โยคะ (Yoga) เป็นศาสตร์เก่าแก่ตั้งแต่ราว 5,000 ปีก่อน ต้นกำเนิดของโยคะนั้นอยู่ที่อินเดีย ในอดีต โยคะเป็นที่นิยมฝึกฝนกันแพร่หลาย เหล่าผู้ฝึกโยคะจะเรียกว่า โยคี หรือ โยคินี (หญิง) ซึ่งการฝึกแต่เดิมก็มีจุดประสงค์เพื่อบริหารร่างกายให้มีสภาพดี และขัดเกลาจิตใจให้สงบ เพื่อเข้าสู่สมาธิ ต่อมาโยคะได้เผยแพร่ไปสู่ประเทศต่างๆ และถูกดัดแปลงให้เป็นหนึ่งในการออกกำลังกาย การฝึกโยคะมีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ การเคลื่อนไหว หรือการบริหารกายด้วยท่าต่างๆ กายหายใจ กำหนดลมปราณ และสมาธิ โยคะจึงเป็นการฝึกกายและจิตควบคู่กันไป เพื่อสร้างสมดุลแก่ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ
ประเภทของโยคะ
การฝึกโยคะแบ่งแยกย่อยได้มากมายนับ 100 ประเภท เช่น หฐโยคะ พาวเวอร์โยคะ ซึ่งแต่ละประเภทก็มีท่วงท่าและความหนักเบาแตกต่างกันไป แต่ประเภทของโยคะที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆ ได้แก่ โยคะร้อน และโยคะเย็น นั่นเอง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- โยคะร้อน เป็นการฝึกโยคะในห้องที่อุณหภูมิสูงเทียบเท่ากับอุณหภูมิร่างกาย คือประมาณ 37 องศาเซลเซียส ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ยืดหยุ่นได้ดีขึ้น กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยขับเหงื่อ และส่งเสริมการเผาผลาญพลังงาน ทำให้รูปร่างดูกระชับได้
- โยคะเย็น เป็นการฝึกโยคะในอุณหภูมิปกติ อาจฝึกในห้องหรือกลางแจ้งก็ได้ การฝึกโยคะเย็นจะไม่เหนื่อยมากนัก ทำให้ผู้ฝึกรู้สึกผ่อนคลาย เพลิดเพลิน และมีสมาธิ แต่การเผาผลาญพลังงานจะเกิดน้อยกว่าการเล่นโยคะร้อน
ประโยชน์ของการฝึกโยคะ
- ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและยืดหยุ่น เนื่องจากการฝึกโยคะจะพัฒนากล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เช่น แขน ขา หลัง และยังช่วยให้ร่างกายยืดหยุ่นได้ดี ตัวไม่แข็ง อีกทั้งโยคะเป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกน้อย และไม่มีการปะทะ จึงหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บทั้งหลายจากการออกกำลังได้
- ช่วยเผาผลาญพลังงาน โยคะถือเป็นกายบริหารอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะโยคะร้อนที่ช่วยเบิร์นแคลอรีได้ดี หากฝึกเป็นประจำก็ทำให้เรามีหุ่นสวยกระชับได้
- ลดอาการปวดหลัง การฝึกโยคะจะช่วยให้กล้ามเนื้อได้ยืดและคลายตัว ช่วยให้กระดูกสันหลังยืดหยุ่น และช่วยปรับสรีระให้เข้าที่เข้าทาง ทำให้ช่วยลดอาการปวดเรื้อรังได้
- ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง โยคะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดอาการปวดเมื่อย และผ่อนคลายความเครียด จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคข้ออักเสบ โรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจ
- ช่วยลดความเครียด การฝึกโยคะนอกจากเป็นการฝึกร่างกายแล้ว ยังเป็นการบริหารจิตใจไปพร้อมกัน ทำให้เรามีจิตใจปลอดโปร่ง แจ่มใส และยังทำให้นอนหลับได้ดีขึ้นด้วย
- สร้างสมาธิและช่วยให้ความจำดี การทำสมาธิเป็นองค์ประกอบสำคัญข้อหนึ่งของการฝึกโยคะ การตั้งมั่นจดจ่ออยู่กับท่วงท่าการเคลื่อนไหว และการกำหนดลมหายใจ จะช่วยสร้างสมาธิ และทำให้การเรียนรู้และความจำดีขึ้นตามมา
- พัฒนาบุคลิกภาพ การเล่นโยคะเป็นการจัดท่วงท่าให้สมดุล ทำให้สรีระร่างกายเราเข้าที่ นอกจากรูปร่างจะดีแล้ว บุคลิกยังดูสง่างามขึ้นด้วย
ฝึกโยคะได้ที่ไหนบ้าง
การฝึกโยคะใช้อุปกรณ์ง่ายๆ แค่เสื่อรองผืนเดียว เราจึงสามารถฝึกได้เองที่บ้าน จะเป็นในห้องหรือในสวนก็ได้ทั้งนั้น โดยการฝึกฝนก็สามารถซื้อหนังสือมาอ่าน หรือค้นหาท่วงท่าต่างๆ ในอินเตอร์เน็ตได้ แต่หากต้องการเข้าคอร์สอย่างจริงจัง และฝึกรวมกับคนอื่นๆ เพื่อกระตุ้นตัวเอง ก็สามารถทำได้ หากคุณอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ขอบอกว่ามีที่ฝึกโยคะหลายที่เลย เช่น ที่สวนเบญจกิตติ ก็มีกลุ่มฝึกโยคะที่เข้าร่วมฟรี ทุกวันพฤหัสบดีช่วงเช้า (6.30 น.) แต่ถ้าไม่สะดวกในตอนเช้า ก็สามารถไปฝึกที่ สถาบันโยคะวิชาการ ซึ่งอยู่ที่สวนรถไฟ การฝึกสามารถเข้าร่วมได้ฟรีหรือบริจาคตามความสมัครใจ โดยตารางการฝึกจะมีทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 17.00 น. สามารถติดตามการอัพเดทตารางเวลาได้ที่ facebook เพจ thaiyogainstitute