rong>วิตามินบี 3 หรือ ไนอาซิน (Niacin) เป็นหนึ่งใน 8 ชนิดของวิตามินบีที่มีความจำเป็นและมีความสำคัญต่อร่างกาย (นอกจากจะอยู่ในรูปของไนอาซินแล้ว วิตามินบี 3 ยังสามารถอยู่ในรูปของ Niacinamide และ Inositol Hexanicotinate ได้อีกด้วย)
วิตามินบี 3 หรือไนอาซินนั้นมีบทบาทเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาในการเผาผลาญสารอาหารต่าง ๆ รวมทั้งการสังเคราะห์กรดไขมันและโคเลสเตอรอล หากได้รับวิตามินบี 3 ไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้อาหารไม่ย่อย มีแผลเปื่อย อาเจียน และอาจมีภาวะซึมเศร้าได้ หากขาดรุนแรงอาจทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “เพลลากรา” (Pellagra) ซึ่งจะมีอาการผิวอักเสบเป็นจ้ำๆ ผิวแตกเป็นสะเก็ด เกิดภาวะสมองเสื่อม และท้องร่วงรุนแรงได้ อาการอื่นๆที่อาจเกิดจากการขาดวิตามินบี 3 ได้แก่ ปากพองร้อนวูบวาบ ลิ้นอักเสบบวมแดง
วิตามินบี 3 พบมากในเนื้อสัตว์ทุกชนิด เครื่องในสัตว์ ถั่วเมล็ดแห้ง รำข้าว และยีสต์ ส่วนวิตามินบี 3 ในธัญพืช เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง จะรวมตัวกับสารอื่นทำให้ดูดซึมไม่ได้ ปัจจุบันขนมปังและอาหารเช้าแบบซีเรียลส่วนใหญ่ก็มักจะมีการเสริมไนอาซินเข้าไปด้วย นอกจากร่างกายจะได้รับไนอาซินจากอาหารแล้วยังสามารถสร้างไนอาซินได้จากกรดอะมิโนทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ที่เป็นส่วนหนึ่งของอาหารประเภทโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นมและผลิตภัณฑ์จากนม
วิตามินบี 3 เป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ (เช่นเดียวกับวิตามิน B อื่นๆ) จึงมักไม่ค่อยมีการสะสมในร่างกาย และจำเป็นต้องได้รับจากอาหารทุกวัน ถ้าร่างกายได้รับไนอาซินมากเกินพอจะขับออกทางปัสสาวะแต่หากได้รับในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจทำให้เป็นพิษได้ค่ะ
ปริมาณวิตามินบี3 ที่ลูกน้อยควรได้รับต่อวัน
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- แรกเกิด-6 เดือน: 2 mg
- ทารก 6-12 เดือน: 4 mg
- เด็ก 1-3 ปี: 6 mg
- เด็ก 4-8 ปี: 8 mg
- เด็ก 9-12 ปี: 12 mg
อย่างไรก็ตาม การจะให้ลูกน้อยกินวิตามินเสริมใดๆ นั้น คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาคุณหมอก่อนนะคะ เพื่อจะได้ทราบว่า มีความจำเป็นต้องให้ลูกน้อยได้รับวิตามินเสริมหรือไม่ และหากจำเป็นคุณหมอจะสามารถบอกปริมาณที่เหมาะสมสำหรับลูกน้อยได้ค่ะ&n