เชื้อ VRE (Vancomycin-Resistant Enterococcus) เป็นสายพันธุ์หนึ่งของเชื้อ Enterococcus ที่เกิดจากการดื้อต่อยาปฏิชีวนะที่ชื่อว่า แวนโคมัยซิน (Vancomycin) เชื้อชนิดนี้สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ในแผล และในกระแสเลือดที่ยากต่อการรักษาได้
เชื้อกลุ่ม Enterococcus เป็นแบคทีเรียที่มักพบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม ในลำไส้ของมนุษย์ และในทางเดินปัสสาวะของเพศหญิง เชื้อกลุ่มนี้จะก่อโรคในคนที่มีสุขภาพแข็งแรงได้น้อย แต่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงภายในโรงพยาบาลได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยอยู่เดิม
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ใครเสี่ยงติดเชื้อ VRE บ้าง?
เชื้อกลุ่ม Enterococcus นั้นส่งผลต่อผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงน้อยมาก แต่เชื้อ VRE และเชื้อ Enterococcus ชนิดที่ไม่ดื้อยานั้นมักเกิดจากการติดเชื้อภายในโรงพยาบาล และเกิดในผู้ที่มักมีอาการเจ็บป่วยอยู่แล้ว เช่น ผู้ที่รับการรักษาโรคเบาหวาน โรคไตวาย และโรคอื่นๆ
บุคคลต่อไปนี้จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อกลุ่มนี้ได้มากกว่าคนทั่วไป
- ผู้ที่นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับยาปฏิชีวนะมาเป็นระยะเวลานาน
- เคยได้รับการรักษาการติดเชื้อด้วยยาแวนโคมัยซิน หรือใช้ยานี้ร่วมกับยาปฏิชีวนะอื่นๆ เป็นเวลานาน เช่น พนิซิลลิน (Penicillin) และเจนตามัยซิน (Gentamicin)
- มีภูมิคุ้มกันบกพร่องจากโรคหรือจากการใช้ยารักษาโรคบางชนิด
- เคยเข้ารับการผ่าตัดหรือทำหัตถการที่มีความรุนแรง
- ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์มาเป็นเวลานาน เช่น สายสวนปัสสาวะ หรือสายน้ำเกลือ
- มีเชื้อ VRE อาศัยอยู่ภายในร่างกายอยู่ก่อนแล้ว
อาการของการติดเชื้อ VRE
การติดเชื้อในกลุ่ม Enterococcus ซึ่งรวมถึงเชื้อ VRE นั้นสามารถทำให้เกิดอาการได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่มีการติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ และการติดเชื้อจากแผลที่ใส่สายสวนหรือแผลจากการผ่าตัด
อาการของการติดเชื้อที่แผลซึ่งมีสาเหตุมาจากการใส่สายสวนและการผ่าตัด
- เจ็บแผลและบวมแดง
- ผิวหนังรอบแผลบวม แดง ร้อน
- มีของเหลวซึมออกมาจากแผล
อาการของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
- ปัสสาวะบ่อย
- ปัสสาวะแสบขัด
- ปัสสาวะสีขุ่นหรือมีกลิ่นเหม็น
- อ่อนเพลีย
- ปวดหลังส่วนล่าง หรือปวดท้อง
อาการของการติดเชื้อในกระแสเลือด
การรักษาการติดเชื้อ VRE
ผู้ที่มีเชื้อ VRE อาศัยอยู่ภายในร่างกายอยู่เดิมไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา เนื่องจากแสดงว่าเชื้อแบคทีเรียไม่ได้ทำให้เกิดโรค โดยการติดเชื้อ VRE จะต้องรักษาด้วยยาตัวอื่นที่ไม่ใช่แวนโซมัยซิน อย่างไรก็ตามผู้ป่วยแต่ละคนอาจต้องใช้ยาแตกต่างกัน และเชื้อแบคทีเรียอาจมีการดื้อต่อยาปฏิชีวนะกลุ่มอื่นด้วย เช่น
- Penicillins
- Cephalosporins
- Clindamycins
- Aminoglycosides
- Macrolides
- Tetracyclines
- Quinolones
การเลือกการรักษาที่เหมาะสมนั้นจะต้องใช้ตัวอย่างของแบคทีเรียมาทำการทดสอบกับยาปฏิชีวนะในห้องปฏิบัติการเพื่อดูว่ามียาตัวไหนที่สามารถฆ่าเชื้อได้บ้าง
เป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเดียวกันในช่วงๆเวลาใกล้กันได้หรือไม่คะ