กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

การฉีดฟิลเลอร์คืออะไร วิธีการทำงาน ข้อดี ข้อเสีย ข้อควรระวัง เหมาะกับใคร วิธีการดูแลตัวเองก่อนและหลัง

แก้ไขปัญหาริ้วรอย หน้าผาก ร่องลึกริมฝีปาก ใต้ตาลึก หรือปรับแต่งรูปหน้าให้เข้ารูป แลดูอ่อนวัย ด้วยการฉีดฟิลเลอร์!
เผยแพร่ครั้งแรก 29 พ.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 18 พ.ย. 2019 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที
การฉีดฟิลเลอร์คืออะไร วิธีการทำงาน ข้อดี ข้อเสีย ข้อควรระวัง เหมาะกับใคร วิธีการดูแลตัวเองก่อนและหลัง

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • การฉีดฟิลเลอร์ หรือ การฉีดสารเติมเต็ม ช่วยทำให้ริ้วรอย ร่องลึกตามจุดต่างๆ บนใบหน้าตื้นขึ้น หรือใช้แก้ไขปรับแต่งรูปหน้า ตลอดจนใช้ฟื้นฟูผิวพรรณให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง
  • การฉีดฟิลเลอร์แต่ละชนิดเหมาะกับปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ควรเลือกทำกับแพทย์ผิวหนังที่มีความชำนาญ และมีประสบการณ์ในด้านนี้โดยเฉพาะเพื่อความปลอดภัย
  • ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานถึง 6 เดือน ถึง 2 ปี โดยขึ้นอยู่กับสารฟิลเลอร์ที่ฉีด ความเหมาะสมของชนิดฟิลเลอร์และปัญหาผิว และการดูแลหลังการฉีด
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ บางรายอาจมีอาการบวมแดงในบริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปได้เองภายใน 2 วัน
  • ถ้าคุณต้องการความรวดเร็วในการฟื้นฟูผิวให้กลับมาเต่งตึง การฉีดฟิลเลอร์ช่วยได้ ดูแพ็กเกจฉีดสารเติมเต็มได้ที่นี่

เมื่อวันเวลาผ่านไปจากวัยสาวเข้าสู่วัยกลางคน ผิวที่เคยเต่งตึงมีน้ำมีนวลก็จะเริ่มแห้งหยาบกร้านและรูขุมขนกว้าง นั่นเป็นเพราะคอลลาเจนใต้ผิวหนังฝ่อลงจนก่อให้เกิดร่องลึก หากจะใช้วิธีนวด หรือทาครีมบำรุงต่างๆ ก็ได้ผลช้า ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นวิธีที่ตอบโจทย์สำหรับผู้มีปัญหา และยังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน

การฉีดฟิลเลอร์คืออะไร

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

การฉีดฟิลเลอร์คือ การฉีดสารเติมเต็มเพื่อทำให้ริ้วรอย ร่องลึกตามจุดต่างๆ บนใบหน้า เช่น หน้าผาก รอบดวงตา ร่องลึกริมฝีปาก ตื้นขึ้น หรือใช้แก้ไขปรับแต่งรูปหน้า เช่น เติมริมฝีปากหรือร่องแก้มให้ดูอวบอิ่ม ปรับแต่งจมูกให้โด่งขึ้น ตลอดจนใช้ฟื้นฟูผิวพรรณให้กลับมากระชับเปล่งปลั่งอีกครั้ง

ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็ม มีสรรพคุณช่วยทำให้ใบหน้าเต่งตึง มีน้ำมีนวล ริ้วรอยร่องลึกที่เคยเป็นจะตื้นขึ้น อีกทั้งฟิลเลอร์บางชนิดที่เลือกใช้ยังช่วยเติมใยคอลลาเจนที่หายไปให้กลับมาดูอิ่มเอิบ แลดูอ่อนเยาว์กว่าวัยด้วยเวลาอันรวดเร็ว

ชนิดของฟิลเลอร์แบ่งตามความคงตัวหลังฉีด

แบ่งได้ 3 ชนิด ดังต่อไปนี้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

  • การฉีดสารเติมเต็มแบบชั่วคราว (Temporary Filler) เช่น สารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) สารคอลลาเจน (Collagen) ซึ่งเป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นมาให้ใกล้เคียงกับที่มีอยู่แล้วในผิวหนัง ที่ใช้ในปัจจุบันเป็นชนิดที่ไม่ทำให้เกิดการแพ้หรือแพ้น้อยมาก เมื่อฉีดเข้าบริเวณที่ต้องการแก้ไขแล้วจะคงอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน จัดว่ามีความปลอดภัยสูงและสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
  • การฉีดสารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) เช่น สาร PMMA (Polymethyl-methacrylate) สารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyakylimide)
    สารเหล่านี้เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้น แต่มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อ ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ จะมีอายุยาวกว่าการฉีดฟิลเลอร์แบบชั่วคราว อาจอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ มีความปลอดภัยในระดับปานกลาง และสารที่ให้ผลยาวนานกว่ามีแนวโน้มจะเกิดผลข้างเคียงมากกว่า
  • การฉีดสารเติมเต็มแบบถาวร (Permanent Filler) เช่น ซิลิโคนเหลว หรือน้ำมันพาราฟิน จะให้ผลลัพธ์แบบถาวรโดยไม่สามารถสลายออกเองได้ การฉีดสารประเภทนี้ระบุผลข้างเคียงในระยะยาวไม่ได้ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรง มีการอักเสบ หรือถึงขั้นทำให้บริเวณที่ฉีดเปลี่ยนรูปไป จึงไม่แนะนำให้ฉีดสารชนิดนี้

ตัวอย่างยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีให้บริการในไทย

Restylane, Juvederm, Belotero, Perfectha และ Neuramis

ฟิลเลอร์แต่ละชนิดเหมาะกับปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ควรเลือกทำกับแพทย์ผิวหนังที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในด้านนี้โดยเฉพาะเพื่อความปลอดภัย

ระยะเวลาในการฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์จะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที โดยเมื่อฟิลเลอร์อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการแก้ไขแล้วก็จะเห็นผลทันที และจะยิ่งเห็นผลชัดที่สุดในวันที่ 5 

ปกติแล้ว ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์สามารถอยู่ได้นานถึง 6 เดือน ถึง 2 ปี หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสารฟิลเลอร์ที่ฉีด ความเหมาะสมของชนิดฟิลเลอร์และปัญหาของผิว และการดูแลหลังการฉีด ซึ่งผลที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย

อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์บางชนิดอาจไม่เห็นผลในทันทีหลังฉีด แต่จะค่อยๆ กระตุ้นให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเอง สารฟิลเลอร์ประเภทนี้ ได้แก่ สารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyalkylimide) สารโพลีแลคติกแอซิด (Poly lactic acid)

การฉีดฟิลเลอร์เหมาะสำหรับใคร

การฉีดฟิลเลอร์เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย มีร่องลึกรอบดวงตา มุมปาก หรือบริเวณอื่นๆ และผู้ที่ต้องการปรับแต่งรูปหน้า รวมถึงช่วยเติมเต็มแก้มที่ตอบให้เปล่งปลั่ง และเต่งตึง ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

  • การฉีดฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ ใช้เวลาน้อย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
  • การฉีดฟิลเลอร์สามารถปรับโครงสร้างใบหน้าให้ได้รูป
  • การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มจุดบกพร่องที่ทำให้ดูสูงวัย เช่น ริ้วรอย ร่องลึกรอบดวงตา มุมปาก แก้มตอบ หลุมสิว ให้เต่งตึงมากยิ่งขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ในทันทีที่ฉีด แก้ปัญหารอยแผลเป็น และยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งตามความเชื่อได้อีกด้วย
  • การฉีดฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราวที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นสารจากธรรมชาติที่สามารถสลายได้เอง ไม่มีปัญหาตกค้างในร่างกาย และมักไม่ทำให้เกิดอาการแพ้อีกด้วย

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์

  • หากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือมีความเสี่ยงในบริเวณที่ฉีดได้
  • หากคุณฉีดฟิลเลอร์แบบถาวร เช่น ซิลิโคนเหลว หรือน้ำมันพาราฟิน ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายออกเองได้ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนจนเกิดพังผืด ซึ่งจะต้องไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแก้ไขเท่านั้น
  • การฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ หรือเลือกสถานพยาบาลที่ไม่น่าเชื่อถือ เป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะตำแหน่งที่ฉีดถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้คุณภาพของสารฟิลเลอร์ หากไม่ใช่แพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านกายวิภาค อาจฉีดในจุดที่ไม่ควรฉีดและทำให้เกิดผลข้างเคียงได้

วิธีดูแลตนเองก่อนฉีดฟิลเลอร์

ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด เช่น แอสไพริน (Aspirin) วิตามินอี สารสกัดใบแปะก๊วย ที่ทำให้เลือดหยุดไหลช้า

หากกำลังรับประทานยา หรือมีประวัติการแพ้ยาใดๆ ก็ตาม จะต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบล่วงหน้า

วิธีดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์

  • บางรายอาจมีอาการบวมแดงในบริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปได้เองภายใน 2 วัน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่มแอสไพริน หรือยาแก้ปวดข้อบางชนิด เป็นเวลา 2 วันหลังฉีดฟิลเลอร์
  • ห้ามนอนราบหลังการฉีดฟิลเลอร์ 3-4 ชั่วโมง
  • ห้ามแต่งหน้า หรือใช้ครีมบำรุงทุกชนิดหลังการฉีดฟิลเลอร์ 12 ชั่วโมง
  • ห้ามออกกำลังกายภายใน 48 ชั่วโมงแรก
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น ทำเลเซอร์ การใช้ไดร์เป่าผม ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสลายได้เร็ว รวมทั้งห้ามถูหน้าแรงๆ ด้วย
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอกับปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน
  • ทาครีมกันแดดทุกวัน 

ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์

  • ปัจจุบันมีสารที่มีลักษณะคล้ายฟิลเลอร์ออกมามากมาย ซึ่งไม่ได้ถูกรับรองตามมาตรฐานขององค์การอาหารและยา จึงควรขอแพทย์ตรวจสอบฟิลเลอร์ทุกครั้งก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น
  • ควรใช้บริการจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงเลือกสถานให้บริการที่ได้มาตรฐาน และเชื่อถือได้
  • ห้ามฉีดฟิลเลอร์ในสตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร และผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก

วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์อย่างง่ายๆ

  • ปกติแล้วแพทย์จะแกะกล่องฟิลเลอร์ต่อหน้าคนไข้ เพื่อให้คนไข้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง
  • ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อจะมี Lot Serial No. รวมถึงหมายเลขอ้างอิงต่างๆ ซึ่งจะตรงกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหน้ากล่อง ในกล่อง หรือตัวเข็ม
  • สามารถเช็กฟิลเลอร์แท้ได้ โดยนำเลข Serial No. ไปสอบถามบริษัทที่นำเข้าหรือผลิต

ราคาของการฉีดฟิลเลอร์

  • ราคาการฉีดในแต่ละครั้งจะคิดจากปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องการฉีด มีหน่วยวัดคือ “ซีซี (CC)”
  • ส่วนใหญมักเริ่มจากราคาซีซีละ 2,500 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละสถานที่ที่ให้บริการด้วย
  • 1 ซีซี สามารถฉีดได้ 1 จุด โดยสามารถเลือกจุดใดจุดหนึ่งบริเวณใบหน้า เช่น ปาก ใต้ตา ร่องแก้ม หรือขมับ เป็นต้น

ในท้องตลาดมีบริการฉีดฟิลเลอร์หลากหลายราคา เราไม่ควรเห็นแก่ราคาถูกเท่านั้น แต่ควรเลือกคลินิก หรือโรงพยาบาลที่สามารถตรวจสอบได้ว่า สารที่นำมาฉีดเป็นสารชนิดใด เพราะหากเป็นสารที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงได้

อย่างไรก็ตาม หากใช้บริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง การฉีดฟิลเลอร์ถือว่าเป็นการรักษาที่ไม่อันตรายและมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Dermal Fillers: Minimally Invasive Procedures (https://www.plasticsurgery.org/cosmetic-procedures/dermal-fillers/types)
Yvette Brazier, What can I do about wrinkles? (https://www.medicalnewstoday.com/articles/174852.php), 21 July 2016
What You Should Know About Wrinkle Fillers (https://www.webmd.com/beauty/wrinkle-fillers-what-you-should-know#3)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
ศัลยกรรมยกมุมปาก
ศัลยกรรมยกมุมปาก

การศัลยกรรมยกมุมปาก คืออะไร ต้องผ่าตัดอย่างเดียวหรือไม่ ทำแล้วอยู่ได้นานเท่าใด และมีวิธีดูแลตัวเองหลังทำอย่างไร?

อ่านเพิ่ม
เติมเต็มใบหน้าและหน้าอกด้วยสเต็มเซลล์จากไขมัน (CAL)
เติมเต็มใบหน้าและหน้าอกด้วยสเต็มเซลล์จากไขมัน (CAL)

ทำความรู้จักเทคโนโลยีล่าสุด "การฉีดสเต็มเซลล์จากไขมัน (CAL)" นำไขมันส่วนเกินมาเติมเต็มส่วนต่างๆ ในร่างกาย

อ่านเพิ่ม