Farro
Farro เป็นธัญพืชโบราณที่พบว่ามีการฝังอยู่ภายในสุสานของราชวงศ์อียิปต์ และอาจจะมีประวัติย้อนไปถึงเก่ากว่านั้นในช่วงพื้นที่ราบลุ่มในแถบตะวันออกกลางระหว่างทะเลทรายอาหรับและเทือกเขาอาร์เมเนีย Farro 1 ถ้วยนั้นจะทำให้คุณได้รับธาตุเหล็กถึง 24% ของปริมาณที่ต้องการในแต่ละวัน และยังได้โปรตีนอีก 14 กรัม (ควินัว 1 ถ้วยได้โปรตีน 8 กรัม, เส้นพาสต้าโฮลวีทนั้นให้โปรตีน 7 กรัมและข้ามกล้องให้โปรตีนเพียง 5 กรัม) และหากคุณเลือกรับประทานในแบบที่เป็นโญพืชล้วน จะทำให้คุณได้รับวิตามินบี 3 และสังกะสีเพิ่มขึ้น ให้นำไปแช่น้ำค้างคืนเพื่อลดเวลาในการทำอาหาร (หลังจากแช่น้ำ ให้ตั้งเตาไฟปานกลางค่อนต่ำเป็นเวลา 45 นาที Farro จะนิ่ม) ข้อควรระวัง Farro นั้นไม่ใช่อาหารที่ไม่มีกลูเตน
Indian ricegrass
Indian ricegrass นั้นเป็นธัญพืชที่อยู่ในอาหารของชาวอเมริกันพื้นเมือง และเนื่องจากมีรสชาติคล้ายกับข้าว จึงทำให้มักนำมาใช้เป็นแป้งที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง Indian ricegrass 2/3 ถ้วยนั้นให้โปรตีน 17 กรัมและเส้นใยอาหารอีก 24 กรัมซึ่งเยอะกว่าแป้งโฮลวีทในปริมาณที่เท่ากันซึ่งให้โปรตีนเพียง 10 กรัมและเส้นใยอาหารอีก 10 กรัม คุณไม่จำเป็นต้องใช้แป้งนี้ในการทำอาหารทั้งหมด แต่สามารถสลับมาใช้แป้งนี้แทนแป้งปกติในปริมาณ 15-20% เวลาทำอาหาร
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
Spelt
Spelt เป็นพืชโบราณที่มีการปลูกครั้งแรกตั้งแต่ 6000 ปีก่อนคริสตกาลในอิหร่าน Spelt นั้นมีลักษณะเหมือนข้าวสาลีแต่มีเปลือกที่หนากว่าซึ่งจะช่วยป้องกันสารอาหารที่อยู่ภายใน ทำให้มันมีวิตามินเอ โปรตีนและธาตุเหล็กที่สูงกว่า Spelt 1 ถ้วยนั้นจะให้วิตามินบี 3 5 มิลลิกรัมหรือคิดเป็น 1/3 ของปริมาณที่แนะนำให้แต่ละวัน และยังมีทองแดงและแมกนีเซียมสูงอีกด้วย กลูเตนที่อยู่ใน spelt นั้นมีลักษณะทางโมเลกุลที่แตกต่างจากข้าวสาลีในปัจจุบัน ทำให้มันย่อยง่ายกว่า
Teff
Teff เป็นธัญพืชขนาดเล็ก (มีถึง 3000 เม็ดใน 1 กรัม) ที่มีการใช้ในเอธิโอเปียมาตั้งแต่โบราณ ในปัจจุบัน Teff นั้นสามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์หลายๆ ชนิดตั้งแต่แป้งที่ปราศจากกลูเตนไปจนถึงโจ๊ก Teff ให้โปรตีนมากกว่าข้าวกล้องถึง 50% และเส้นใยอาหารมากกว่าถึง 5 เท่า และยังเพิ่มรสชาติคล้ายๆ กับเฮเซลนัทให้กับอาหารของคุณอีกด้วย
Fonio
Fonio เป็นซีเรียลที่เก่าแก่ที่สุดของแอฟริกาซึ่งอุดมไปด้วยกรดอะมิโนแต่มีน้ำตาลต่ำ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน Fonio ยังสามารถย่อยได้ง่ายและมีกรดอะมิโนที่ดีเช่น cysteine และ methionine ซึ่งพบได้ไม่บ่อยนักในธัญพืชในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งของกำมะถันซึ่งมีบทบาทสำคัญในโมเลกุลของโปรตีนในร่างกาย
Millet
Millet เป็นธัญพืชขนาดเล็กที่อยู่ในอาหารของชาว Hunza เผ่าพื้นเมืองบนเทือกเขาหิมาลัยซึ่งรู้จักกันในแง่ของการมีอายุยืนยาว Millet นั้นมีโปรตีนประมาณ 15% และยังมีน้ำตาลต่ำซึ่งทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำตาลในเลือด มีงานวิจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานพบว่าการทานอาหารเช้าที่มี Millet เป็นหลักนั้นสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลกลูโคสหลังมื้ออาหารได้มากกว่าการทานอาหารเช้าที่มีข้าวเป็นหลัก นอกจากนั้นมันยังมีแมกนีเซียมในระดับที่สูงซึ่งอาจจะช่วยลดความดันโลหิตและความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดฉับพลันได้
Khorasan (Kamut)
Khorasan นั้นเป็นที่รู้จักกันในแง่ของข้าวที่ให้พลังงานสูง มันมีขาดใหญ่เป็น 2 เท่าของข้าวสาลีที่รับประทานกันตามปกติ และมีโปรตีนเพิ่มขึ้น 20-40% มันยังมีสารอาหารต่างๆ เช่นกรดอะมิโน วิตามิน แร่ธาตุและไขมันอีกด้วย งานวิจัยหนึ่งพบว่าผู้ที่รับประทาน Khorasan นั้นมีระดับ cholesterol ในเลือดลดลงและมีแร่ธาตุต่างๆ เช่นโพแทสเซียมและแมกนีเซียมสูงขึ้น