ภูวนัย ดวงสุภา
เขียนโดย
ภูวนัย ดวงสุภา
นพ.วรพันธ์ พุทธศักดา
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
นพ.วรพันธ์ พุทธศักดา

โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล...ภาวะซึมเศร้าที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูใดฤดูหนึ่ง

ในบางครั้ง ฝนตก หรืออากาศหนาว อาจนำมาซึ่งโรคซึมเศร้าตามฤดูกาลได้โดยไม่รู้ตัว มาทำความรู้จักอาการ และวิธีรับมืออย่างเหมาะสม
เผยแพร่ครั้งแรก 15 ต.ค. 2020 อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 2021 ตรวจสอบความถูกต้อง 13 ม.ค. 2021 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที
โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล...ภาวะซึมเศร้าที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูใดฤดูหนึ่ง

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล (Seasonal Affective Disorder: SAD) เป็นหนึ่งในชนิดของโรคซึมเศร้า มีอาการคล้ายโรคซึมเศร้าทั่วไป แต่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูใดฤดูหนึ่ง และอาการจะดีขึ้นเมื่อฤดูนั้นผ่านพ้นไป
  • ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่พบปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การขาดแสงแดดในฤดูหนาว พันธุกรรม และเกิดจากสารสื่อประสาทและสมองเสียสมดุลไป
  • มีอาการคล้ายกับโรคซึมเศร้าทั่วไป แต่จะเกิดขึ้นในฤดูใดฤดูหนึ่งเท่านั้น เช่น รู้สึกหดหู่ หรือซึมเศร้าติดต่อกัน 2 สัปดาห์ขึ้นไป ไม่มีความสุข หงุดหงิด อ่อนเพลีย เฉื่อยชา มีปัญหาด้านการจดจ่อ มีความคิดที่จะตาย หรืออยากฆ่าตัวตาย
  • แนวทางการรักษาคล้ายกับโรคซึมเศร้าทั่วไปคือ รักษาด้วยยา บำบัดจิตใจกับจิตแพทย์ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น หมั่นออกไปสัมผัสแสงแดด ออกกำลังกายเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียด 
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจปรึกษาสุขภาพจิตกับจิตแพทย์

เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว การดูแลสุขภาพร่างกายไม่ให้ป่วยไข้เป็นสิ่งสำคัญ และมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การดูแลสุขภาพใจ เพราะในบางครั้งฤดูกาลอาจมาพร้อมกับ “โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล”

ทำความรู้จักโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล

โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล (Seasonal Affective Disorder: SAD) เป็นหนึ่งในชนิดของโรคซึมเศร้า มีอาการคล้ายโรคซึมเศร้าทั่วไป แต่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูใดฤดูหนึ่งเท่านั้น และอาการจะดีขึ้นเมื่อฤดูนั้นผ่านพ้นไป

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาสุขภาพจิต วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 882 บาท ลดสูงสุด 51%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

โรคซึมเศร้าตามฤดูกาลมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว ในบางครั้งจึงเรียกโรคนี้ว่า โรคซึมเศร้าในฤดูหนาว (Winter Depression) มักพบในต่างประเทศมากกว่า เพราะประเทศไทยมีระยะเวลาของฤดหนาวค่อนข้างสั้น และระยะเวลาของกลางวันกับกลางคืนใกล้เคียงกันตลอดทั้งปี

อย่างไรก็ตาม โรคซึมเศร้าตามฤดูกาลไม่ได้เกิดเฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดในฤดูร้อน หรือฤดูฝนได้อีกด้วย

โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล เกิดจากอะไร?

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่พบปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล ดังนี้

การขาดแสงแดดในฤดูหนาว

ฤดูหนาวเป็นช่วงที่มีระยะเวลากลางคืนมากกว่ากลางวัน ทำให้ร่างกายสัมผัสแสงแดดได้น้อยลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของนาฬิกาชีวภาพ (Biological clock) ได้ ดังนี้

  • ผลิตสารเมลาโทนิน (Melatonin) เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมวงจรการนอนหลับและการตื่น ในผู้ที่มีอาการซึมเศร้า การที่ร่างกายมีระดับเมลาโทนินสูงขึ้นอาจส่งผลให้อาการซึมเศร้าแย่ลงได้
  • ผลิตเซโรโทนิน (Serotonin) น้อยลง เนื่องจากแสงแดดมีส่วนช่วยในการสังเคราะห์เซโรโทนิน โดยการที่ร่างกายมีระดับเซโรโทนินลดลงจะส่งผลให้นอนไม่หลับ เกิดความเครียด รู้สึกวิตกกังวล หรืออยากอาหารเพิ่มขึ้น

ระดับฮอร์โมนในร่างกายมีผลต่อการทำงานของร่างกายในหลายๆ ด้าน ฮอร์โมนบางชนิดมีมากไปก็ไม่ดี บางชนิดมีน้อยไปก็ไม่ดี 

หากสงสัยว่า ระดับฮอร์โมนในร่างกายของเรามีระดับเท่าไหร่กันบ้าง ควรเสริมอะไร หรือควรลดอะไร ปัจจุบันโรงพยาบาลหลายแห่งก็มีบริการตรวจระดับฮอร์โมนในร่างกายแล้ว หรือหากต้องการตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ในร่างกายก็มีบริการเช่นกัน   

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาสุขภาพจิต วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 882 บาท ลดสูงสุด 51%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

พันธุกรรม

ผู้ที่ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคซึมเศร้าตามฤดูกาลจะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าตามฤดูกาลมากกว่าคนทั่วไป

ปัจจัยทางร่างกาย

ในบางครั้งโรคซึมเศร้าตามฤดูกาลอาจเกิดจากสารสื่อประสาท หรือสารเคมีในสมองเสียสมดุล ทำให้เกิดอาการซึมเศร้าได้ แม้ว่าจะไม่มีความเครียดใดๆ เลยก็ตาม

นอกจากนี้ในผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า หรือโรคอารมณ์สองขั้วอยู่แล้ว ก็อาจมีอาการแย่ลงในบางฤดูกาลได้

อาการของโรคซึมเศร้า เป็นอย่างไร?

โรคซึมเศร้าตามฤดูกาลคล้ายกับโรคซึมเศร้าทั่วไป แต่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลใดฤดูกาลหนึ่งเท่านั้น ดังนี้

  • รู้สึกหดหู่ หรือซึมเศร้า เกือบทุกวัน หรือทุกวัน ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ขึ้นไป
  • รู้สึกไม่มีความสุข หรือไม่มีความสนใจในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เคยชอบทำ
  • รู้สึกหงุดหงิด สิ้นหวัง รู้สึกผิด หรือรู้สึกไร้ค่า
  • รู้สึกเซื่องซึม อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ง่วงนอนในระหว่างวัน
  • มีปัญหาด้านการนอนหลับ เช่น นอนหลับนานกว่าปกติ หรือตื่นนอนในตอนเช้ายากกว่าปกติ
  • มีการเปลี่ยนแปลงด้านความอยากอาหาร รวมถึงน้ำหนักตัว
  • รู้สึกเฉื่อยชา หรือกระสับกระส่าย
  • มีปัญหาในการจดจ่อ
  • มีความคิดที่จะตาย หรืออยากฆ่าตัวตาย

อาการที่พบบ่อยของโรคซึมเศร้าในฤดูหนาว ได้แก่

  • นอนหลับมากกว่าปกติ
  • อยากรับประทานคาร์โบไฮเดรต หรือของหวานเพิ่มมากขึ้น
  • น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น
  • รู้สึกเหนื่อยล้า หรืออ่อนเพลีย

อาการที่พบบ่อยของโรคซึมเศร้าในฤดูร้อน ได้แก่

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาสุขภาพจิต วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 882 บาท ลดสูงสุด 51%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

  • นอนไม่หลับ
  • รู้สึกไม่อยากอาหาร
  • น้ำหนักลดลง
  • รู้สึกวิตกกังวล

หากมีอาการดังกล่าวติดต่อกัน 1-2 สัปดาห์ หรือมีอาการรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อกิจวัตรประจำวัน การทำงาน หรือการเข้าสังคม ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ และเข้ารับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม

แนวทางการรักษาโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล

สถาบันแห่งชาติเพื่อความเป็นเลิศด้านสุขภาพและการแพทย์ ประเทศอังกฤษ (National Institute for Health and Care Excellence : NICE) แนะนำว่า แนวทางการรักษาโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล ควรเป็นไปในลักษณะเดียวกับโรคซึมเศร้าประเภทอื่นๆ ดังนี้

  • การรักษาด้วยยา เช่น ยาต้านอาการซึมเศร้า (Selective serotonin reuptake inhibitors: SSRIs) ออกฤทธิ์โดยการช่วยให้เพิ่มระดับเซโรโทนินในสมอง
  • การรักษาทางจิตใจโดยจิตแพทย์ มีหลายเป้าหมาย เช่น ปรับความคิดและพฤติกรรม ปรับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล หรือทำจิตบำบัดเชิงลึก เพื่อช่วยให้เข้าใจปมขัดแย้งที่อยู่ในจิตใจจนนำมาสู่โรคซึมเศร้าได้
  • การบำบัดด้วยแสง โดยใช้หลอดไฟชนิดพิเศษที่เรียกว่า "กล่องไฟ (Light box)" เพื่อจำลองการสัมผัสกับแสงแดด แต่ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น สัมผัสแสงแดดในยามเช้ามากเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่งใกล้หน้าต่าง ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียด

การป้องกันโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล

แม้จะไม่สามารถป้องกันโรคซึมเศร้าตามฤดูกาลได้ทั้งหมด แต่การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงก็ช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ได้ ดังนี้

  • หมั่นไปรับแสงแดดยามเช้าเป็นเวลา 30-60 นาที เพื่อเพิ่มการหลั่งเซโรโทนิน ช่วยให้รู้สึกสดชื่น กะปรี้กะเปร่า และป้องกันโรคซึมเศร้าได้ด้วย
  • รับประทานอาหารที่มีทริปโตเฟน (Tryptophan) ที่เป็นสารตั้งต้นของเซโรโทนิน มีส่วนช่วยในการนอนหลับ ลดอาการซึมเศร้า บรรเทาอาการไมเกรน และความเครียด เช่น ไข่ เนื้อสัตว์ นม อาหารทะเล งา เมล็ดทานตะวัน ข้าวโอ๊ต ช็อกโกแล็ต อินทผลัมแห้ง กล้วย สาหร่าย
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายเป็นประจำ วันละ 30-40 นาที จะช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินในร่างกาย เพิ่มระดับทริปโตเฟน และช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานเป็นปกติ
  • บำบัดความเครียดเป็นประจำ โดยการทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียด เช่น การดูหนัง ฟังเพลง หรือเข้ารับคำปรึกษากับจิตแพทย์

ฝนตก หรืออากาศหนาว อาจนำมาซึ่งโรคซึมเศร้าตามฤดูกาลได้โดยไม่รู้ตัว แต่ไม่ว่าจะอยู่ในฤดูกาลใดก็ตาม หากคุณรู้สึกเครียด กังวล หงุดหงิด หรือรู้สึกซึมเศร้า การขอคำปรึกษากับจิตแพทย์จะช่วยให้รับมือกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ แม้จะไม่ใช่อาการที่เกิดจากโรคซึมเศร้าก็ตาม

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจปรึกษาสุขภาพจิตกับจิตแพทย์ จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android 


6 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
NHS, Treatment seasonal affective disorder (SAD) (https://www.nhs.uk/conditions/seasonal-affective-disorder-sad/treatment/), 30 July 2018.
NHS, Seasonal affective disorder (SAD) (https://www.nhs.uk/conditions/seasonal-affective-disorder-sad/), 30 July 2018.
Mayo clinic, Seasonal affective disorder (SAD) (https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/seasonal-affective-disorder/symptoms-causes/syc-20364651), 25 October 2017.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
สถิติของโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่ง
สถิติของโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่ง

โรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่งพบได้บ่อยกว่าที่คุณคิด

อ่านเพิ่ม
จะช่วยเพื่อนที่มีภาวะบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่ง (Borderline Personality Disorder; BPD) ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร
จะช่วยเพื่อนที่มีภาวะบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่ง (Borderline Personality Disorder; BPD) ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร

การเป็นเพื่อนที่ดีของคนที่มีอาการบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่ง (Borderline Personality Disorder; BPD)

อ่านเพิ่ม
การใช้ Paxil สำหรับโรควิตกกังวล
การใช้ Paxil สำหรับโรควิตกกังวล

Paxil ทำงานอย่างไร ผลข้างเคียง และข้อมูลอื่นๆ

อ่านเพิ่ม