โรคพาร์กินสัน คือ โรคที่มีความเสียหายของเซลล์ประสาทภายในสมอง ทำให้สารสื่อประสาทโดปามีนมีปริมาณลดลงและเป็นสาเหตุของอาการ ได้แก่ อาการสั่น เคลื่อนไหวช้า ร่างกายแข็งเกร็ง
บทนำโรคพาร์กินสัน
โรคพาร์กินสัน คือโรคที่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับสมอง เมื่อเวลาผ่านไปความเสียหายจะเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
อาการหลักของโรคพาร์กินสันมี 3 อาการ ได้แก่:
- อาการสั่นของร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ (tremor)
- เคลื่อนไหวร่างกายช้า
- ร่างกายแข็งเกร็ง กล้ามเนื้อไม่ยืดหยุ่น
ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันอาจมีอาการอื่นๆ ทางด้านร่างกายและจิตใจด้วย ได้แก่:
- ซึมเศร้า และวิตกกังวล
- ปัญหาด้านการทรงตัวของร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยอาจมีความเสี่ยงต่อการหกล้มได้
- สูญเสียสัมผัสด้านการดมกลิ่น
- ปัญหาด้านการนอนหลับ (นอนไม่หลับ)
- ปัญหาด้านความทรงจำ
เมื่อไรควรไปพบแพทย์
หากคุณรู้สึกกังวลถึงอาการว่าคุณอาจเป็นโรคพาร์กินสัน ขอแนะนำให้คุณไปพบแพทย์
แพทย์จะสอบถามถึงอาการ/ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณ และอาจส่งต่อคุณไปรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการตรวจเพิ่มเติม
สาเหตุของโรคพาร์กินสัน
โรคพาร์กินสันเกิดขึ้นเพราะร่างกายมีการสูญเสียเซลล์ประสาทภายในสมองส่วนที่เรียกว่า substantia nigra ทำให้ปริมาณสารเคมีในสมองที่ชื่อว่าโดปามีน (dopamine) มีปริมาณลดลง
โดปามีนเป็นสารสื่อประสาทในสมองที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย การลดลงของสารสื่อประสาทโดปามีนทำให้เกิดอาการต่างๆ ของโรคพาร์กินสัน
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุของการสูญเสียเซลล์ประสาทภายในสมอง ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คิดว่าสาเหตุนั้นเกิดขึ้นจากปัจจัยด้านพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
ใครบ้างที่ได้รับผลกระทบจากโรคพาร์กินสัน
พบผู้ป่วยโรคพาร์กินสันได้ประมาณ 1 ใน 500 คน ดังนั้นประมาณการว่าในประเทศไทยจะมีผู้ป่วยพาร์กินสัน 137,000 คน
ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยโรคพาร์กินสันจะเริ่มมีอาการครั้งแรกเมื่ออายุมากกว่า 50 ปี ขึ้นไป แต่ก็มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งประมาณ 1 ใน 20 ของผู้ป่วยพาร์กินสันที่เริ่มมีอาการครั้งแรกเมื่ออายุน้อยกว่า 40 ปี
ผู้ชายจะมีโอกาสเป็นโรคพาร์กินสันมากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย
การรักษาโรคพาร์กินสัน
แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่มีวิธีรักษาโรคพาร์กินสันให้หายขาด แต่การรักษาที่มีในปัจจุบันจะช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยและช่วยให้ผู้ป่วยยังคงมีคุณภาพชีวิตที่ดีให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
การรักษามีดังต่อไปนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- การรักษาแบบประคับประคองตามอาการ เช่น การทำกายภาพบำบัด และการทำกิจกรรมบำบัด
- การใช้ยา
- ในบางกรณี อาจเลือกใช้การผ่าตัดสมอง
คุณอาจไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาใดๆ ในระยะแรกของโรคพาร์กินสันเพราะช่วงแรกมักมีอาการในระดับเล็กน้อย อย่างไรก็ตามคุณอาจจำเป็นต้องเข้าพบแพทย์ตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แพทย์ผู้ป่วยเชี่ยวชาญติดตามอาการที่คุณเป็น
ภาพอนาคตของโรคพาร์กินสัน
เนื่องจากโรคพาร์กินสันเป็นโรคที่มีการดำเนินไปของโรคอย่างต่อเนื่อง อาการของโรคพาร์กินสันจะแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป และผู้ป่วยจะมีความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้นหากปราศจากการช่วยเหลือ
ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันหลาคนตอบสนองดีต่อการรักษาและมีอาการเพียงเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น แต่จะมีผู้ป่วยจำนวนน้อยที่ตอบสนองต่อการรักษาไม่ดี เมื่อเวลาผ่านไปผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีอาการรุนแรงมากขึ้น
โรคพาร์กินสันไม่ได้เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตโดยตรง แต่โรคนี้ทำให้เกิดความเครียดเกิดขึ้นกับร่างกายอย่างมาก และทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามด้วยวิวัฒนาการการรักษาทางการแพทย์ในปัจจุบัน พบว่าผู้ป่วยโรคพาร์กินสันส่วนใหญ่มีชีวิตยืนยาวได้เหมือนคนทั่วไปหรือใกล้เคียงคนทั่วไป
https://www.nhsinform.scot/illnesses-and-conditions/brain-nerves-and-spinal-cord/parkinsons-disease