ฝีบนผิวหนัง คือ ตุ่มที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง หรือใต้ชั้นผิวหนัง ตุ่มดังกล่าวมักจะมีหนองหรือน้ำใสๆ อยู่ภายใน ส่วนมากมักจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
ฝีบนผิวสามารถเกิดขึ้นบนส่วนใดของร่างกายก็ได้ แต่ส่วนมากมักจะเป็นแผ่นหลัง ใบหน้า หน้าอก หรือบั้นท้าย บางครั้งอาจพบฝีที่ขึ้นบนบริเวณที่มีขนงอกออกมาได้ด้วย เช่น ใต้รักแร้ หรือขาหนีบ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ฝีบนผิวหนังมักไม่เป็นอันตราย และจะหายไปเองแม้ไม่ได้รับการรักษา สามารถใช้ครีมหรือยาที่หาซื้อได้ทั่วไปมาใช้เพื่อเร่งกระบวนการรักษาฝีขนาดเล็กก็ได้ แต่ในกรณีที่มีฝีขนาดใหญ่ก็อาจรักษาได้ยาก และต้องมีการดูด หรือรีดหนองออก
อย่างไรก็ตาม มีหลายกรณีที่การเป็นฝีบนผิวหนังนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงถึงชีวิตได้ หากปล่อยทิ้งเอาไว้โดยไม่ทำการรักษา เช่น
- การลุกลามของภาวะติดเชื้อที่อาจขึ้นไปยังสมองหรือไขสันหลัง
- ภาวะโลหิตเป็นพิษ (Blood Poisoning)
- ภาวะเยื่อบุหัวใจอักเสบ (Endocarditis)
- การเกิดฝีจุดใหม่
- เนื้อเยื่อบริเวณที่มีฝีตาย (Gangrene)
- การติดเชื้อที่กระดูกอย่างเฉียบพลัน (Osteomyelitis)
อาการของฝีบนผิวหนัง
ฝีบนผิวหนังมักจะเกิดขึ้นเป็นตุ่มคล้ายกับสิว แต่ตุ่มดังกล่าวจะโตขึ้นตามกาลเวลา และจะมีลักษณะคล้ายก้อนซิสต์ที่เต็มไปด้วยของเหลว อาจพบอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดฝีขึ้น โดยอาการต่างๆ ได้แก่
- มีไข้
- คลื่นไส้
- หนาวสั่น
- บวม
- มีรอยโรคบนผิวหนัง
- ผิวอักเสบ
- มีของเหลวไหลออกจากฝี
สาเหตุทั่วไปของฝีบนผิวหนัง
การเกิดฝีบนผิวหนัง มักเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
- แบคทีเรีย เชื้อสตาฟิโลคอคคัส (Staphylococcus) เป็นแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของฝีบนผิวหนังที่พบได้มากที่สุด โดยแบคทีเรียชนิดดังกล่าวจะเข้าสู่ร่างกายผ่านรูขุมขน หรือจากบาดแผลที่เจาะผ่านชั้นผิวหนังลงไป และจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียมากขึ้น หากมีปัจจัยดังต่อไปนี้
- รูขุมขนติดเชื้อ (Folliculitis) อาจทำให้เกิดฝีขึ้นในรูขุมขนได้ โดยภาวะติดเชื้อที่รูขุมขนนั้นเกิดจากการที่ขนอุดตันใต้ผิวหนังและไม่สามารถงอกออกมาได้
รูขุมขนติดเชื้อมักเกิดขึ้นหลังการโกนขน ขนที่งอกใต้ผิวจะเรียกว่าขนคุด (Ingrown Hairs) และเป็นระยะเริ่มต้นของการติดเชื้อ ฝีบนผิวหนังที่เกิดจากรูขุมขนอุดตันมักจะมีขนติดอยู่ภายในฝีด้วย
การวินิจฉัยฝีบนผิวหนัง
ตุ่มฝีที่ปรากฏออกมาเพียงตุ่มเดียวมักไม่ทำให้เกิดปัญหาใดๆ เพราะสามารถจัดการ หรือรักษากับตุ่มฝีนั้นๆ ได้เองที่บ้าน แต่หากเกิดตุ่มฝีขึ้นหลายตุ่มร่วมกับอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบมาพบแพทย์ทันที
- มีอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือมีอายุเกิน 65 ปี
- มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือเพิ่งออกจากโรงพยาบาล
- เพิ่งเข้ารับการปลูกถ่ายอวัยวะ
- กำลังเข้ารับ หรือเพิ่งเสร็จสิ้นการบำบัดเคมีไม่นาน
- ฝีบนผิวหนังเกิดบนใบหน้า หรือแนวกระดูกสันหลัง
- ฝีมีขนาดใหญ่ และไม่หายเองหลังผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์โดยมีไข้ร่วมด้วย
- ฝีเริ่มลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
- ฝีสร้างความเจ็บปวดมากขึ้น
- อวัยวะแขนขาบวมขึ้น
- ผิวหนังรอบฝีบวม หรือมีสีแดงมาก
แพทย์จะตรวจสอบประวัติสุขภาพ และดำเนินการตรวจร่างกายของเพื่อสังเกตลักษณะของฝีที่เกิดขึ้น เมื่อการตรวจร่างกายเสร็จสิ้น แพทย์จะบอกได้ทันทีว่าฝีนั้นเกิดจากการบาดเจ็บหรือขนคุด
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
แพทย์อาจเจาะ หรือเก็บตัวอย่างของเหลวจากฝีไปทดสอบหาร่องรอยของเชื้อแบคทีเรีย และหากผู้ป่วยมีฝีบนผิวหนังซ้ำซากจนแพทย์รู้สึกว่า ต้นเหตุของฝีอาจเกิดจากภาวะทางการแพทย์ ก็อาจจัดให้มีการตรวจเลือด หรือตรวจปัสสาวะร่วมด้วย
การรักษาฝีบนผิวหนัง
ฝีที่ผิวหนังสามารถรักษาได้เองที่บ้าน ด้วยการประคบร้อนที่ฝีเพื่อทำให้ตุ่มหดตัว และของเหลวที่ดูดออกไป วิธีประคบร้อนที่ได้ผลดีที่สุด คือ การใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำอุ่นแล้ววางไว้บนฝี
หากฝีบนผิวหนังที่เป็นอยู่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาที่บ้านข้างต้นก็ให้ไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์เจาะดูดของเหลวในฝีออกด้วยกรีดเปิดฝีเพื่อทำให้ของเหลวไหลออกมา หลังจากที่ของเหลวออกมาหมดแล้ว แพทย์จะปิดแผลกรีดด้วยเครื่องมือผ่าตัด ซึ่งจะช่วยให้แผลสมานตัวและป้องกันการเกิดฝีขึ้นมาอีกครั้ง
ในกรณีที่เป็นฝีบนผิวหนังชนิดรุนแรงซึ่งจะต้องมีการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ แพทย์อาจจ่ายยา เช่น Dicloxacillin หรือ Cephalexin หากว่า ผู้ป่วยมีฝีบนใบหน้าที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง มีเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ มีฝีมากกว่าหนึ่งจุด และมีภูมิคุ้มกันไม่ดี
การป้องกันฝีบนผิวหนัง
ฝีบนผิวหนังอาจไม่สามารถป้องกันได้เสมอไป แต่ก็มีวิธีลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้ออยู่มากมาย เช่น
- ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ
- ทำความสะอาดแผลบาด หรือแผลถลอกแม้จะเพียงเล็กน้อยด้วยน้ำ และสบู่ จากนั้นทาด้วยยาฆ่าเชื้อโรค
- ปกปิดบาดแผลทั้งหมดอย่างมิดชิด เพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่ม
- ไม่ควรใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูเตียง มีดโกน อุปกรณ์กีฬา เครื่องสำอาง และเสื้อผ้า หากมีแผล ให้ซักผ้าปูเตียงกับผ้าเช็ดตัวในน้ำร้อนเพื่อกำจัดเชื้อโรค
ฝีบนผิวหนังเป็นภาวะที่รักษาไม่ยาก แค่อาศัยการรักษาความสะอาดร่างกาย และรู้จักการสังเกตว่า ร่างกายมีตุ่มขึ้นอย่างไม่ทราบที่มาหรือไม่ จากนั้นให้รีบไปพบแพทย์เพื่อขอรับการวินิจฉัย และรักษาอย่างเหมาะสม เพียงเท่านี้ฝีบนผิวหนังก็จะหายได้โดยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนใดๆ
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจรักษาสิว ลดรอยสิว จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
เป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเดียวกันในช่วงๆเวลาใกล้กันได้หรือไม่คะ