ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดมีทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่ ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน แบบเดี่ยว และยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน ชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ซึ่งประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน สำหรับวิธีกินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมนี้ ควรเริ่มกินยาเม็ดแรกภายใน 5 วันแรกของวันที่มีประจำเดือน โดยจะนับวันที่มีประจำเดือนวันแรกเป็นวันที่ 1 และควรกินต่อเนื่องทุกวันในช่วงเวลาเดียวกัน เช่น กินตอนเช้าทุกวัน หรือตอนเย็นทุกวัน เพื่อให้ยาคุมกำเนิดออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
หลังมีเพศสัมพันธ์ ควรกินยาคุมตอนไหน เวลาไหนดีที่สุด แล้วควรหยุดกินตอนไหน?
กรณีเกิดเหตุสุดวิสัยที่ต้องพึ่งยาคุมกำเนิดชนิดฉุกเฉิน ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีอยู่ 2 เม็ด วิธีรับประทานให้ได้ผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจคือ กินยาเม็ดแรกให้เร็วที่สุดหลังการมีเพศสัมพันธ์ภายในเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง และกินยาเม็ดที่ 2 หลังกินยาเม็ดแรกไม่เกิน 12 ชั่วโมง ซึ่งการกินยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75 % แต่ถ้ากินภายใน 24 ชั่วโมง ประสิทธิภาพในการป้องกันจะเพิ่มขึ้นมากถึง 85 %
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ทั้งนี้ หากอาเจียนหลังทานยาเม็ดแรกภายใน 2 ชั่วโมง จะต้องรับประทานยาใหม่อีกครั้ง แต่ไม่ควรรับประทานเกิน 4 เม็ดต่อเดือน เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ
วิธีการคุมกำเนิดโดยการใช้ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสู้วิธีการกินยาคุมแบบปกติไม่ได้ และไม่มีผลป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์อีกหลังจากกินยาไปแล้ว นอกจากนี้ ไม่แนะนำให้ใช้เป็นประจำ และควรตรวจการตั้งครรภ์หากหลังใช้ประจำเดือนยังไม่มานานกว่า 1 สัปดาห์
ควรหยุดรับประทานยาเมื่อไร
สามารถที่จะหยุดการกินยาคุมกำเนิดเมื่อไหร่ก็ได้ แต่หากหยุดกินยาจะต้องหาวิธีคุมกำเนิดอย่างอื่น เช่น การใช้ถุงยางอนามัย ในกรณีที่ไม่ต้องการตั้งครรภ์ แต่หากประสงค์ที่จะตั้งครรภ์ก็สามารถหยุดกินยาได้เลย และเมื่อหยุดการรับประทานยาคุมกำเนิดไปประมาณ 2-4 วัน ประจำเดือนจะเริ่มมา ถัดจากนั้นอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะเริ่มมีการตกไข่ แต่ทั้งนี้ในกรณีที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการหยุดยาคุมกำเนิดแนะนำให้รับประทานจนครบแผงเพื่อที่จะได้ไม่สับสนกับการมาของประจำเดือนหรือการมีเลือดออกกระปริกระปรอย
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการใช้ยา
- มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดหัว เจ็บหน้าอกได้ ซึ่งมักพบได้ในบางคนที่เพิ่งเริ่มรับประทานยา 2 – 3 แผงแรก ให้แก้ปัญหาโดยการรัปประทานยาหลังอาหารเย็น หรือก่อนนอน
- อาการเจ็บคัดเต้านม พบในระยะแรกของการใช้ยา ซึ่งอาการนี้จะหายเองในระยะต่อมา
- อาการเลือดออกกะปริบกะปรอย อาจพบได้ในระยะแรก หรือในผู้ที่ลืมรับประทานยาบ่อยๆ ดังนั้นควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ
- ผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น น้ำหนักตัวเพิ่ม เป็นสิว ผมร่วง อาจเกิดในระยะแรก และส่วนใหญ่จะหายเมื่อใช้ไป 2 – 3 เดือน
ผลข้างเคียงของการกินยาคุมบ่อยๆ ติดต่อกันนานๆ
การกินยาคุมบ่อยๆ ในระยะเวลาติดต่อกันอาจทำให้มีผลข้างเคียงดังนี้
- ทำให้เลือดข้น จับตัวเป็นก้อน เสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดอุดตันในปอด เส้นโลหิตอุดตัน และโรคหัวใจ
- ในบางรายอาจมีอาการแสดงที่เกิดจากฮอร์โมนแปรปรวน เช่น น้ำหนักขึ้น หรือเป็นฝ้า
- ผู้หญิงที่ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดติดกันเป็นเวลานานอาจเกิดความบกพร่องของฮอร์โมนเทสเตอโรน ซึ่งมีหน้าที่กระตุ้นเร้าอารมณ์ทางเพศ หรือทำให้มีความรู้สึกทางเพศต่ำ
- การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้สูญเสียเยื่อบุโพรงมดลูกอย่างถาวร ซึ่งจะมีผลต่อการตั้งครรภ์หากผู้ใช้ยาต้องการมีบุตรอีกครั้ง
- การรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมเป็นระยะเวลานานส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น
กลุ่มที่ไม่ควรรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด
- มีโรคลิ่มเลือดอุดตันที่ขา ปอด หรือสมองโรคหัวใจ
- โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ดี
- อายุมาก สูบบุหรี่ อ้วน หรือมีภาวะที่จะเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
- เป็นมะเร็งเยื่อบุมดลูกหรือมีเลือดระดูผิดปกติที่ยังไม่รู้สาเหตุ
- เป็นมะเร็งเต้านมหรือ มีก้อนผิดปกติที่เต้านมที่ยังไม่รู้สาเหตุ
- มีการทำงานของตับที่ผิดปกติ
- มีการตั้งครรภ์