เรื่องราวของวิตามิน 2

เผยแพร่ครั้งแรก 6 ก.พ. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 7 นาที
เรื่องราวของวิตามิน 2

เรื่องราวของวิตามิน 2

อ่านข้อมูลที่สำคัญ ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับวิตามินที่เรารับประทานในทุกวันว่ามาจากไหน

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

วิตามินมาจากไหน? รูปแบบของวิตามินแต่ละอย่างแตกต่างกันอย่างไร วิตามินสังเคราะห์กับธรรมชาติให้ประโยชน์แตกต่างกันหรือไม่ มีสารอะไรอื่นอีกบ้างในเม็ดวิตามิน การเก็บรักษาและความคงทนของวิตามิน

รวมทั้งจะรับประทานวิตามินเสริมอาหารเมื่อใดและอย่างไร สามารถอ่านต่อได้ที่นี่

เพราะว่าวิตามินเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในอาหารผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่คุณรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นแบบแคปซูล เม็ดอัด ผง หรือน้ำจึงมาจากอาหารเช่นกันถึงแม้ว่าเราจะสามารถสังเคราะห์วิตามินได้หลายตัวแต่ส่วนใหญ่แล้วจะใช้วิธีการสกัดจากแหล่งธรรมชาติมากกว่า

ตัวอย่างเช่น วิตามินเอมักมาจากน้ำมันตับปลาวิตามินบีรวมได้มาจากยีสต์หรือตับ วิตามินซีจะดีที่สุดหากสกัดมาจากโรสทิพย์ ซึ่งเป็นเบอร์รี่ที่พบในผลของกุหลาบชนิดหนึ่ง พบได้หลังจากที่กลีบร่วงโรยแล้ว หรืออาจสกัดจากแป้งมัน และสำหรับวิตามินอีส่วนใหญ่แล้วจะสกัดจากถั่วเหลือง จมูกข้าวสาลี หรือข้าวโพด

ทำไมวิตามินจึงมีหลายรูปแบบนัก

ความต้องการของแต่ละคนต่างกันไปด้วยเหตุนี้เองผู้ผลิตจึงนำเสนอวิตามินในรูปแบบที่หลากหลาย

เม็ดอัด เป็นรูปพี่เจอได้บ่อยและสะดวกที่สุดง่ายต่อการพกพาเก็บรักษาไว้ได้นานกว่าแบบผงหรือแบบน้ำและไม่สามารถใส่สารอื่นเจือปนได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

แคปเลต เป็นเม็ดอัดในรูปทรงเหมือนแคปซูลอาจมีการเคลือบด้านนอกอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้มันแตกตัวในลำไส้เล็กไม่แตกตัวในกระเพาะ (ซึ่งมีความเป็นกรด)

แคปซูลเช่นเดียวกับเม็ดอัด สะดวกและเก็บรักสาง่ายเป็นโรคที่พบได้บ่อยสำหรับวิตามินที่ละลายในไขมันเช่นเอดีอีมีสารปรุงแต่งยาผสมอยู่น้อยกว่าแบบเม็ดอัด

แคปซูลเจลาตินทำมาจากเจลาตินซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ควรเก็บให้พ้นแสง ในที่เย็นและแห้งเพื่อป้องกันการเกิดออกซิเดชัน

แคปซูลมังสวิรัติปราศจากส่วนประกอบที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์แป้งน้ำตาลและสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ทำมาจากเซลลูโลสและเส้นใหญ่อาหารจากพืชซึ่งมีความทนทานต่อปัญหาการติดเชื้อราและแบคทีเรียสามารถเก็บในห้องที่มีอุณหภูมิสูงได้โดยไม่ละลายหรือเกาะติดกันไม่มีผลกระทบจากอากาศเย็นและแห้งซึ่งส่งผลให้แคปซูลแบบจะละตินเปลาะแต่โชคร้ายหน่อยที่มันอาจทำปฏิกิริยากลับสารที่อยู่ในแคปซูลเองจึงไม่เป็นที่นิยมเท่ากับแคปซูลเจละตินและมีราคาแพงกว่าแคปซูลปกติมาก

ซอฟต์เจล (หรือเจลแคป) เป็นแคปซูลจะละตินแบบนุ่มซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกว่ากลืนง่ายกว่าแคปซูลปกติเช่นเดียวกับแบบเม็ดอัด หรือแคปซูลซอฟต์เจล ต้องผ่านกระบวนการในระบบย่อยอาหารซึ่งออกฤทธิ์ได้ช้ากว่าแบบน้ำหรือแบบผง

ผงมีข้อได้เปรียบตรงที่มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า (1 ช้อนชาของวิตามินซีแบบผงหลายยี่ห้อมีปริมาณวิตามินซีถึง 4000 มิลลิกรัม) และข้อได้เปรียบในแงของการปราศจากสารปรุงแต่งตัวนำยาและสารอื่นๆที่อาจทำให้เกิดการแพ้ได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

แบบเหลวใช้สำหรับชงผสมกับเครื่องดื่มต่างๆและเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถกลืนเม็ดแคปซูลหรือเม็ดยาได้

สเปรย์ในปากส่งผ่านสารอาหารความเข้มข้นต่ำเข้าสู่ช่องปากส่วนใต้ลิ้นโดยตรงสารอาหารจะไม่ต้องผ่านระบบย่อยอาหารและถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางเยื่อบุภายในเวลาประมาณ 15 นาที

เม็ดอมใต้ลิ้นเป็นแบบเม็ดละลายใต้ลิ้น (สำหรับวิตามินบี 12 รูปแบบนี้เป็น แบบที่ผมขอแนะนำเพราะมันจะดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีกว่า)

แผ่นปิดและแบบฝังใต้ผิวหนัง จะให้สารอาหารในปริมาณที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องแต่ในขณะที่เขียนอยู่นี้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบนี้ยังมีจำกัดและได้รับการพิจารณาให้เป็นระบบที่ใช้สำหรับการนำยาเข้าสู่ร่างกายในประเทศสหรัฐอเมริกา

แบบละลายในไขมัน vs. แบบแห้งหรือแบบละลายน้ำ

สำหรับวิตามินที่ละลายในไขมันเช่น เอ ดี อี และเค จะมีรูปแบบ “แห้ง” หรือแบบละลายน้ำซึ่งเป็นรูปแบบที่แนะนำสำหรับคนที่มักมีอาการเสียดท้องเมื่อต้องรับประทานน้ำมันรวมทั้งผู้เป็นสิวง่ายหรือเป็นโรคผิวหนังที่ไม่แนะนำให้รับประทาน น้ำมันและสำหรับผู้ที่พยายามลดน้ำหนักโดยรับประทานอาหารในกลุ่มไขมันให้น้อยที่สุด (วิตามินที่ละลายในไขมันต้องใช้ไขมันในการนำอาหารไปเสริมสร้างเนื้อเยื่อหากคุณรับประทานอาหารไขมันต่ำและต้องการรับประทานวิตามินเอ ดี อี ผมแนะนำให้ใช้เป็นแบบแห้ง)

วิตามินสังเคราะห์กับธรรมชาติให้ประโยชน์แตกต่างกันหรือไม่

เมื่อมีผู้ถามผมว่าวิตามินสังเคราะห์และวิตามินธรรมชาติมีข้อแตกต่างกันไหมผมมักจะตอบว่าข้อแตกต่างมีเพียงข้อเดียวนั่นคืออยู่ที่คุณถึงแม้ว่าวิตามินและแร่ธาตุสังเคราะห์จะให้ผลดีเช่นเดียวกับวิตามินธรรมชาติแต่ประโยชน์ที่หลากหลายจากวิตามินธรรมชาตินั้นเหนือกว่าโครงสร้างทางเคมีของวิตามินทั้งสองประเภทอาจเหมือนกันแต่วิตามินธรรมชาติให้อะไรกับคุณได้มากกว่าเพราะมีสารต่างๆรวมอยู่ด้วยมากกว่า

วิตามินซีสังเคราะห์มีเพียงกรดแอสคอร์บิก เท่านั้นแต่วิตามินซีธรรมชาติมีไบโอฟลาโวนอยด์ ซีคอมเพล็กซ์ ทางกลุ่มจึงส่งผลให้วิตามินซีทำงานได้มีประสิทธิภาพกว่า

วิตามินอีธรรมชาติมีโทรโคฟีรอลทุกชนิดทั้งแอลฟา บีต้า (เบต้า) แกมมาและเดลตา ไม่ได้มีเพียงแต่แอลฟา จึงมีประสิทธิภาพและถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าวิตามินสังเคราะห์ที่มีเพียงดีแอล-แอลฟาโทรอโคฟีรอล

นายแพทย์เธรอน จี. แรนดอล์ฟ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ให้ความเห็นว่า “สารที่สังเคราะห์อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ในคนที่มีแนวโน้มว่าจะแพ้ง่ายถึงแม้ว่าสารที่มีโครงสร้างทางเคมีแบบเดียวกันจากธรรมชาติจะไม่ทำให้เกิดการแพ้แต่อย่างใด”

ในอีกแง่หนึ่งผู้ที่มีประวัติแพ้ละอองเกสรอาจจะมีอาการแพ้เมื่อรับประทานวิตามินซีจากธรรมชาติที่มีละอองเกสรเจือปน

กระนั้นก็ตามหลายคนที่เคยรับประทานวิตามินทั้งสองประเภทอาจจะเห็นด้วยว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากธรรมชาติทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนน้อยกว่าและมีอาการไม่พึงประสงค์น้อยกว่าแบบสังเคราะห์เมื่อรับประทานในปริมาณที่สูงกว่าคำแนะนำ

มีสารอะไรอื่นอีกบ้างในเม็ดวิตามิน

มีอะไรในเม็ดวิตามินเสริมอาหารมากกว่าที่เราเห็นและบางครั้งก็มากกว่าที่ระบุไว้บนฉลาก สารเพิ่มเนื้อ สารยึดเกาะ สารหล่อลื่นและสารอื่นๆที่ไม่ได้มีกฎให้ต้องระบุไว้บนฉลากจึงพบได้บ่อยครั้งที่ไม่มีการระบุใดใด แต่หากคุณสงสัยใคร่รู้ว่าคุณกลืนอะไรลงไปบ้างรายชื่อสารต่อไปนี้น่าจะช่วยบอกคุณได้

สารเจือจาง (Diluent) หรือสารเพิ่มเนื้อ (Filler) เป็นสารที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสารอื่นแต่ถูกเติมลงไปในเม็ดยาเพื่อเพิ่มขนาดของเม็ดให้สามารถผ่านกระบวนการอัดเม็ดได้ อย่างเช่น ไดแคลเซียมฟอตเฟตซึ่งเป็นแหล่งของแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัสที่ดีมักใช้ในยี่ห้อที่มีคุณภาพ เป็นสารที่สกัดจากหินได้บริสุทธิ์ มีลักษณะเป็นผงสีขาว แต่บางครั้งก็อาจนำเอาซอร์บิทอลและเซลลูโลส (เส้นใยจากพืช) มาใช้แทน

สารยึดเกาะ (Binder) สารในกลุ่มนี้ช่วยเพิ่มการเกาะตัวของวัตถุดิบที่เป็นผง หรืออีกนัยหนึ่งคือสารยึดเกาะเป็นสารที่ทำให้วัตถุดิบต่างๆเป็นผงร่วมกันเป็นเม็ดได้ สารที่มีการใช้บ่อยที่สุด คือเซลลูโลสและเอทิลเซลลูโลส เซลลูโลสเป็นส่วนประกอบหลักของเส้นใยในพืชบางครั้งอาจมีการใช้เลซิทิน หรือ ซอร์บิทอลแทน ศาลยึดเกาะอีกตัวที่อาจมีการนำมาใช้แต่คุณควรดูให้ดีและหลีกเลี่ยงคือ อะเคเซีย (acacia หรือ gum arabic) ซึ่งเป็นยางจากพืชที่ผ่านมาตรฐานว่าปลอดภัยระดับหนึ่งหรือจีอาร์เอเอส (GRAS: Generally Recognized As Safe) จากองค์กรอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา แต่อาจทำให้เกิดอาการหอบหืดกำเริบและผื่นแพ้ในผู้ที่เป็นหืด หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีแนวโน้มจะแพ้ได้ง่าย

สารหล่อลื่น (Lubricant) สารที่มีความมันส์ที่ถูกเติมเข้าไปในเม็ดยาเพื่อไม่ให้ติดกับเครื่องจักรที่ผลิต แคลเซียมสเตียเรตและซิลิกา เป็นสารที่ใช้กันบ่อยที่สุด  แคลเซียมสเตียเรตดัดแปลงมาจากน้ำมันพืชส่วนซิลิกามีลักษณะเป็นผงสีขาวมีอยู่ตามธรรมชาติบางครั้งอาจใช้เป็นแมกนีเซียมสเตอเรตได้เช่นกัน

สารช่วยการแตกตัว (Disintegrator) เช่นสารกัมอราบิก อัลจินและอัลจิเนตซึ่งถูกเติมลงไปในเม็ดยาเพื่อทำให้เกิดการแต่งตัวหลังจากรับประทานอาหาร

สี (Color) ช่วยให้เม็ดยาดูสวยงามน่ารับประทานขึ้น สีจากแหล่งธรรมชาติเช่น โคโรฟิลล์ ถือว่าดีที่สุด

สารแต่งรสและสารให้ความหวานใช้เฉพาะในเม็ดแบบเคี้ยว สารให้ความหวานที่ใช้มักเป็นฟรักโทส (น้ำตาลจากผลไม้) มอลต์เดกซ์ทริน ซอร์บิทอล หรือมอลโทส ส่วนซูโครส (น้ำตาลทราย) ไม่ค่อยมีการนำมาใช้โดยเฉพาะในยี่ห้อที่มีคุณภาพ

สารเคลือบผิว (Coating material) เป็นสารที่ใช้เพื่อป้องกันเม็ดยาจากความชื้นช่วยกลบรสชาติหรือกลิ่นอันไม่พึงประสงค์และยังทำให้เม็ดยากลืนง่ายขึ้นด้วย ซีน(Zein) เป็นสารตัวหนึ่งที่มีการนำมาใช้เป็นสารธรรมชาติสกัดจากโปรตีนข้าวโพดมีลักษณะเป็นฟิล์มใสเครื่อภายนอกสารอีกตัวที่มีการนำมาใช้บ่อยคือ บราซิลแว็กซ์ เป็นสารธรรมชาติที่สกัดจากต้นปาล์ม

สารทำให้แห้ง (Drying agent) เป็นสารที่ช่วยป้องกันไม่ให้วัตถุดิบในวิตามินที่ถูกดูดซึมน้ำได้ดูดซับความชื้นในขณะผลิต ซิลิกาเจลเป็นสารที่มีการนำมาใช้กันบ่อยที่สุด

การเก็บรักษาและความคงทน

ผลิตภัณฑ์วิตามินและแร่ธาตุเสริม อาหารควรเก็บรักษาในที่แห้งเลยมืดห่างไกลจากแสงแดดบรรจุในภาชนะที่ทึบและปิดมิดชิดไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เย็นนอกเสียจากว่าคุณอยู่ในสภาพพูมิอากาศแบบทะเลทรายเพื่อป้องกันความชื้นให้ใส่ข้าว 5- 10 เมล็ดลงไปที่ก้นกระปุกวิตามิน ข้าวจะเป็นตัวดูดซับความชื้นตามธรรมชาติได้

วิตามินที่เก็บในที่เย็นผลจากแสงและปิดไว้อย่างดีจะมีประสิทธิภาพคงอยู่ได้ 2-3 ปีแต่เพื่อรับประกันความสดใหม่คุณควรเลือกซื้อยี่ห้อที่ระบุวันหมดอายุไว้ที่ฉลากและเมื่อคุณเปิดกระปุกแล้วจะมีประสิทธิภาพคงอยู่ได้ประมาณหกเดือน

ร่างกายของเรามีแนวโน้มที่จะขับสารต่างๆที่เรารับประทานออกมาทางปัสสาวะในเวลาประมาณสี่ชั่วโมงโดยเฉพาะบรรดาวิตามินที่ละลายน้ำมักเป็นไปตามกฎนี้เป็นส่วนมาก เช่นวิตามินบีและซีโดยเฉพาะหากรับประทานตอนท้องว่างวิตามินบีและซีอาจถูกขับออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงหลังรับประทาน

วิตามินที่ละลายในไขมันเช่น วิตามินเอ ดี อีและเค จะอยู่ในร่างกายเราประมาณ 24 ชั่วโมงปริมาณที่มากเกินความจำเป็นจะถูกนำไปเก็บไว้ที่ตับได้นานขึ้นแต่วิตามินเอและอีแบบแห้งจะไม่สามารถอยู่ในร่างกายได้นานเท่า

จะรับประทานวิตามินเสริมอาหารเมื่อใดและอย่างไร

ร่างกายมนุษย์ทำงานเป็นวัฎจักรตลอด 24 ชั่วโมงเซลล์ของคุณไม่ได้นอนหลับไปด้วยในขณะที่คุณหลับและเซลล์ก็ไม่สามารถมีชีวิตได้หากปราศจากออกซิเจนและสารอาหารหล่อเลี้ยงอย่างต่อเนื่องดังนั้นเพื่อให้ได้ผลดีกับร่างกายที่สุดผมแนะนำให้แบ่งวิตามินเสริมอาหารของคุณเป็นมื้อมื้อรับประทานตลอดทั้งวัน

ช่วงเวลาหลักในการรับประทานวิตามินคือพร้อมมืออาหารหรือหลังอาหารเพื่อเนื่องจากวิตามินเป็นสารอินทรีย์จึงควรรับประทานพร้อมอาหารและแร่ธาตุอื่นเพื่อการดูดซึมที่ดีที่สุดเนื่องจากวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ โดยเฉพาะวิตามินบีรวมและซีจะถูกขับออกทางปัสสาวะอย่างรวดเร็ว หากคุณสามารถรับประทานพร้อมอาหารเช้าอาหารกลางวันและอาหารเย็นได้จะช่วยให้ร่างกายคุณมีวิตามินในระดับสูงตลอดทั้งวันแต่ถ้าไม่สะดวกที่จะรับประทานหลังอาหารทุกมื้อ รับประทานเครื่องหนึ่งหลังอาหารเช้าและอีกครึ่งหนึ่งหลังอาหารเย็นแทนก็ได้

หากคุณต้องรับประทานวิตามินทั้งหมดภายในมื้อเดียวควรเลือกรับประทานหลังอาหารมื้อใหญ่สุดของวัน

และอย่าลืมว่าแร่ธาตุสำคัญอย่างยิ่งต่อการดูดซึมวิตามินคุณจึงควรรับประทานวิตามินและแร่ธาตุไปพร้อมพร้อมกัน

หากคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์และอยากอ่านเกี่ยวกับหัวข้อนี้เพิ่มเติม สามารถสนับสนุนดร.เอิร์ล มินเดลล์ (ผู้แต่ง) พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (แปล) ได้โดยการซื้อหนังสือวิตามินไบเบิล

 


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Riboflavin Deficiency. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK470460/)
The discovery and characterization of riboflavin. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23183293)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป