คุณสามารถทำให้ตัวเองมีโอกาสตั้งครรภ์สูงขึ้นและมีสุขภาพครรภ์ที่แข็งแรงโดยทำตามสิ่งที่เรากำลังจะกล่าวหลังจากนี้
กรดโฟลิค
คุณควรทานกรดโฟลิคแบบอาหารเสริม 400 ไมโครกรัมทุกวันในขณะที่คุณกำลังพยายามตั้งครรภ์ และทานจนกระทั่งคุณตั้งครรภ์ได้ 12 สัปดาห์ ทั้งนี้กรดโฟลิคช่วยลดความเสี่ยงที่ทารกจะเกิดภาวะหลอดประสาทไม่ปิด เช่น ความบกพร่องของกระดูกไขสันหลัง (Spina Bifida)
อย่างไรก็ดี ภาวะความบกพร่องของกระดูกไขสันหลังเกิดขึ้นเมื่อไขสันหลังของตัวอ่อน (ส่วนหนึ่งของระบบประสาท) ไม่เจริญเติบโตตามปกติ ผู้หญิงที่เป็นโรคลมบ้าหมู โรคเบาหวาน และโรคอื่นๆ ควรทานกรดโฟลิคแบบอาหารเสริม 5 มิลลิกรัม ซึ่งคุณสามารถซื้อกรดโฟลิคได้ที่ร้านขายยา หรือให้แพทย์เป็นผู้สั่งจ่าย
อย่างไรก็ตาม คุณไม่ต้องกังวลหากคุณตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้ทานกรดโฟลิคแบบอาหารเสริม ให้คุณเริ่มทานทันทีที่คุณรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์จนกว่าคุณจะผ่านช่วง 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หยุดสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์มีความสัมพันธ์กับปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น
- การคลอดก่อนกำหนด
- การมีน้ำหนักแรกคลอดต่ำ
- โรคไหลตายในทารก
- ภาวะแท้ง
- การมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจหรือมีเสียงฟืดฟาดขณะหายใจในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต
อย่างไรก็ดี แม้ว่าคุณต้องการเลิกบุหรี่ แต่มันก็สามารถเป็นเรื่องที่ยาก การขอคำแนะนำจากแพทย์ หรือโทรไปที่สายด่วนเลิกบุหรี่เบอร์ 1600 ก็จะช่วยให้คุณเลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น
การเลิกดื่มแอลกอฮอล์
คุณไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์หากคุณตั้งครรภ์หรือกำลังพยายามตั้งครรภ์ แอลกอฮอล์สามารถถูกส่งผ่านไปยังทารกในครรภ์ ซึ่งการงดดื่มแอลกอฮอล์เป็นวิธีที่ปลอดภัยต่อลูกของคุณมากที่สุด
อย่างไรก็ดี การดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์สามารถทำให้เกิดอันตรายต่อทารกในระยะยาว และยิ่งคุณดื่มแอลกอฮอล์มากเท่าไร ความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
หากคุณมีน้ำหนักมากกว่ามาตรฐาน คุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ และการรักษาภาวะมีบุตรยากมีแนวโน้มว่าจะไม่ได้ผล
อย่างไรก็ดี การมีน้ำหนักเกินมาตรฐานคือ การมีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 25 ในขณะที่คนที่เป็นโรคอ้วนมีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30 ซึ่งทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเช่นกัน เช่น ความดันโลหิตสูง การแข็งตัวของเลือด ภาวะแท้ง และโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ก่อนที่คุณจะตั้งครรภ์ คุณสามารถใช้เครื่องมือวัดค่าดัชนีมวลกาย แต่ผลที่ได้อาจไม่แม่นยำหากคุณวัดค่าตอนตั้งครรภ์
นอกจากนี้การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกายไม่มากหรือน้อยเกินไป และการควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากเกินไปก็ล้วนแต่เป็นเรื่องที่แนะนำสำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์
การฉีดวัคซีนและการติดเชื้อ
การติดเชื้อบางประเภทอย่างโรคหัดเยอรมันสามารถทำให้เกิดอันตรายต่อทารกหากคุณติดเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์ หากคุณไม่แน่ใจว่าตัวเองเคยฉีดวัคซีน MMR 2 เข็ม หรือกำลังติดเชื้อหรือไม่ ให้คุณไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีนและตรวจร่างกาย ในกรณีที่คุณไม่เคยได้รับวัคซีน คุณสามารถไปพบแพทย์เพื่อให้เขาฉีดวัคซีน ทั้งนี้คุณควรคุมกำเนิดเป็นเวลา 1 เดือนหลังจากที่ฉีดวัคซีน MMR โดยให้คุณหาวิธีคุมกำเนิดที่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิผล
กรณีที่เป็นโรคที่เกิดขึ้นระยะยาว
หากคุณเป็นโรคที่เกิดขึ้นระยะยาว เช่น โรคลมบ้าหมู หรือโรคเบาหวาน มันก็สามารถส่งผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม โรคประจำตัวบางโรคจำเป็นต้องได้รับการจัดการอย่างระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับคุณและลูก ก่อนที่คุณจะตั้งครรภ์ ให้คุณลองปรึกษาแพทย์ หากคุณทานยาเพื่อรักษาโรคเหล่านั้น คุณไม่ควรหยุดทานยาโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
การตรวจหาโรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียวและโรคธาลัสซีเมีย
โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียวและโรคธาลัสซีเมียเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อคนที่มีบรรพบุรุษมาจากแอฟริกา แคริบเบียน เมดิเตอร์เรเนียน อินเดีย ปากีสถาน เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลางโดยตรง
อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องรอจนกระทั่งตั้งครรภ์แล้วค่อยไปตรวจหาโรคดังกล่าว หากคุณและคนรักกังวลว่าตัวเองเป็นพาหะนำโรค ไม่ว่าจะเป็นเพราะว่ามีคนในครอบครัวเป็นโรคเลือดหรือเป็นพาหะนำโรค การไปตรวจโรคก่อนที่จะเริ่มสร้างครอบครัวของตัวเองก็เป็นความคิดที่ดี
เมื่อไรที่คุณสามารถตั้งครรภ์?
การตั้งครรภ์เกิดขึ้นเมื่อสเปิร์มของผู้ชายปฏิสนธิกับไข่ของผู้หญิง ซึ่งมันสามารถเกิดขึ้นกับผู้หญิงบางคนได้อย่างรวดเร็ว แต่อาจใช้เวลานานสำหรับคนอื่นๆ อย่างไรก็ดี จากคู่รักทุกๆ 100 คู่ที่พยายามมีลูก มีผู้หญิงประมาณ 80-90 คนที่ตั้งครรภ์ภายใน 1 ปี ในขณะที่คนที่เหลือจะใช้เวลานานกว่านี้ หรืออาจจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์
อย่างไรก็ดี การที่เราจะเข้าใจเกี่ยวกับการคุมกำเนิดและการตั้งครรภ์ เราควรรู้เกี่ยวกับอวัยวะเพศของผู้ชายและผู้หญิงก่อน และเข้าใจเกี่ยวกับรอบเดือนของผู้หญิง ทั้งนี้เราจะนับรอบเดือนของผู้หญิงนับตั้งแต่วันแรกที่ผู้หญิงมีประจำเดือน หลังจากที่มีประจำเดือนก็จะเป็นช่วงไข่ตก และหลังจากนี้ประมาณ 12-14 วัน ผู้หญิงก็จะกลับมามีประจำเดือน ซึ่งรอบเดือนโดยเฉลี่ยคือ 28 วัน แต่การที่รอบเดือนสั้นหรือยาวกว่านี้ถือเป็นเรื่องปกติ
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการตั้งครรภ์
คุณมีแนวโน้มที่จะตั้งครรภ์หากคุณมีเซ็กส์ภายในวันเดียวกันกับวันที่ไข่ตกหรือหลังจากนี้ โดยทั่วไปแล้วไข่จะตกประมาณ 14 วันหลังจากวันแรกที่มีประจำเดือนครั้งล่าสุดหากรอบเดือนของคุณนานประมาณ 28 วัน
ไข่มีอายุประมาณ 12-24 ชั่วโมงหลังจากถูกปล่อยออกมาจากรังไข่ การที่ผู้หญิงจะตั้งครรภ์ได้นั้นไข่ต้องได้รับการปฏิสนธิกับสเปิร์มในช่วงเวลานี้ หากคุณต้องการตั้งครรภ์ การมีเซ็กส์ทุก 2-3 วันจะทำให้คุณมีโอกาสตั้งครรภ์มากขึ้น ซึ่งมีสเปิร์มรออยู่ในท่อนำไข่เพื่อที่จะได้เจอกับไข่เมื่อไข่ถูกปล่อยออกมาจากรังไข่
สเปิร์มสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 7 วันภายในร่างกายของผู้หญิง ดังนั้นหากคุณมีเซ็กส์ภายในช่วงวันก่อนการตกไข่ สเปิร์มจะมีเวลาว่ายไปยังท่อนำไข่เพื่อรอให้ไข่ถูกปล่อยออกมา
อวัยวะเพศของผู้ชาย
องคชาตถูกสร้างมาจากเนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้ ซึ่งเนื้อเยื่อชนิดนี้ทำหน้าที่เหมือนกับฟองน้ำ และเมื่อมีเลือดมาหล่อเลี้ยง องคชาตจะแข็งและตั้งชัน ผู้ชายมีลูกอัณฑะ 2 ข้างซึ่งเป็นต่อมที่ผลิตและเก็บสเปิร์ม ทั้งนี้ลูกอัณฑะถูกบรรจุอยู่ภายในถุงของผิวที่ห้อยด้านนอกร่างกาย ซึ่งเราเรียกมันว่าถุงอัณฑะ (Scrotum)
ถุงอัณฑะช่วยรักษาอุณหภูมิของลูกอัณฑะให้คงที่ โดยมีอุณหภูมิต่ำกว่าร่างกายส่วนอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นต่อการผลิตสเปิร์ม เมื่ออากาศอบอุ่นถุงอัณฑะจะห้อยออกห่างจากร่างกายเพื่อรักษาอุณหภูมิของลูกอัณฑะให้เย็น หากอากาศหนาวถุงอัณฑะจะเข้าใกล้กับร่างกายเพื่อรักษาความอบอุ่น
นอกจากนี้ผู้ชายยังมีท่อนำอสุจิสองท่อที่เรียกว่า Vas Deferens ซึ่งทำหน้าที่ขนส่งสเปิร์มจากลูกอัณฑะไปยังต่อมลูกหมากและต่อมอื่นๆ ต่อมเหล่านี้จะหลั่งสารคัดหลั่งซึ่งจะพุ่งออกมาพร้อมกับสเปิร์ม ในขณะที่ท่อปัสสาวะเป็นท่อที่ยาวตลอดความยาวขององคชาตโดยเริ่มตั้งแต่กระเพาะปัสสาวะผ่านไปยังต่อมลูกหมากและปลายหัวขององคชาต ซึ่งสเปิร์มจะไหลออกมาจากท่อดังกล่าว
อวัยวะเพศของผู้หญิง
ระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงประกอบไปด้วยอวัยวะภายนอกและอวัยวะภายใน ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ด้านล่างสะดือ หรือที่เรียกว่า บริเวณอุ้งเชิงกราน เราเรียกอวัยวะเพศภายนอกว่า Vulva ซึ่งประกอบไปด้วยปากช่องคลอด แคม และ คริตอริส ส่วนอวัยวะเพศภายในของผู้หญิงประกอบไปด้วย
- เชิงกราน: นี่คือโครงสร้างส่วนที่เป็นกระดูกรอบๆ บริเวณสะโพก ซึ่งทารกจะเคลื่อนผ่านอวัยวะส่วนนี้เมื่อเขาเกิด
- มดลูก: มดลูกมีขนาดและรูปร่างเหมือนลูกแพรคว่ำขนาดเล็ก ซึ่งมีกล้ามเนื้อเป็นส่วนประกอบ และจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเด็กเจริญเติบโต
- ท่อนำไข่: เป็นอวัยวะส่วนที่มีจุดเริ่มต้นจากรังไข่และไปสิ้นสุดที่มดลูก ไข่ถูกปล่อยออกมาจากรังไข่เข้ามายังท่อนำไข่ในแต่ละเดือน อีกทั้งยังเป็นบริเวณที่เกิดการปฏิสนธิ
- รังไข่: มนุษย์มีรังไข่ 2 อัน ซึ่งแต่ละอันมีขนาดประมาณถั่วอัลมอนด์ โดยมีหน้าที่ผลิตไข่หรือเซลล์ไข่
- ปากมดลูก: เป็นส่วนคอของมดลูก โดยปกติแล้วปากมดลูกจะเกือบปิดสนิท ซึ่งมีช่องว่างเล็กๆ ให้เลือดไหลออกมาในช่วงที่เรามีประจำเดือน ในระหว่างที่คลอดลูก ปากมดลูกจะเปิดออกเพื่อให้เด็กเคลื่อนจากมดลูกมายังช่องคลอด
- ช่องคลอด: มีลักษณะเหมือนท่อที่มีความยาวประมาณ 3 นิ้ว (8 ซม.) ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากปากมดลูกและมีจุดสิ้นสุดที่ปากช่องคลอด ด้วยความที่ช่องคลอดยืดหยุ่นมาก ดังนั้นมันจึงสามารถโอบรัดองคชาตของผู้ชายหรือทารกในระหว่างที่คลอดลูก
รอบเดือนของผู้หญิง
การตกไข่เกิดขึ้นทุกเดือนซึ่งไข่จะถูกปล่อยออกมาจากรังไข่ข้างใดข้างหนึ่ง ในบางครั้งไข่อาจถูกปล่อยออกมามากกว่า 1 ฟอง และมักถูกปล่อยออกมาภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่มีการปล่อยไข่ฟองแรกออกมา ในเวลาเดียวกันเยื่อบุของมดลูกจะเริ่มหนาขึ้นและเมือกในปากมดลูกจะเริ่มบางลงเพื่อที่สเปิร์มสามารถว่ายไปหาไข่ได้ง่ายขึ้น ไข่จะเริ่มเคลื่อนออกจากรังไข่มายังท่อนำไข่อย่างช้าๆ
หากผู้ชายและผู้หญิงเพิ่งมีเซ็กส์กันไม่นาน ไข่ก็อาจได้รับการปฏิสนธิโดยสเปิร์มของผู้ชาย ซึ่งเยื่อบุของมดลูกจะหนามากพอให้ไข่ฝังตัวหลังจากที่มีการปฏิสนธิ หากไข่ไม่ได้รับการปฏิสนธิ มันก็จะถูกขับออกมาจากร่างกายพร้อมกับเยื่อบุของมดลูกในระหว่างที่ผู้หญิงมีประจำเดือน ซึ่งไข่มีขนาดเล็กและเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์
ฮอร์โมนเป็นสารเคมีที่หมุนเวียนอยู่ภายในเลือดของทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งฮอร์โมนจะขนส่งสัญญาณไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ควบคุมการทำกิจกรรมบางอย่าง และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เฉพาะเจาะจง ฮอร์โมนของผู้หญิงซึ่งประกอบไปด้วยเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนมีหน้าที่ควบคุมกิจกรรมมากมายที่เกิดขึ้นในแต่ละรอบเดือน เช่น การปล่อยไข่ออกมาจากรังไข่ และการทำให้เยื่อบุผนังของมดลูกหนาขึ้น
ทั้งนี้ระดับฮอร์โมนของคุณจะมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างตั้งครรภ์ เมื่อคุณตั้งครรภ์ปริมาณของเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในเลือดก็จะสูงขึ้น ส่งผลให้เยื่อบุผนังของมดลูกหนาขึ้น ทั้งนี้เลือดจะถูกลำเลียงไปยังมดลูกและเต้านมมากขึ้น และกล้ามเนื้อของมดลูกจะคลายตัวเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับเด็กที่กำลังเติบโต
นอกจากนี้ระดับของฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นสามารถส่งผลต่อความรู้สึกของคุณ คุณอาจมีอารมณ์แปรปรวน รู้สึกอยากร้องไห้ หรือหงุดหงิดง่าย คุณอาจรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมอารมณ์ไปได้สักพัก แต่อาการเหล่านี้ควรจะบรรเทาลงหลังจากผ่านช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
ลูกจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย?
ทั้งสเปิร์มของผู้ชายและไข่ของผู้หญิงล้วนแต่มีบทบาทในการกำหนดเพศของเด็ก เซลล์ของมนุษย์ทุกคนที่ปกติจะมีโครโมโซม 46 แท่ง (23 คู่) ยกเว้นสเปิร์มของผู้ชายและไข่ของผู้หญิงที่มีโครโมโซม 23 แท่ง เมื่อสเปิร์มปฏิสนธิกับไข่ โครโมโซม 23 แท่งของพ่อก็จะมารวมกับโครโมโซม 23 แท่งของแม่ ทำให้มีโครโมโซมรวมเป็น 46 แท่ง
โครโมโซม X และโครโมโซม Y
โครโมโซมมีโครงสร้างคล้ายด้ายขนาดเล็กซึ่งแต่ละแท่งมีประมาณ 2,000 ยีนส์ ทั้งนี้ยีนส์เป็นตัวกำหนดลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมของทารก เช่น สีผม สีตา กรุ๊ปเลือด ความสูง และรูปร่าง
ไข่ที่มีการปฏิสนธิแล้วจะมีโครโมโซมเพศของพ่อและแม่อย่างละ 1 แท่ง โครโมโซมเพศจากไข่ของแม่มีลักษณะเหมือนกันเสมอ และเรารู้จักในชื่อของโครโมโซม X แต่โครโมโซมเพศจากสเปิร์มของพ่ออาจเป็น X หรือ Y หากไข่ได้รับการปฏิสนธิจากสเปิร์มที่มีโครโมโซม X ทารกจะเป็นผู้หญิง (XX) หากสเปิร์มมีโครโมโซม Y ทารกจะเป็นผู้ชาย (XY)