เมื่อคุณเป็นมือใหม่หัดเล่นโยคะ คุณอาจมีคำถามมากมายเกี่ยวกับว่าคุณจะต้องทำอะไรบ้าง ทั้งเรื่องเสื้อผ้าที่เหมาะสม สิ่งที่ควรนำไปฝึกด้วย และการเตรียมตัว การรู้ว่าต้องพบกับอะไรบ้างและได้เตรียมตัวล่วงหน้าจะทำให้คุณสบายใจขึ้น ต่อไปนี้เป็น 4 เคล็ดลับก่อนการเล่นโยคะ ได้แก่ เสื้อผ้าที่ควรสวม สิ่งที่ควรนำไปฝึกด้วย การเตรียมตัวสำหรับการฝึก และเคล็ดลับพื้นฐานสำหรับการฝึก
หวังว่าการได้รู้สิ่งเหล่านี้จะสร้างความแตกต่างสำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่า พวกเขาพร้อมสำหรับการฝึกโยคะหรือยัง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
1. จะสวมอะไรดี
รองเท้า: ส่วนใหญ่แล้วโยคะจะฝึกเท้าเปล่า บางครั้งคุณอาจเห็นคนที่สวมถุงเท้าหรือรองเท้า แต่นั่นมักเป็นเพราะอาการบาดเจ็บหรือภาวะทางสุขภาพ นี่เป็นข่าวดีต้อนรับผู้ที่เบื่อการหิ้วรองเท้าอีกคู่ไปโรงยิมเลยทีเดียว
กางเกง: กางเกงโยคะมีหลายแบบ แต่คุณไม่จำเป็นจะต้องรีบออกไปซื้อกางเกงใหม่ก่อนที่จะเริ่มฝึก กางเกงกีฬาไม่ว่าจะขาสั้นหรือขายาวที่สวมสบายก็สามารถใช้ได้ หลังจากฝึกเสร็จ คุณอาจรู้สึกว่าอยากให้กางเกงที่สวมอยู่สั้นลง ยาวขึ้น หลวมกว่านี้ เอวสูงกว่านี้ หรือไม่เลื่อนลงมาทุกครั้งที่คุณยืดตัว เมื่อถึงตอนนั้นจึงเป็นเวลาที่เหมาะสมต่อการไปซื้อกางเกงที่ว่า หลีกเลี่ยงการสวมกางเกงที่ไม่ใช่ผ้ายืดขณะที่ฝึก เช่น กางเกงยีนส์
เสื้อ: เสื้อที่พอดีตัวซักหน่อยจะดีที่สุด
เสื้อยืดคอกลมตัวใหญ่โคร่งนั้นไม่ดีนัก เนื่องจากมันจะเลื่อนลงมาทุกครั้งที่คุณก้มตัว และคุณก็ต้องก้มตัวหลายครั้งในตอนเล่นโยคะ เสื้อไม่มีแขนได้รับความนิยมเพราะทำให้เคลื่อนไหวไหล่และแขนได้อย่างอิสระ สำหรับเสื้อชั้นใน คุณจะสวมเสื้อชั้นในชนิดใดก็ได้ที่คุณชอบใช้ขณะออกกำลังกาย
โยคะร้อน: หากคุณทำลังจะฝึกโยคะร้อน (Bikram) มีบางสิ่งที่คุณต้องคำนึงเป็นพิเศษ (อ่านรายละเอียดเฉพาะเพิ่มเติมได้ในบทความ เสื้อผ้าสำหรับโยคะร้อน)
2. สิ่งที่ควรนำไปด้วย
เสื่อ: หากคุณฝึกเป็นครั้งแรก ไม่ต้องกังวลเรื่องการนำเสื่อไปด้วยหากคุณยังไม่มี โดยมากที่ฝึกโยคะส่วนใหญ่จะมีเสื่อให้เช่า หากคุณยังไปฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ หรือต้องการฝึกที่บ้าน คุณถึงจะต้องการลงทุนซื้อเสื่อเป็นของตนเอง มีคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับเสื่อที่น่าจะเหมาะสมกับคุณ โดยเราได้ทำตารางเปรียบเทียบไว้ช่วยให้คุณตัดสินใจแล้ว
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขวดน้ำ: หากคุณกำลังจะไปฝึกโยคะร้อน คุณจะพบว่าแทบทุกคนเอาขวดน้ำติดไปด้วย สำหรับโยคะประเภทอื่น ๆ คุณอาจรอจนการฝึกเสร็จสิ้นก่อนจะดื่มน้ำ
ผ้าเช็ดตัว: หากคุณเหงื่อออกมาก หรือกำลังจะลองฝึกโยคะร้อน ผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ ก็เป็นสิ่งที่คุณควรนำติดตัวไปด้วย
อุปกรณ์เสริม: ถึงแม้ว่าฉันจะชอบมัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วไม่จำเป็นที่จะต้องมีเป็นของตัวเองในตอนแรก สถานที่ฝึกมักจะมีบล็อก ผ้าห่มคลุม และเชือกโยคะให้อยู่แล้ว ซึ่งครูผู้ฝึกมักจะบอกว่าจะใช้อุปกรณ์เสริมอะไรสำหรับการฝึกวันนั้น ซึ่งหากครูไม่ได้บอก ฉันก็อยากจะใช้บล็อกและผ้าห่มอยู่ดี
3. จะเตรียมตัวอย่างไร
อาหาร: จะเป็นการดีที่สุดถ้าจะไม่กินอาหารมื้อใหญ่ก่อนเล่นโยคะ เพราะเมื่อคุณเริ่มเคลื่อนไหว ทุกอย่างจะพุ่งย้อนขึ้นมาและคุณจะรู้สึกผะอืดผะอมถ้ากระเพาะคุณแน่นเกินไป คุณอาจกินของว่างเบา ๆ ซักหนึ่งถึงสองชั่วโมงก่อนฝึกได้ โดยยังรู้สึกเป็นปกติดี
การอบอุ่นร่างกาย: หากคุณเพิ่งเริ่มฝึก ให้ลองทำท่าอบอุ่นร่างกาย ซึ่งจะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับการฝึกและทำให้ดูเหมือนคุณรู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป คุณสามารถจะแค่นอนหงายราบ หรือนั่งไขว้ขาบนเสื่อของคุณ ซึ่งจะทำให้คุณดูสงบ
4. เคล็ดลับในการฝึก
ท่าทาง: ไม่ว่าคุณจะฝึกในชั้นเรียนหรือจาก DVD ให้สังเกตท่าทางของผู้สอนให้ดี ซึ่งเป็นแนวทางในการจัดท่าที่ถูกต้อง การจัดท่าทางที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ประโยชน์จากแต่ละท่าอย่างเต็มที่ และลดโอกาสการบาดเจ็บอีกด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ดูและฟัง: หากคุณฝึกท่าเหล่านี้เป็นครั้งแรก มันไม่เป็นอะไรหรอกถ้าคุณจะมองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อดูว่าคนอื่นทำอะไรกัน แต่ให้ดูผู้สอนเป็นหลัก คอยฟังคำพูดของผู้สอนว่าจะทำท่าเหล่านั้นอย่างไรด้วย
มองในแง่บวกไว้: อย่ารู้สึกแย่ถ้าผู้สอนแก้ท่าทางของคุณ การสอนโดยตรงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะเรียนท่าให้ดี พยายามอย่าเคร่งเครียดกับการเปรียบเทียบตัวเองกับสิ่งที่คนอื่นกำลังทำ เพราะทุกคนไม่ได้อยู่ที่ระดับเดียวกันหมด ทำใจสบาย ๆ และมีอารมณ์ขัน หัวเราะถ้าคุณทำท่านั้นพลาด ยิ้มไว้แม้มันจะยาก ขอให้สนุกนะ
เชื่อในการตัดสินใจของคุณ: จำไว้ว่าการฝึกฝนเป็นกระบวนการเฉพาะบุคคล ไม่มีใครแฝงตัวอยู่ในร่างของคุณ ดังนั้นจึงควรเชื่อการตัดสินใจของตัวเองว่าคุณทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเรียนรู้การแยกแยะระหว่างสิ่งที่คุณกลัวหรือคิดว่าทำไม่ได้จากสิ่งที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดและอาจจะเป็นอันตรายสำหรับคุณ ไม่ต้องรีบฝึกท่าใดท่าหนึ่งให้สำเร็จ ฟังร่างกายของคุณเอง และเอาใจใส่ในสิ่งที่ร่างกายบอกว่าควรจะฝึกอย่างไร
ถามคำถาม: บางทีแล้ว เคล็ดลับที่สำคัญที่สุดก็คือการถามเมื่อคุณไม่เข้าใจ ผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่ามักจะเต็มใจแลกเปลี่ยนประสบการณ์หากคำถามนั้นเกี่ยวกับธรรมเนียมหรือมารยาทในการฝึกโยคะ สำหรับคำถามเกี่ยวกับท่าการฝึกเฉพาะต่างๆนั้น ควรถามผู้สอนจึงจะเป็นการดีที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกห้องเรียนก็ตาม