โรคพาร์กินสันมักมีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไปและจะมีอาการเพียงเล็กน้อยในช่วงแรก มีอาการที่แตกต่างกันได้หลายอาการซึ่งสัมพันธ์กับโรคพาร์กินสัน บางส่วนของอาการที่พบได้บ่อย มีรายละเอียดดังจะกล่าวถึงด้านล่างนี้
อย่างไรก็ตามอาการใดจะเกิดขึ้นก่อนและความรุนแรงของอาการจะแตกต่างกันตามแต่ละบุคคล มีโอกาสน้อยที่จะพบว่าผู้ป่วยโรคพาร์กินสันจะมีอาการครบทุกอาการหรือมีอาการเกือบทั้งหมด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อาการหลักของโรคพาร์กินสัน (main symptoms)
อาการหลักของโรคพาร์กินสัน 3 อาการ คืออาการที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย ได้แก่:
- อาการสั่น-โดยมักจะเริ่มมีอาการที่มือหรือแขน โดยจะมีอาการในช่วงที่แขนกำลังผ่อนคลายหรือพักการใช้งาน (อาการสั่นขณะพัก)
- เคลื่อนไหวร่างกายช้า (bradykinesia)-คือ ร่างกายจะเคลื่อนไหวช้าลงกว่าปกติ ส่งผลต่อการทำกิจวัตรประจำวันได้ยากขึ้น เดินลากเท้า ก้าวสั้น และช้าลงอย่างชัดเจน
- ร่างกายแข็งเกร็ง (rigidity)-กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง ทำให้เคลื่อนไหวลำบากและส่งผลต่อการแสดงสีหน้าได้ลำบากด้วย และจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดตะคริวที่กล้ามเนื้อ
อาการหลัก 3 อาการนี้บางครั้งแพทย์อาจเรียกว่า อาการ “พาร์กินโซนิซึม” (parkinsonism) เพราะอาการเหล่านี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นนอกจากโรคพาร์กินสันได้
อาการอื่นๆ ของโรคพาร์กินสัน
โรคพาร์กินสันสามารถทำให้เกิดอาการหลากหลายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ได้แก่:
อาการด้านร่างกาย
- ปัญหาการทรงตัว-ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มีความเสี่ยงต่อการหกล้มและได้รับบาดเจ็บ
- สูญเสียความสามารถในการดมกลิ่น (การรับกลิ่น) (anosmia)-บางครั้งจะมีอาการนี้เป็นเวลาหลายปีก่อนจะมีอาการอื่นๆ ตามมา
- ปวดเส้นประสาท-ทำให้มีความรู้สึกผิดปกติ เช่น รู้สึกแสบร้อน หนาวเย็น หรืออาการชา
- ปัญหาการปัสสาวะ-เช่น การลุกขึ้นมาปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อยๆ หรือปัสสาวะโดยไม่ตั้งใจ (ปัสสาวะราด) (urinary incontinence)
- ท้องผูก
- อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว หรือไม่สามารถแข็งตัวได้จนจบการมีเพศสัมพันธ์ (erectile dysfunction หรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศ)
- ในเพศหญิงจะมีความยากในการกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศและการไปถึงจุดสุดยอดของการมีเพศสัมพันธ์ (sexual dysfunction)
- เวียนศีรษะ, มองภาพไม่ชัด หรือหน้ามืด เมื่อมีการเปลี่ยนท่าทางจากท่านั่งหรือท่านอนมาเป็นท่ายืน เพราะว่าความดันโลหิตต่ำลงอย่างรวดเร็วจึงทำให้มีอาการดังกล่าว
- เหงื่อออกมากผิดปกติ (hyperhidrosis)
- กลืนลำบาก (dysphagia) ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและขาดน้ำ
- ผลิตน้ำลายมากกว่าปกติ (น้ำลายไหล; drooling)
- ปัญหาการนอนหลับ (นอนไม่หลับ) ทำให้ผู้ป่วยมีอาการง่วงนอนระหว่างวัน
อาการด้านความรู้ความเข้าใจและอาการทางด้านจิตเวช
- ซึมเศร้าและวิตกกังวล
- การรับรู้ผิดปกติไปเล็กน้อย (mild cognitive impairment) ทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาด้านความจำและปัญหาเกี่ยวกับกิจกรรมที่ต้องอาศัยการวางแผนและการจัดการ
- สมองเสื่อม (dementia)-คือ กลุ่มของอาการ ได้แก่ มีปัญหาด้านความจำรุนแรงมากขึ้น บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง มองเห็นภาพหลอน (visual hallucinations) และมีความเชื่อในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คือมีอาการหลงผิด (delusions)
เมื่อไรต้องไปพบแพทย์
หากคุณกังวลว่าคุณจะเป็นโรคพาร์กินสัน ขอให้คุณเข้าพบแพทย์
แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับอาการของคุณและประวัติทางการแพทย์เพื่อเป็นข้อมูลประกอบว่ามีความจำเป็นต้องส่งต่อคุณไปรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการตรวจเพิ่มเติมหรือไม่