หลายคนในที่นี้น่าจะเคยมีประสบการณ์เดินชนขอบโต๊ะหรือสะดุดล้ม ซึ่งคุณจะพบว่ามีรอยช้ำเกิดขึ้นที่ผิว ทั้งนี้รอยช้ำเกิดจากการที่เส้นเลือดใต้พื้นผิวบาดเจ็บเล็กน้อย แต่หากเส้นเลือดเหล่านี้เสียหาย มันก็สามารถทำให้เลือดไหลออกมา และทำให้ผิวบริเวณที่บาดเจ็บมีสีน้ำเงิน สีดำ หรือสีม่วง อย่างไรก็ตาม หากคุณสังเกตว่ามีรอยฟกช้ำเกิดขึ้นอย่างง่ายดายทั้งๆ ที่คุณเดินชนแค่เบาๆ หรือรอยช้ำเกิดขึ้นเองโดยไม่ทราบสาเหตุ วันนี้เราจะพาคุณไปดูหลากสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
1.คุณทานอาหารเสริมบางชนิด
อาหารเสริมบางชนิดอาจทำให้เกิดรอยช้ำที่ไม่ทราบสาเหตุ ตัวอย่างเช่น ฟีเวอร์ฟิว กระเทียม ขิง แปะก๊วย โสม กรดไขมันโอเมก้า-3 ซอว์ปาล์มเมตโต้ วิตามินอี ฯลฯ ถ้าจะให้ดีคุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานอาหารเสริม เพราะในบางครั้งอาหารเสริมที่คุณทานก็สามารถทำปฏิกิริยากับยาที่แพทย์สั่งจ่าย และมันอาจเป็นอาหารเสริมที่ไม่ปลอดภัย
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
2.เป็นผู้หญิง
ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเกิดรอยช้ำง่ายกว่าผู้ชาย เพราะผู้ชายมีผิวหนา และมีคอลลาเจนมากกว่า ซึ่งมันจะยึดเกาะเส้นเลือดใต้ผิวได้อย่างปลอดภัยมากกว่า และป้องกันเส้นเลือดไม่ให้บาดเจ็บ นอกจากนี้เอสโตรเจนยังมีส่วนทำให้เกิดรอยช้ำที่ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าฮอร์โมนชนิดนี้ป้องกันการสร้างผนังของเส้นเลือด และทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งหมายความว่ามันทำให้เส้นเลือดเปิดออก หากมีการบาดเจ็บ มันก็จะทำให้เลือดไหลออกมา
3.คุณแก่ขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวของเราก็จะบางลง และเส้นเลือดก็จะเปราะมากขึ้น ซึ่งทั้งสองสาเหตุนี้ทำให้คุณเสี่ยงต่อการมีรอยช้ำที่ไม่ทราบสาเหตุ เมื่อผิวบางลง คุณก็จะสูญเสียไขมันและคอลลาเจน ซึ่งช่วยปกป้องเส้นเลือดของคุณ และเส้นเลือดก็จะสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายมากขึ้น
4.ทานยาเจือจางเลือด
หากคุณกำลังอยู่ในช่วงทานยาเจือจางเลือดเพื่อรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือการแข็งตัวของเลือด มันก็สามารถทำให้เกิดรอยช้ำที่ไม่ทราบสาเหตุ นอกจากนี้การทานยาชนิดอื่นที่มีฤทธิ์ทำให้เลือดจางอย่างไอบูโพรเฟนหรือแอสไพรินก็สามารถทำให้เกิดรอยช้ำเช่นกัน
5.เป็นโรคเลือด
โรคเลือดไหลไม่หยุดและโรควอนวิลลิแบรนด์ล้วนแต่เป็นโรคเลือดที่สามารถทำให้เกิดรอยช้ำอย่างง่ายดาย ทั้งนี้โรคเลือดไหลไม่หยุดเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อย ซึ่งสามารถส่งผลต่อความสามารถในการแข็งตัวของเลือด ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการมีเลือดออกอย่างรุนแรงแม้ว่าจะบาดเจ็บเพียงแค่เล็กน้อย ในขณะที่โรควอนวิลลิแบรนด์เป็นโรคที่มีความรุนแรงน้อยกว่า ซึ่งผู้ป่วยมักมีเลือดออกในระหว่างที่ทำฟัน เลือดกำเดาไหลนาน มีเลือดในปัสสาวะหรืออุจจาระ และมีประจำเดือนมากกว่าปกติ
6.ทานยารักษาโรคซึมเศร้า
หากคุณกำลังอยู่ในช่วงรักษาโรคซึมเศร้า คุณอาจพบว่ามีรอยฟกช้ำเกิดขึ้นง่ายกว่าปกติ ซึ่งมีงานวิจัยพบว่า ยารักษาโรคซึมเศร้ากลุ่ม SSRIs อย่างฟลูอ็อกเซทีน เซอร์ทราลีน ไซตาโลแพรม และยาบูโพรพิออน สามารถมีผลต่อเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการแข็งตัวของเลือด
7.ขาดวิตามินบางชนิด
การขาดวิตามินซีและวิตามินเคสามารถทำให้เกิดรอยช้ำที่ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งภาวะดังกล่าวมักพบได้ในประเทศที่ยังไม่พัฒนา หรือประเทศที่ประชากรต้องเผชิญกับความแร้นแค้น หากคุณทานอาหารที่มีสารอาหารเหล่านี้เป็นประจำ คุณก็ตัดสาเหตุข้อนี้ไปได้เลย
อย่างไรก็ตาม กว่าที่รอยช้ำจะหายนั้นต้องใช้เวลานานประมาณ 2 อาทิตย์ หลังจากเกิดรอยช้ำไม่กี่วัน สีของรอยช้ำก็จะเริ่มเปลี่ยนจากสีน้ำเงิน สีดำ หรือสีม่วง เป็นสีเขียวหรือสีเหลือง และอาการบวมก็จะลดลง สำหรับวิธีที่ช่วยให้รอยช้ำหายเร็วขึ้นคือ หลังจากที่หัวเข่าหรือข้อศอกของคุณไปกระแทกกับสิ่งใดก็ตาม ให้คุณนำ Ice Pack มาประคบบริเวณที่มีปัญหาประมาณ 10 นาที เป็นจำนวนหลายครั้งต่อวัน ซึ่งมันจะช่วยให้เส้นเลือดหดตัว ส่งผลให้ชะลอการเกิดรอยช้ำสีม่วงตั้งแต่ต้น
ที่มา: https://www.prevention.com/hea...