การขับรถทางไกลมักทำให้คนขับรู้สึกเหนื่อยล้าและเกิดอาการปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น บ่า สะบัก หลัง และสะโพก เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาการเหล่านี้มักเกิดจากท่านั่งขับรถที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น ปรับเอนไปข้างหลังมากเกินไปเพราะคิดว่าจะทำให้สบาย แต่หากสังเกตดูให้ดี เมื่อขับรถไปนานๆ บางคนจะเริ่มนั่งหลังแอ่น คอยื่นมาข้างหน้า แขนเหยียดตรง หรือห่อไหล่โดยไม่รู้ตัว
นวดจัดกระดูก (Chiropractic) วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 765 บาท ลดสูงสุด 52%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขั้นตอนปรับท่านั่งขับรถให้ถูกต้อง สบาย และปลอดภัยที่สุด
- ปรับความสูงของเบาะให้เหมาะสม: ให้ระยะห่างศีรษะกับเพดานรถ เท่ากับ 1 กำปั้น เพื่อทัศนะวิสัยในการขับรถที่ดี
- ปรับพนักพิงให้เอนเล็กน้อย: ปรับพนักพิงให้เอน 110 องศา เพื่อระยะห่างที่เหมาะสมของท่านั่งขับรถระหว่างตัวผู้ขับกับพวงมาลัย
- ปรับระยะห่างเบาะให้พอดี: เลื่อนเบาะให้ใกล้พวงมาลัยจนขางอขณะเหยียบเบรกสุด เพื่อให้สามารถเหยียบเบรกได้เต็มแรง
- นั่งชิดให้เต็มเบาะ: เพื่อให้เบาะโอบสรีระทุกส่วน สร้างความมั่นคงในการนั่ง และลดอาการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อได้
- จับพวงมาลัยในตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา: จะช่วยให้หมุนพวงมาลัยได้เร็ว และพวงมาลัยหลุดจากมือได้ยาก
- แขนงอขณะจับพวงมาลัย: เมื่อปรับความห่างของเบาะและพนักพิงเหมาะสมแล้ว แขนก็จะงอ และช่วยปรับท่านั่งขับรถ และช่วยให้บังคับพวงมาลัยได้ดีขึ้นด้วย
นอกจากปรับท่านั่งขับรถให้ถูกต้องแล้ว ยังควรแวะพักระหว่างทางเพื่อยืดเส้นยืดสายบ้าง แต่หากเป็นช่วงเทศกาลที่หาที่แวะยาก ลองดู 5 ท่าบริหารแก้เมื่อยเมื่อต้องขับรถนาน บางท่าทำได้แม้ขณะอยู่หลังพวงมาลัยเลยทีเดียว