กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

ขมิ้นชันกับกรดไหลย้อน วิธีใช้ มีอาการข้างเคียงหรือไม่

เผยแพร่ครั้งแรก 18 มี.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 8 ก.พ. 2019 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
ขมิ้นชันกับกรดไหลย้อน วิธีใช้ มีอาการข้างเคียงหรือไม่

โรคกรดไหลย้อน” เกิดได้จากสาเหตุเพียงเล็กๆ น้อยๆ แต่เมื่อเป็นแล้วกลับส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างมาก สาเหตุอาจจะเกิดได้จากการกินไปจนถึงขณะนอนพักผ่อน การรักษาจึงควรทำควบคู่กันไปตั้งแต่การปรับการดำเนินชีวิตประจำวัน การรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน และอาจเสริมด้วยการใช้สมุนไพรอย่าง "ขมิ้นชัน"

ทำความรู้จักกับ "ยาขมิ้นชัน"

ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรไทย ที่ใช้หัวเหง้าทำเป็นยารักษา ซึ่งจะมีสีเหลืองอมส้ม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ที่สำคัญคือ มีงานวิจัยศึกษารองรับว่าขมิ้นชัน ช่วยลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ ดังนี้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ผลิตภัณฑ์สำหรับเข่าและกระดูก สูตรเฉพาะ รวมสารสกัดที่ผ่านงานวิจัย คอลลาเจน UC-II ขมิ้นชัน งาดำ และวิตามิน

ซื้อผ่าน HD ประหยัดกว่า / ราคาพิเศษสำหรับ นศ. / ผ่อน 0% / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

  • กระตุ้นการหลั่งเมือก (Mucin) มาเคลือบที่กระเพาะ
  • มีฤทธิ์ลดการอักเสบ โดยสารสำคัญ ชื่อ เคอร์คิวมิน (Curcumin) มีฤทธื์ต้านการอักเสบได้ แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปวด หรือลดไข้
  • มีฤทธิ์สมานแผลในกระเพาะอาหาร (Wound healing) โดยมีน้ำมันหอมระเหย ชื่อ เทอเมอร์ริก (Turmeric) เป็นสารออกฤทธิ์ป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร มีการทดลองทางคลินิกในผู้ที่มีอาการปวดท้องจากแผลในกระเพาะอาหาร โดยให้ขมิ้นชันเทียบกับยาลดกรด รวมถึงอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแผลเปื่อยในกระเพาะอาหาร พบว่าขมิ้นชันสามารถรักษาโรคกระเพาะอาหาร และบรรเทาอาการไม่สบายท้องต่างๆ ได้ 
  • มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย จากน้ำมันหอมระเหยของขมิ้นชัน
  • มีฤทธิ์ป้องกันการเกิดแผล สามารถช่วยไม่ให้แผลในทางเดินอาหารเพิ่มขึ้น

การรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันและสมุนไพรทางเลือก

ในการแพทย์แผนปัจจุบันจะใช้การรักษาโรคกรดไหลย้อน ด้วยการรับประทานยาเคลือบกระเพาะอาหาร หรือยาลดกรดเพื่อรักษาแผลในกระเพาะร่วมกับการปรับพฤติกรรมต่างๆ ส่วนในกรณีที่ใช้ยาสมุนไพร “ขมิ้นชัน” ได้รับการยอมรับว่าสามารถใช้รักษาแทนยาแผนปัจจุบันได้ และเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน โรคแผลในกระเพาะอาหาร ลดอาการ ท้องอืด จุกเสียด ได้ แต่ต้องควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้วย

สารอาหารและสรรพคุณทางยาในขมิ้นชัน

ขมิ้นชันอุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบีรวม วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค นอกจากนั้นขมิ้นชันยังสามารถช่วยบรรเทาอาการโรคกรดไหลย้อนได้จากสรรพคุณทางยาดังต่อไปนี้

  • ลดการอักเสบของหลอดอาหารที่ทำให้เกิดการแสบร้อนกลางอก แสบลิ้นปี่ กลืนอาหารลำบาก ช่วยให้อาการเจ็บคอและไอเรื้อรังลดลง
  • ลดการอักเสบของแผลในกระเพาะอาหาร เมื่อไม่มีการอักเสบจึงทำให้ไม่ปวดแสบท้อง อีกทั้งอาการท้องอืดแน่นเฟ้อในกระเพาะอาหารก็ลดลงไปด้วย 
  • ลดอาการอักเสบของตับและช่วยบำรุงตับ

ขนาดและวิธีรับประทานยาขมิ้นชัน

รูปแบบยา: ยาเม็ด ยาแคปซูล

ขนาดและวิธีใช้: รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม ถึง 1 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน 

อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ขมิ้นชัน

ยา ไม่ว่าจะเป็นยาสมุนไพร หรือยาแผนปัจจุบัน สามารถทำให้เกิดอาการข้างเคียง หรืออาการไม่พึงประสงค์ได้ทั้งสิ้น ซึ่งหากเกิดอาการผิวหนังอักเสบจากการแพ้ หลังรับประทานยาขมิ้นชัน ควรหยุดรับประทาน และเข้าพบแพทย์แผนปัจจุบัน หรือแพทย์แผนไทย เพื่อประเมินอาการ และรับการรักษาใหม่ที่เหมาะสมต่อไป

ข้อห้ามในการใช้ยาขมิ้นชัน

  • ห้ามใช้ในผู้ที่ท่อน้ำดีอุดตัน หรือผู้ที่ไวต่อยานี้
  • ผู้ป่วยที่มีอาการแพ้ยานี้

คำเตือนในการใช้ขมิ้นชัน

  • ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดี ยกเว้นภายใต้การดูแลของแพทย์
  • ควรระวังการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ยกเว้นภายใต้การดูแลของแพทย์
  • ควรระวังการใช้ในเด็ก เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลด้านประสิทธิผล และความปลอดภัย
  • ควรระวังการใช้ร่วมกับสารกันเลือดเป็นลิ่ม (Anticoagulants) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (Antiplatelets)
  • ควรระวังการใช้ร่วมกับยาที่มีกระบวนการเมแทบอลิซึม ผ่านเอนไซม์ Cytochrome P450
  • ควรระวังการใช้ร่วมกับยารักษาโรคมะเร็งบางชนิด เช่น doxorubicin, chlormethine, cyclophosphamide และ camptothecin เนื่องจาก curcumin อาจมีผลต้านฤทธิ์ยาดังกล่าว

สรุป นับว่าขมิ้นชันเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งสำหรับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน เมื่อใช้ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตั้งแต่การควบคุมน้ำหนัก งดดื่มสุราและสูบบุหรี่ ไม่รับประทานอาหารเย็นในปริมาณมาก และไม่นอนทันทีหลังมื้ออาหาร และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ก็จะช่วยให้ลดปัจจัยเสี่ยงในการกำเริบของโรคกรดไหลย้อนอย่างเห็นผลชัดเจน


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
รายการบัญชียาสมุนไพร จากบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2561

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)