องหรือไม่ท้อง แล้วถ้าซื้อที่ตรวจครรภ์มาจะนับจากเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 14 วันหรือสามารถซื้อมาตรวจได้เลยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)