โรคหลอดเลือดแดงใหญ่ส่วนท้องโป่งพอง (Abdominal Aortic Aneurysm (AAA)) คืออาการโป่งพอง (Aneurysm) ของหลอดเลือดแดงใหญ่ aorta หลอดเลือดหลักที่นำเลือดออกจากหัวใจผ่านลงไปยังช่องท้องและจ่ายให้กับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
หลอดเลือด Aorta ส่วนท้องเป็นหลอดเลือดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของร่างกาย โดยมีความกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ซึ่งมีขนาดพอ ๆ กับสายยางรดน้ำต้นไม้ และสามารถขยายใหญ่ขึ้นได้จนมีขนาดมากกว่า 5.5 เซนติเมตร
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ภาวะโป่งพองขนาดใหญ่ของ Aorta จัดว่าหายากและมีความร้ายแรงมาก เนื่องจากหากหลอดเลือดที่โป่งพองนั้นฉีกตัวออก จะทำให้เกิดภาวะตกเลือดภายในปริมาณมากจนอาจถึงชีวิตได้
ภาวะ AAA มักเกิดขึ้นกับผู้ชายอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป และคนในกลุ่มนี้ยังมีสถิติการเสียชีวิตจากการฉีกขาดของหลอดเลือดแดงประมาณ 1 ใน 50 คนอีกด้วย ด้วยเหตุนี่ทำให้ผู้ชายทุกคนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการทดสอบคัดกรองการเกิดภาวะ AAA ด้วยการอัลตราซาวด์
อาการของโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ส่วนท้องโป่งพอง
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ส่วนท้องโป่งพอง (AAA) ส่วนมากจะไม่แสดงอาการที่ชัดเจนออกมา เว้นแต่หลอดเลือดมีขนาดใหญ่มาก ก็อาจทำให้ผู้ป่วยบางรายมีอาการเจ็บปวด รู้สึกปวดตุบ ๆ ในท้อง หรือมีอาการปวดหลังเรื้อรังได้
หากภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่จนฉีกขาด ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกเจ็บปวดภายในหรือสีข้างของช่องท้องอย่างรุนแรงและกะทันหัน ในผู้ป่วยชายอาจพบความเจ็บปวดในถุงอัณฑะด้วย
อาการอื่น ๆ ของภาวะหลอดเลือดแดงฉีกขาด ได้แก่
- วิงเวียน
- เหงื่อออกและผิวเย็น
- หัวใจเต้นเร็ว (Tachycardia)
- หายใจลำบาก
- รู้สึกหมดแรง
- หมดสติ
การฉีกขาดจากภาวะหลอดเลือดแดงโป่งพอง เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เพราะอาจทำให้มีเลือดออกภายในปริมาณมากจนทำให้เสียชีวิต โดยผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดแดงฉีกขาด 80% เสียชีวิตก่อนไปถึงโรงพยาบาล และไม่รอดชีวิตจากการผ่าตัดรักษา
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สาเหตุของโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ส่วนท้องโป่งพอง
ภาวะหลอดเลือดแดงในส่วนท้องโป่งพอง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อผนังหลอดเลือด Aorta บางส่วนเกิดอ่อนตัวลงจนทำให้เลือดปริมาณมากที่ไหลผ่านบริเวณนั้นสร้างแรงดันขึ้นบนจุดอ่อนแอ ทำให้เกิดการบวมหรือโป่งพองออก
ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ผนังหลอดเลือด Aorta เกิดอ่อนตัวลง แต่ก็มีข้อมูลว่าปัจจัยต่อไปนี้ อาจเป็นสิ่งที่เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะนี้ขึ้น
- การสูบบุหรี่ : จากงานวิจัยพบว่า ผู้สูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงเกิด AAA มากกว่าคนปกติถึง 7 เท่า ยิ่งสูบบุหรี่มากเท่าใด ความเสี่ยงต่อภาวะนี้จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เพราะควันบุหรี่ประกอบด้วยสารอันตรายที่สามารถทำให้ผนังหลอดเลือดแดงอ่อนตัวลงได้
- ภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis) : คือภาวะที่มีความร้ายแรงที่ซึ่งหลอดเลือดแดงเกิดการอุดตันจากไขมันจำพวกคอเลสเตอรอลสะสม ทำให้หลอดเลือด Aorta ต้องขยายใหญ่ขึ้นเพื่อทำให้เลือดไหลผ่านไปได้ จึงส่งผลให้หลอดเลือดอ่อนตัวลง
- ความดันโลหิตสูง (High Blood Pressure (Hypertension)) : ส่งผลต่อทั้งการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง และการเพิ่มขึ้นของแรงดันบนผนังหลอดเลือด Aorta
- กรรมพันธุ์ : หากคนครอบครัวมีประวัติเคยเป็นโรค AAA อาจทำให้คุณมีความเสี่ยงต่อภาวะนี้ขึ้นโดยปริยาย
การวินิจฉัยโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ส่วนท้องโป่งพอง
เนื่องจากภาวะ AAA มักไม่ทำให้เกิดอาการใด ๆ แพทย์จึงมักตรวจพบภาวะนี้จากการตรวจคัดกรองหรือระหว่างการตรวจร่างกายตามปรกติ เว้นแต่แพทย์จะสังเกตเห็นการกระตุกเล็กน้อยตามชีพจรในช่องท้องของคุณ
การรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ส่วนท้องโป่งพอง
การรักษาภาวะหลอดเลือดแดงส่วนท้องโป่งพอง (abdominal aortic aneurysm (AAA)) ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- ขนาดของหลอดเลือดแดงที่โป่งพอง
- อายุของคนไข้
- สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
หากมีการตรวจพบ AAA ขนาดใหญ่กว่า 5.5 เซนติเมตรขึ้นไป ก่อนการฉีกขาด ผู้ป่วยส่วนมากจะถูกแนะนำให้รักษาโดยการผ่าตัดเปลี่ยนส่วนของหลอดเลือดที่อ่อนตัวออกเป็นท่อสังเคราะห์แทน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- การผ่าตัดสอดกล้องหลอดเลือด (Endovascular Surgery) : ศัลยแพทย์จะกรีดเปิดขาหนีบของคุณและสอดท่อโลหะชนิดพิเศษเข้าไปในหลอดเลือดแดงที่ขาเพื่อไปดามส่วนของ Aorta ที่พองตัวออกก่อนผนึกผนังของ Aorta ที่ปลายทั้งสองด้านการทำเช่นนี้จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้ Aorta และลดความเสี่ยงต่อการฉีกขาดลง
- การผ่าตัดแบบเปิด (Open Surgery) : ศัลยแพทย์จะทำการกรีดเปิดหน้าท้องของคุณ และเปลี่ยนหลอดเลือดด้วยการดามหลอดเลือดด้วยท่อที่ผลิตมาจากวัสดุสังเคราะห์ที่สามารถใช้งานได้ตลอดชีวิต
การผ่าตัดด้วยการสอดกล้องหลอดเลือด อาจมีความมั่นคงไม่เท่าการผ่าตัดแบบเปิด แต่ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า และมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด
แต่ถ้าหากคุณมีภาวะหลอดเลือดโป่งพองขนาดเล็ก (3.0-4.4 เซนติเมตร) หรือปานกลาง (4.5-5.4 เซนติเมตร) แพทย์จะแนะนำให้คุณเข้ารับการสแกนขนาดหลอดเลือดเป็นประจำเพื่อติดตามอาการ
ส่วนการรักษาฉุกเฉินสำหรับภาวะ AAA ที่เกิดการฉีกขาด จะใช้แนวทางเดียวกันกับการรักษาแบบที่ยังไม่ฉีกขาด คือการใช้ท่อดามเข้าไปซ่อมแซมหลอดเลือด ส่วนการตัดสินใจว่าจะดำเนินการผ่าตัดแบบเปิดหรือสอดกล้อง ขึ้นอยู่กับความชำนาญของศัลยแพทย์ที่ดำเนินการผ่าตัด
การป้องกันโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ส่วนท้องโป่งพอง
วิธีป้องกันการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงโป่งพอง คือการลดความเสี่ยงที่จะทำให้หลอดเลือดแดงโป่งพองใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจนทำให้ฉีกขาดที่ ด้วยวิธีการต่อไปนี้
- งดสูบบุหรี่
- งดรับประทานอาหารไขมันสูง
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ