กระบวนการฝึกกาย จิตใจ และจิตวิญญาณให้สอดผสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ด้วยท่าทางการฝึกทางกายอย่างช้าๆพร้อมกับการฝึกทางใจที่จดจ่อกับการทำลมหายใจเข้าออกให้จิตสงบนิ่งไปด้วย นั่นคือการเล่นโยคะที่เป็นการออกกำลังกายทั้งศาสตร์และศิลป์ที่มีมาอย่างช้านาน
ประเภทของโยคะ
- หฐโยคะ (Hatha Yoga) เป็นการฝึกบริหารร่างกายให้อยู่ภายใต้การควบคุมของจิตใจ โดยเน้นการยืดหยุ่นที่ร่างกายไปพร้อมๆ กับการกำหนดลมหายใจ ทำให้มีพลังสมดุลทั้งด้านบวกและลบ เน้นการผ่อนคลาย เหมาะกับผู้ที่ไม่เคยฝึกก็สามารถทำได้
- วินยาสะโยคะ (Vinyasa Yoga) เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง และจะทำควบคู่กับการกำหนดลมหายใจช้าๆ อย่างนุ่มนวล จากท่าหนึ่งไปยังอีกท่าหนึ่ง เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีความกระชับ ลดความเครียด และมีสมาธิ แต่ควรฝึกแบบหฐโยคะมาแล้วระยะหนึ่ง
- อัษฎางค์โยคะ (Astanga Yoga) เป็นการฝึกร่างกายและลมหายใจร่วมกับการกำหนดจุดมองของสายตาด้วย ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวแบบควบคุมลมหายใจ โดยในแต่ละท่าทางจะมีความต่อเนื่องกัน เหมาะกับผู้ที่ชอบเล่นท่าโยคะยากๆ แต่มีข้อแตกต่างคือวินยาสะโยคะจะมีการเปลี่ยนแปลงท่าไปเรื่อยๆ ในขณะที่อัษฎางค์โยคะจะมีท่าที่เหมือนเดิม
- อนุสราโยคะ (Anusara Yoga) เป็นการฝึกโยคะที่ได้ใช้ทุกส่วนในร่างกาย มีจุดมุ่งหมายเพื่อการรักษาโรค โดยเริ่มจากจิตใจออกมาสู่ร่างกาย ด้วยการฝึกปฏิบัติให้พัฒนาจากจิตใจไปยังร่างกายทุกส่วน
- โยคะร้อน (Bikram Yoga) เป็นการฝึกโยคะในห้องที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งความร้อนจะช่วยให้เส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อผ่อนคลายได้ดี ทำให้ร่างกายขจัดของเสียทางเหงื่อได้มากยิ่งขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน มีปัญหา ปวดหลังหรือปวดคอ เป็นโยคะที่เล่นได้ทุกเพศทุกวัยโดยไม่ต้องมีประสบการณ์
- ไอเยนโยคะ (Iyengar Yoga) เป็นการเล่นโยคะแบบจัดท่าให้กระจายน้ำหนักผ่านแขน ขา และกระดูกสันหลังอย่างเหมาะสม โดยใช้อุปกรณ์ช่วยอย่างเช่นผนังห้อง เก้าอี้ หมอน หรือเข็มขัดโยคะ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานและต้องการฝึกโยคะ
- กฤปาลูโยคะ (Kripalu Yoga) เป็นการเคลื่อนไหวที่ต้องใช้สมาธิมาก เหมาะกับผู้ที่ต้องการฝึกสมาธิแต่มีปัญหาทางด้านร่างกาย ซึ่งจะเริ่มฝึกใจจากการทำสมาธิของร่างกายตนเองเป็นหลัก
- พรีเนทัลโยคะ (Prenatal Yoga) เป็นโยคะที่ปรับท่าทางให้เหมาะกับสตรีมีครรภ์ ช่วยให้คุณแม่มีความแข็งแรงทางร่างกายและจิตใจทั้งก่อนคลอดและหลังคลอด เป็นการช่วยลดความปวดเมื่อย ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี ช่วยปรับความดันโลหิตให้ปกติ ลดอาการปวดหลัง ปวดคอ ข้อเท้า เหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์ใกล้คลอด และทำให้รูปร่างกลับเข้าสู่สภาพหลังคลอดได้เร็วขึ้น
ประโยชน์ของการเล่นโยคะ
- เสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับข้อพับหรือข้อต่อต่างๆ และทำให้ร่างกายโดยรวมมีความแข็งแรง เช่น อัษฎางค์โยคะ หฐโยคะ หรือไอเยนโยคะ
- ทำให้เลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกายมากขึ้น กล้ามเนื้อหัวใจมีเลือดไหลเวียนได้ดี ช่วยขยายปอดให้แข็งแรง
- ช่วยลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนัก กล้ามเนื้อมีความกระชับ รวมทั้งรูปร่างของผู้เล่นสมส่วนยิ่งขึ้น
- ไม่มีแรงกระแทกต่อข้อต่อต่างๆ เหมือนการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่น
- จัดระเบียบร่างกายให้ดีขึ้น ทำให้มีบุคลิกดีและประสาทสัมผัสดี
- ฝึกฝนได้ด้วยตนเอง ไม่สิ้นเปลือง และไม่ต้องใช้เนื้อที่มาก
- เป็นการฝึกจิตใจให้มีสมาธิและมีความสงบ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาในด้านความจำให้ดีขึ้น
ข้อควรระวังในการเล่นโยคะ
ผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อน และไม่ควรเล่นโยคะหลังอาหารทันที ส่วนสถานที่ฝึกควรเป็นที่โล่งและมีความเงียบสงบ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การเล่นโยคะเป็นการออกกำลังกายที่ฝึกได้ครบทั้งวงจร เป็นการปรับความสมดุลทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ทั้งนี้การเล่นโยคะจะต้องรู้วิธีการเล่นที่ถูกต้อง ไม่หักโหม และปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งส่งผลให้การทำงานหรือการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันประสบผลสำเร็จเป็นไปได้ด้วยดีนั่นเอง