ความเชื่อที่ว่า เสื้อชั้นในสตรี เป็นสิ่งจำเป็นและมีประโยชน์ต่อสุขภาพทรวงอกนั้นไม่ถูกต้องเสียทีเดียว ซึ่งเสื้อชั้นในสตรีในที่นี้หมายถึงยกทรงทั่วไป ไม่รวมถึงเสื้อชั้นในสำหรับการเล่นกีฬา (sport bras)
ผู้หญิงหลายคนเข้าใจว่าเสื้อชั้นในทั่วไปนี้ช่วยในการพยุงทรวงอกไม่ให้หย่อนยาน บางคนใส่แบบดันทรงหรือขนาดที่เล็กกว่าขนาดตัวเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความกระชับ แต่ในความเป็นจริงเสื้อชั้นในไม่ได้มีส่วนช่วยในเรื่องเหล่านี้เลย อีกทั้งผู้ผลิตเสื้อชั้นในก็ไม่เคยกล่าวถึงประโยชน์ของเสื้อชั้นในที่มีต่อด้านสุขภาพเลยด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ความเข้าใจผิด เกี่ยวกับเสื้อชั้นในสตรี
ปัจจุบันผู้หญิงเข้าใจผิดกันมากว่าเสื้อชั้นในสตรีป้องกันไม่ให้ทรวงอกหย่อนยาน ซึ่งไม่เป็นความจริง การสวมใส่เสื้อชั้นในนั้นไม่ได้ช่วยป้องกันการหย่อนยานของหน้าอกเลย เพราะการหย่อนยานของหน้าอกนั้นเป็นไปกดของแรงโน้มถ่วงและเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเมื่อเนื้อเยื่อด้านในหมดอายุไขและมีไขมันเข้ามาทดแทน ไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถหลีกเลี่ยงการหย่อนยานของทรวงอกได้ แม้จะสวมใส่เสื้อชั้นในตลอดเวลาก็ตาม เสื้อชั้นในสตรีจึงไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นเลยในการป้องกันการหย่อนยานของทรวงอก หากแต่จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเสียมากกว่า
ปัญหาสุขภาพจากการสวมใส่เสื้อชั้นใน
หากเสื้อชั้นในที่คุณใส่ทำให้รู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว นั่นแปลว่าขนาดของเสื้อชั้นในนั้นเล็กเกินไป การใส่เสื้อชั้นในที่แน่นมากนอกจากจะทำให้รู้สึกอึดอัดแล้ว ยังสามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย ดังนี้
1. โรคผิวหนัง
เสื้อชั้นในที่รัดแนนจนเกินไปสามารถทำให้เกิดแผลเป็นหรือตุ่มใสๆ ซึ่งเป็นตุ่มน้ำเหลือง อาการเหล่านี้เกิดจากการกดทับและการเสียดสีของผิวหนังกับโครงเหล็ก ตะขอ หรือขอบเสื้อชั้นในที่รัดแน่นจนเกินไป หากปล่อยไว้นานจะก่อให้เกิดโรคผิวหนังเรื้อรัง
2. ปัญหากล้ามเนื้อปวดเมื่อย
กล้ามเนื้อบริเวณปีกหลังนั้นเชื่อมต่อกับหัวไหล่และคอของเราโดยตรง เมื่อกล้ามเนื้อในบริเวณนี้ถูกรั้งด้วยสายเสื้อชั้นในมากๆ กล้ามเนื้อจะเกร็งตัวเพื่อลดแรงกดทับ การเกร็งตัวนี้จึงทำให้ไหล่และคอของเรารู้สึกปวดเมื่อยได้ และเมื่อเกิดขึ้นเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทับต่อกล้ามเนื้อที่บริเวณหลังได้ด้วย
3. ปัญหาเกี่ยวกับระบบหมุนเวียนเลือด
กล้ามเนื้ออีกบริเวณที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการกดทับของเสื้อชั้นในคือกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก ซึ่งภายใต้กล้ามเนื้อในส่วนนี้นั้นมีเส้นเลือดและเส้นประสาทฝังตัวอยู่มากมาย เมื่อเสื้อชั้นในรัดแน่นจนเกินไปเส้นเลือดเหล่านี้ก็จะถูกกดทับไปด้วย ซึ่งขัดขวางการหมุนเวียนเลือด และอาจทำให้มีอาการหน้ามืดได้ในที่สุด
4. ระบบการหายใจขัดข้อง
การสวมใส่เสื้อชั้นในที่มีขนาดเล็ดกว่าขนาดตัวหรือเสื้อชั้นในที่มีโครงเหล็กนั้นจะทำให้รู้สึกอึดอัดและหายใจไม่สะดวกอย่างสังเกตได้ในทันที เพราะทรวงอกของผู้หญิงนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับซี่โครงและปอดมาก การกดทับของเสื้อชั้นในจะจำกัดระยะที่ซี่โครงของเราสามารถเคลื่อนไหวได้ ซึ่งส่งผลให้ปอดของเราถูกจำกัดพื้นที่เพื่อหมุนเวียนอากาศไปด้วย
5. โรคลำไส้แปรปรวน
แรงกดทับจากเสื้อชั้นในนอกจากจะส่งผลกระทบต่อผิวหนังและกล้ามเนื้อแล้ว ยังสามารถส่งผลกระทบต่อลำไส้ได้อีกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลำไส้ของเราอยู่ใกล้กับซี่โครงมาก เสื้อชั้นในที่รัดแน่นมากๆจะทำให้ซี่โครงไปเบียดกับลำไส้และส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติได้
ปัญหาสุขภาพเหล่านี้เป็นผลกระทบโดยตรงจากการสวมใส่เสื้อชั้นในที่รัดแน่นจนเกินไป แต่มีปัญหาสุขภาพอีกชนิดหนึ่งที่ยังคงหาข้อสรุปไม่ได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสวมใส่เสื้อชั้นในหรือไม่ นั่นก็คือ โรคมะเร็งเต้านม ทางการแพทย์ยังหาข้อเกี่ยวโยงที่แน่ชัดไม่ได้ว่าเสื้อชั้นในที่รัดแน่นก่อให้เกิดมะเร็งเต้านมได้อย่างไร แต่งานวิจัยจำนวนไม่น้อยก็มีข้อสรุปว่า ประเทศที่มีวัฒนธรรมไม่สวมเสื้อชั้นในเลยหรือสวมใส่น้อยครั้งมาก มีสถิติของการเกิดโรคมะเร็งเต้านมที่น้อยกว่าประเทศที่ผู้หญิงนิยมใส่เสื้อชั้นใน