ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังทุกรายมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน, หลอดเลือดสมองตีบตัน หลอดเลือดส่วนปลายตีบตัน และโรคหัวใจวาย และมีสาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่จากโรคหัวใจและหลอดเลือด สามารถแบ่งปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ
1. ปัจจัยเสี่ยงทั่วไป
ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน การสูบบุหรี่ สูงอายุ โรคอ้วน เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้พบเพิ่มขึ้นในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง เมื่อเทียบกับประชากรทั่วไป
ตรวจไต ฟอกไต รักษาโรคไต วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 50 บาท ลดสูงสุด 83%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
2. ปัจจัยเสี่ยงสัมพันธ์กับโรคไตเรื้อรัง
เชื่อว่า เกิดจากของเสียคั่งในร่างกาย (ruemic toxin) และผลแทรกซ้อนต่าง ๆ จากโรคไตเรื้อรัง โดยปัจจัยกลุ่มนี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้น เมื่อการทำงานของไตลดลง หรือโรคดำเนินเข้าสู่ไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ปัจจัยในกลุ่มนี้ได้แก่
- ภาวะโลหิตจาง เมื่อไตทำงานลดลงจะสร้างฮอร์โมนอีริโธรปัวอิติน (erythropoietin) ที่ใช้ในขบวนการสร้างเม็ดเลือดแดงลดลงตาม พบว่า ภววะโลหิตจางเป็นสาเหตุหลักของการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจโต และเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยไตเรื้อรัง โดยเฉพาะเมื่อระดับฮีโมโกลบิน (hemoglobin) น้อยกว่า 9 กรัม/ดล.
-
ภาวะไข่ขาวรั่วในปัสสาวะ พบว่าระดับไข่ขาในปัสสาวะชนิด microalbumin เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของโรคหัวใจและหลอดเลือดของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่เกิดจากเบาหวานและไม่ได้เกิดจากเบาหวาน
ภาวะอักเสบในร่างกายของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ขบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยไตเรื้อรังมีผลต่อการเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบตัน โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเกิดในกลุ่มอาการที่เรียกว่า malnutrition-inflammation-atherosclerosis (MIA syndrome) เมื่อตรวจเลือดมักพบระดับ ซี-รีแอททีฟโปรตีน (C-re-active protein, CRP) เพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลทำให้เกิดพยาธิสภาพของหลอดเลือดหัวใจ และเพิ่มอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงขึ้นตามมา
ภาวะความผิดปกติของเกลือแร่แคลเซียม ฟอสฟอรัส และภาวะต่อมพาราไธรอยด์ทำงานมาก (Hyperparathyroidism) เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจโต โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน และอัตราการเสียชีวิตของในผู้ป่วยไตเรื้อรัง พยาธิสภาพของหลอดเลือดหัวใจตีบตันในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีความแตกต่างจากหลอดเลือดหัวใจตีบตันในผู้ป่วยทั่วไป คือ พบการเกิดพยาธิสภาพหลักในชั้นกลางของหลอดเลือดหัวใจ และมีการสะสมของแคลเซียมเรียกภาวะน่า coronary artery calcification โดยภาวะนี้จะทำให้หลอดเลือดแข็งตัว ส่งผลให้ระดับความดันโลหิตซีสโตลิค (systolic) เพิ่มขึ้น ความดันโลหิตไดแอสโตลิค (diastolic) ลดลง ปริมาณเลือดเลี้ยงหัวใจลดลง และสุดท้ายเพิ่มอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด จากหลายการศึกษาพบปัจจัยเสี่ยงของการเกิดการสะสมของแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง คือผู้ป่วยสูงอายุ โรคเบาหวาน ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง ระดับแคลเซียมในเลือดสูงการเพิ่มขึ้นของไข่ขาวในปัสสาวะ และการทำงานของไตลดลง
ปัจจุบันทั้งสมาคมโรคหัวใจ และสมาคมโรคไตของสหรัฐอเมริกาจัดว่า โรคไตเรื้อรังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนั้นความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดมักจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีปัจจัยเสี่ยงทั่วไปของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันสูงตามเช่น ประวัติโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน การสูบบุหรี่ สูงอายุ เบาหวาน เป็นต้น