นั้นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญในการออกกำลังกาย ด้วยการเต้นแอโรบิกชนิดก็คือ การเลือกซื้อรองเท้าสำหรับเต้นแอโรบิก เพราะถ้ารองเท้าไม่ดีจะทำให้คุณรู้สึกปวดเข่า ข้อเท้า และส้นเท้าได้ ยิ่งถ้าเต้นบนพื้นที่ไม่ได้มาตรฐานด้วยแล้วยิ่งอันตรายต่อหัวเข่าของคุณ เพราะแรงกระแทกมันเยอะมาก โดยการเลือกซื้อรองเท้าแอโรบิกจะต้องเลือกดังนี้
ดูพื้นบริเวณส้นของรองเท้า
ดูว่าส้นเท้ามีส่วนที่ช่วยรองรับการกระแทก เวลาที่คุณกระโดดจั้มพ์ เพราะส่วนนี้จะช่วยผ่อนแรงที่คุณจะได้รัจากการกระโดดได้ ทำให้คุณไม่ปวดหลัง คุณอาจจะทดสอบง่ายๆ ด้วยตัวเอง โดยการเอาส้นรองเท้ากดลงบนฝ่ามือหรือกดลงบนพื้นเพื่อดูว่าส้นรองเท้ามีการยุบตัวหรือไม่ แล้วค่อยๆ เอานิ้วกดลงบนพื้นรองเท้าเพื่อดูว่ามีความยืดหยุ่นแค่ไหน เท่านี้ก็จะรู้แล้วว่ารองเท้าทีคุณกำลังเลือกซื้อนั้น มีระบบกันกระแทกบริเวณส้นเท้าดีแค่ไหน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
พื้นบริเวณอุ้งเท้า
ต้องดูว่าบริเวณนี้ของรองเท้ามีส่วนสำหรับกันเท้าพลิกหรือไม่ เพราะการเต้นแอโรบิกจะมีการขยับหมุนเท้าไปมาดังนั้นจึงมีโอกาสที่เท้าจะพลิกอย่างมาก แต่ถ้ามีส่วนที่กันเท้าพลิกก็จะช่วยเซฟข้อเท้าคุณได้มาก
หัวรองเท้า
ให้ดูว่าบริเวณของหัวรองเท้านั้น เมื่อเอารองเท้าวางบนพื้นเรียบ หัวรองเท้าแอ่นขึ้นบนเล็กน้อยหรือไม่ แต่อย่าเลือกที่แอ่นมากเกินไปเพราะนั่นสำหรับรองเท้าวิ่ง โดยหัวรองเท้าที่แอ่นเล็กน้อยจะช่วยให้คุณจิกเท้าได้ง่าย และหมุนตัวได้คล่องแคล่วมากขึ้น ซึ่งแต่ละคนอาจชอบไม่เหมือนกัน บางคนปลายเท้าใหญ่ หัวรองเท้าก็ควรใหญ่ บางคนปลายเท้าเล็ก หัวรองเท้าก็ควรเป็นทรงเล็ก
ขอบรองเท้า
ให้ดูว่าขอบของรองเท้านั้นสูงมาถึงตาตุ่มหรือไม่ เพราะขอบที่สูงจนถึงตาตุ่มจะช่วยพยุงเท้าเอาไว้ทำให้เท้าไม่พลิก ทำให้ข้อเท้าไม่ได้รับอันตรายได้ง่าย
ขนาดของรองเท้า
ควรเลือกรองเท้าเต้นแอโรบิกให้ใหญ่กว่าเบอร์เท้าตัวเองปรกติ 1 เบอร์ เพราะเวลาที่เต้นแอโรบิกเท้าจะบวมมากกว่าปรกติ และควรใช้รองเท้าร่วมกับถุงเท้าหนาๆด้วย เพราะป้องกันแรงเสียดทานที่เท้าจะทำให้เท้าบาดเจ็บได้
ดูวันผลิต
นอกจากเรื่องของสรีระแล้ว ก็ควรดูวันที่ผลิตด้วย เพราะรองเท้าสำหรับเล่นกีฬานั้น มักจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 3 ปี ดังนั้นควรเลือกวันผลิตที่ใหม่ๆ ไม่ควรเลือกที่ผลิตเกิน 6 - 12 เดือน เพระเมื่อเอามาใช้งานซักระยะชิ้นส่วนต่างๆ ของรองเท้าก็เริ่มเสื่อมตามเวลาแล้ว
อย่าคิดว่ารองเท้าแพงเกินไป
รองเท้าสำหรับเต้นแอโรบิกก็จะมีราคาสูงกว่ารองเท้าธรรมดาประมาณ 2 เท่าตัว และอาจจะต้องเปลี่ยนบ่อยๆ ด้วยประมาณทุกๆ 6 - 12 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่ถ้าเทียบกับอาการเจ็บป่วยจากการออกกำลังกายแบบใช้รองเท้าธรรมดา ค่าใช้จ่ายในการรักษาอาจจะสูงกว่าค่าซื้อรองเท้าแอโรบิกดีๆ เสียอีก ดังนั้นจึงแนะนำให้ซื้อรองเท้ามาใช้ ให้เหมาะกับกิจกรรมการออกกำลังกายดีกว่า
การเลือกรองเท้ากีฬาดีๆ นอกจากจะช่วยให้คุณออกกำลังได้อย่างมีความสุข และไม่เกิดอาการบาดเจ็บแล้ว ยังช่วยให้คุณปนะหยัดเวลาในการไปหาหมอเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บได้ด้วยดังนั้นจึงต้องเลือกให้ดีและมีราคาที่เหมาะสม