ก้อนที่ขาหนีบ (Groin Lump) หมายถึง การพบก้อนใดๆ ที่บริเวณขาหนีบ ก้อนที่เกิดขึ้นจะมีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกันไป อาจมีอาการเจ็บปวดหรือไม่ก็ได้
ลักษณะของก้อนอาจพบเป็นก้อนเดียว หรือพบเป็นกลุ่มก้อนก็ได้ อาจมีสีเดียวกับผิวหนัง หรือมีสีแดง หรือสีม่วง โดยรูปร่างและลักษณะของก้อนที่ขาหนีบ จะขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดเป็นส่วนใหญ่
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สาเหตุของการเกิดก้อนที่ขาหนีบ
- ซีสต์ (Cysts) กรณีที่เกิดจากซีสต์ หรือถุงน้ำ อาจพบก้อนเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและไม่สบายตัว
- ต่อมน้ำเหลืองโต (Swollen Glands) หากเกิดการติดเชื้อ เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือมีภาวะโมโนนิวคลีโอซิส (Mononucleosis) อาจทำให้เกิดภาวะต่อมน้ำเหลืองโตที่ขาหนีบได้ ซึ่งมักเกิดขึ้นพร้อมๆ กับต่อมน้ำเหลืองโตที่คอ หรือรักแร้ นอกจากนี้ยังพบภาวะต่อมน้ำเหลืองโตได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น มะร็งต่อมน้ำเหลือง
- ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ (Hernia) มักพบก้อนขนาดใหญ่ ตุง นูน และนิ่ม ที่เกิดจากลำไส้ หรือเนื้อเยื่อช่องท้องส่วนล่างหย่อนยาน ทำให้มีไส้เลื่อนออกมาบริเวณหัวเหน่า ภาวะไส้เลื่อนเป็นภาวะที่ต้องเข้ารับการรักษาโดยเร็วหากเกิดภาวะแทรกซ้อน
- การติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually transmitted infections (STIs)) โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางโรคเป็นสาเหตุของการเกิดก้อนที่ขาหนีบได้ เพราะทำให้เกิดการบวมของต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ เช่น
- เริม (Herpes)
- หนองในเทียม (Chlamydia)
- หนองในแท้ (Gonorrhea)
- ซิฟิลิส (Syphilis)
- ภาวะ Saphena Varix ถ้าก้อนที่ขาหนีบยุบลงได้เมื่อนอนลง อาจเกิดจากภาวะที่เรียกว่า "Saphena varix" เกิดจากลิ้นในเส้นเลือดดำที่ชื่อ Saphenous Vein ไม่สามารถเปิดเพื่อให้เลือดไหลเวียนตามปกติ ทำให้เกิดเลือดคั่งภายในเส้นเลือดดำนั้น กรณีนี้จะทำให้เกิดก้อนที่มีขนาดใหญ่เท่าลูกกอล์ฟและสังเกตเห็นเป็นสีน้ำเงิน มักพบที่บริเวณขา หรือเท้า
การรักษาก้อนที่ขาหนีบ
เนื่องจากก้อนที่ขาหนีบเกิดได้จากหลายสาเหตุ จึงต้องมีการวินิจฉัยอย่างละเอียดก่อนว่า เกิดจากสาเหตุใด เพื่อจะได้รักษาตามสาเหตุอย่างถูกต้อง
เช่น ในกรณีที่เป็นซีสต์ หรือมีภาวะไส้เลื่อน ก็อาจต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัด แต่ถ้าหากเกิดจากต่อมน้ำเหลืองโต แพทย์อาจจ่ายยาปฏิชีวนะให้ไปรับประทานเพื่อรักษาอาการติดเชื้อ
การพบก้อนที่ขาหนีบ ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษา แม้ว่าซีสต์และต่อมน้ำเหลืองโตจะไม่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนในระยะยาว แต่หาเป็นโรคไส้เลื่อนแล้วไม่ได้รักษา อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
หรือถ้าหากเกิดจากการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด เช่น ซิฟิลิส อาจทำให้ตาบอด ร่างกายเป็นอัมพาต และสมองเสื่อมได้
การป้องกันการเกิดอาการก้อนที่ขาหนีบ
ส่วนมากแล้วอาการก้อนที่ขาหนีบจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติและไม่สามารถป้องกันได้ แต่ก็อาจหลีกเลี่ยงบางปัจจัยได้ดังนี้
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
- ไม่เบ่งอุจจาระรุนแรง
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี เพื่อลดความเสี่ยงต่อการมีภาวะไส้เลื่อน
หมั่นสังเกตตนเองเสมอ หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นมีอาการเจ็บปวด หรืออวัยวะ ผิวหนังส่วนใดมีลักษณะแปลกไป จากนั้นลองสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดอาการเพื่อหลีกเลี่ยง
หากอาการไม่ดีขึ้นให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพผู้หญิงและผู้ชายทุกวัย จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android