ภาวะหัวใจขาดเลือดส่วนใหญ่นั้นเกิดจากการที่เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจนั้นเกิดการอุดตันจากการรวมตัวของลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นหลังจาก cholesterol ที่สะสมอยู่ในผนังหลอดเลือดนั้นเกิดการแตกออก ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจและทำให้เกิดภาวะหัวใจขาดเลือดตามมา
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แพทย์ได้เริ่มให้ความสนใจและพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะหัวใจวายที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ มากขึ้น ภาวะนี้เรียกว่า takotsubo cardiomyopathy หรือภาวะกล้ามเนื้อหัวใจโตจากความเครียด โดยตั้งชื่อตามแพทย์ชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นคนแรกที่ทำการศึกษาเรื่องนี้นั้นได้อธิบายว่าในช่วงที่ร่างกายเกิดภาวะนี้ จะทำให้หัวใจนั้นมีลักษณะคล้ายกับหม้อของชาวญี่ปุ่นที่ใช้ในการดักจับปลาหมึก ภาวะนี้เชื่อว่าเกิดจากการเกิดความเครียดทางอารมณ์อย่างเฉียบพลัน เช่นการเสียชีวิตของบุตร และมีอันตรายน้อยกว่าภาวะหัวใจขาดเลือดแบบปกติ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
วารสาร New England Journal of Medicine ได้ตีพิมพ์งานวิจัยขนาดใหญ่ที่ทำการศึกษาผู้ป่วยภาวะนี้ 1759 คน และพบว่า 90% ของผู้ป่วยนั้นเป็นผู้หญิง โดยอายุเฉลี่ยของผู้หญิงที่เข้าร่วมงานวิจัยนั้นอยู่ที่ 67 ปี ปัจจัยที่พบบ่อยที่สุดที่กระตุ้นให้เกิดภาวะดังกล่าวคือปัญหาทางกาย (เช่นปัญหาเกี่ยวกับปอดหรือมีการติดเชื้อ) และปัจจัยที่พบบ่อยอันดับถัดมาคือการที่เกิดอาการช็อกทางอารมณ์ แต่ก็มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถระบุปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะนี้ได้
จากการเปรียบเทียบผู้ป่วยที่เป็นหัวใจขาดเลือดแบบปกติกับผู้ป่วยที่มีภาวะนี้นั้น พบว่าผู้ป่วยที่เป็น takotsubu cardiomyopathy นั้นมีโอกาสมากกว่ากลุ่มแรกประมาณ 2 เท่าในการเกิดโรคความผิดปกติทางระบบประสาทหรือโรคทางจิตเวช และอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มนั้นไม่แตกต่างกัน ซึ่งขัดแย้งกับความเชื่อในอดีต
และเมื่อแพทย์และผู้ป่วยมีการให้ความสนใจเกี่ยวกับภาวะนี้มากขึ้นในปัจจุบัน ก็จะทำให้ตรวจพบผู้ป่วยที่มีภาวะนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต ภาวะนี้ไม่ได้พบได้น้อยและไม่อันตรายอย่างที่เคยเชื่อ และจำเป็นต้องมีการทำการศึกษาและวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีในการดูแลผู้ป่วยภาวะนี้ที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพในอนาคต ในปัจจุบัน แพทย์มีการใช้ยาชนิดเดียวกับการรักษาภาวะหัวใจขาดเลือดทั่วไป แต่ก็ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับขนาดของยาที่เหมาะสมต่อการรักษาโรคนี้ค่อนข้างน้อย ยิ่งไปกว่านั้น ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางระบบประสาทและจิตเวชนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องศึกษาและอาจจะแสดงว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการแสดงอาการของโรคและภาวะทางอารมณ์ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับโรคอื่นๆ ของหัวใจได้อีกเช่นกัน