แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากมีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย นอกจากนั้นงานวิจัยยังพบความเชื่อมโยงระหว่างแอปเปิ้ลกับประโยชน์ด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานอีกด้วย
โภชนาการของแอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลลูกเล็ก (ขนาดประมาณลูกเทนนิส) ให้พลังงาน 77 แคลอรี มีคาร์โบไฮเดรต 21 กรัมและมีเส้นใยอาหาร 4 กรัม นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี และมีวิตามินและเกลือแร่อื่น ๆ อีกด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แอปเปิ้ลมีเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำในปริมาณมาก ซึ่งเส้นใยชนิดนี้จะช่วยให้การดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ (เช่น น้ำตาล) เข้าสู่กระแสเลือดช้าลง และทำให้ระดับ cholesterol ลดลง นอกเหนือจากการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและการทำงานของลำไส้แล้วยังพบว่าเส้นในอาหารมีฤทธิ์ต้านการอักเสบที่อาจจะช่วยผู้ป่วยเบาหวานให้สามารถฟื้นตัวจากการติดเชื้อได้เร็วขึ้น
ปริมาณเส้นใยอาหารที่แนะนำให้รับประทาน คือ 25 กรับในผู้หญิงและ 38 กรัมให้ผู้ชาย แอปเปิ้ลชนิดปอกเปลือกถือเป็นแอปเปิ้ลที่ดี แต่หากรับประทานพร้อมกับเปลือก จะทำให้ได้รับเส้นใยอาหารถึง 4 กรัมหรือคิดเป็น 20% ของปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน
แอปเปิ้ลกับงานวิจัยโรคเบาหวาน
ผลไม้และผักทุกชนิดทำให้มีสุขภาพดีและเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่สำคัญในทุกคน รวมถึงผู้ป่วยโรคเบาหวาน
การศึกษาในปี 2014 ที่ตีพิมพ์ใน BMJ พบว่าการรับประทานผลไม้ทั้งลูก โดยเฉพาะแอปเปิ้ล บลูเบอร์รี่และองุ่น มีความเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และจากการศึกษาเดียวกันพบว่าการรับประทานน้ำผลไม้จะเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
มีการศึกษาบางชิ้นที่ศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานกับน้ำแอปเปิ้ลในหนูทดลอง ในปี 2016 มีการศึกษาซึ่งตีพิมพ์ใน BMC Complementary and Alternative Medicine ระบุว่าหนูที่เป็นเบาหวานซึ่งได้รับน้ำแอปเปิ้ลและเปลือกแอปเปิ้ลสกัดเป็นเวลา 21 วันมีรับน้ำตาลในเลือดและ cholesterol ลดลง
นักวิจัยเชื่อว่าเกิดจากฤทธิ์ต้านการอักเสบและฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระ แอปเปิ้ลมีสาร polyphenol ซึ่งเป็นสารในพืชที่ช่วยป้องกันโรคเรื้อรังได้หลายโรค ในปริมาณที่มาก
นอกจากนี้ ได้มีการทำการศึกษาเกี่ยวกับสาร quercetin ซึ่งเป็นสารประเภทหนึ่งในกลุ่มนี้กับประโยชน์ทางด้านสุขภาพ และในนิตยสาร Pharmacognosy ปี 2015 นักวิจัยพบว่าสาร quercetin จะช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญน้ำตาลในตับและกระดูกจากการศึกษาในหลอดทดลอง
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยเหล่านี้ส่วนมากมักศึกษาจากระบาดวิทยา (การศึกษาโดยการดูแนวโน้มในกลุ่มประชากรจำนวนมาก) หรือมักจะทำการศึกษาในหลอดทดลองหรือในหนู ดังนั้น ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่หลักฐานที่น่าเชื่อถือมากที่สุดแต่ก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อถือได้