November 07, 2019 18:57
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การที่ประจำเดือนจะมาหรือไม่มาในช่วงที่หยุดรับประทานยาคุม จะขึ้นกับฮอร์โมนตามธรรมชาติในร่างกายผู้ถามเองนะคะ ไม่ได้เป็นผลจากยาคุมที่เคยใช้ค่ะ
ซึ่งแม้จะไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาแล้ว แต่ถ้าแฟนของผู้ถามใช้ถุงยางถูกต้อง และตรวจสอบจนมั่นใจแล้วว่าไม่มีการรั่วซึมหรือฉีกขาด ก็มีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ
แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ และกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ค่ะ
ซึ่งถ้าผู้ถามใช้ชุดทดสอบถูกวิธีตามที่ระบุไว้ในฉลาก และตรวจในเวลาที่เหมาะสม นั่นคือ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน เมื่อได้ผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด ก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ว่าไม่มีการตั้งครรภ์นะคะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ถามไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปทั้งที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือถ้ามีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่เรื่อย ๆ ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
กินยาคุมเป็นเวลา4เดือน(ปลายก.พ.-กค.) แล้วหยุดกิน หลังจากนั้นประจำเดือนก็มาไม่ปกติเหมือนตอนกินยา เมื่อ12ตค.มีอะไรกับแฟนแบบป้องกัน แต่ประจำเดือนก็ยังไม่มา(ประจำเดือนครั้งล่าสุด5ก.ย.) แล้วประมาณวันที่12-13 มีเหมือนประจำเดือนเเต่น้อยมากๆ แทบจะเป็นจุดๆ มาสองวันก้หายไป เมื่อตรวจการตั้งครรภ์2ครั้ง คือ วันที่14และ20หลังที่มีอะไรกับแฟน ก็ไม่ได้ท้องนะคะ การตรวจครรภ์แบบนี้แน่นอนรึยังคะ (แต่เช็คถุงยางแล้วก้ไม่ได้รั่วอะไร) แล้วยาคุมที่กินไปเป็นเวลา4เดือน มีผลให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)