พ่อแม่เข้าใจลูกวัยรุ่น
วัยรุ่น เป็นวัยที่เปลี่ยนแปลง ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และ สังคม ได้แก่
- แตกเนื้อหนุ่ม แตกเนื้อสาว ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงขนาด ทรวดทรงอย่างรวดเร็วเช่น มีสิว เสียงแตกพร่า มีขนขึ้นตามรักแร้และอวัยวะเพศการทำงานของต่อมเพศเพิ่มมากขึ้น
- อารมณ์มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว แปรปรวนบ่อย ไม่ค่อยมีเหตุผลมากนักโกรธง่าย ดีใจง่ายแสดงอารมณ์ออกมาโดยขาดการกลั่นกรอง ซึ่งต้องใช้เวลาในการปรับสภาพอารมณ์ที่ผันผวนประมาณ 2-3 ปี
- อยากมีอิสระ เสรี อยากนัดพบเพื่อนฝูง บางครั้งอาจแสดงท่าทีที่ทำให้ผู้ใหญ่ รู้สึกว่าเขา อวดดีก้าวร้าว ท้าทายต่อกฎเกณฑ์ต่างๆ
- ความด้อยเรื่องรูปโฉม การเงิน สภาพทางสังคมและครอบครัวมักทำให้เขาเกิดความรู้สึกมีปมด้อยอย่างรุนแรง รู้สึกไม่เท่าเทียมเด็กคนอื่นๆ ทำให้เขาต้องกลบเกลื่อนปมด้อยด้วยวิธีการต่างๆ เช่นแยกตัวจากกลุ่มเพื่อน แสดงออกด้วยพฤติกรรมที่เด่นเกินใครเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้คน
- อยากรู้ อยากเห็น อยากลอง อยากมีประสบการณ์แปลกใหม่
- มีจินตนาการทางเพศ สนใจเพศตรงข้าม และ อยากให้เพศตรงข้ามสนใจ
- มองหาเอกลักษณ์ของตน เช่น จะเป็นอะไรเป็นเหมือนใคร เป็นหญิงหรือชาย
วิธีการอยู่ร่วมกับวัยรุ่น
- พยายามสร้างกฎเกณฑ์ให้น้อยที่สุดและเข้มงวดเฉพาะกฎเกณฑ์นั้น ๆ เวลาตั้งกฎเกณฑ์ผู้ปกครองควรให้วัยรุ่นได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย
- รับฟังความคิดเห็นของลูกวัยรุ่นด้วยความสนใจเสมอ
- พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับลูกทุกวันและควรใช้วิธีการสื่อสารทางบวก
- ปล่อยให้วัยรุ่นได้ใช้ชีวิตเป็นตัวของตัวเองบ้าง พ่อ แม่ ควรเรียนรู้และยอมรับในความแตกต่างของวัยรุ่นแต่ละคนและ ไม่ควรนำไปเปรียบเทียบกับวัยรุ่นคนอื่น
- เคารพในความเป็นส่วนตัวของลูก
- ยอมรับและพร้อมให้อภัยในข้อผิดพลาดของลูกให้โอกาสลูกได้แก้ตัวใหม่
- ไม่ตีตราในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเพราะการตีตราจะทำให้ลูกรับรู้ว่าเขาต้องเป็นแบบนั้นจริงๆ เสมือนเป็นการผลักดันให้เขามีพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อไป
- พ่อ แม่ ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูก เพราะลูกจะซึมซับเลียนแบบพฤติกรรมของบุคคลตัวอย่างที่ใกล้ชิด ตั้งแต่เล็กๆ โดยไม่รู้ตัว
- ไม่ควรห้ามเรื่องการคบเพื่อนต่างเพศอย่างเด็ดขาด แต่ควรมีทัศนคติที่เป็นกลาง มีกติกาหรือข้อตกลงที่รับได้ทั้งสองฝ่าย เช่นคบกันได้เพื่อเป็นกำลังใจให้กันผู้ชายต้องเป็นสุภาพบุรุษและผู้หญิงต้องเป็นสุภาพสตรี
- สอนกฎหมายเบื้องต้นให้ลูกทราบบ้าง เช่น กฎหมายจราจร กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำผิดทางเพศ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันการกระทำผิดทางกฎหมาย หรือ เกิดปัญหาสังคมตามมา
วิธีการสื่อสารกับวัยรุ่น
บ่อยครั้งที่พ่อ แม่ ผู้ปกครองรู้สึกเหนื่อยหน่าย เอือมระอา และเกิดภาวะเครียดกับการพูดคุยกับลูกวัยรุ่นสื่อสารไม่เข้าใจกัน พูดคุยไม่รู้เรื่อง ลูกไม่ยอมปฏิบัติตามแล้วทำให้ต้องทะเลาะกัน พ่อแม่ควรมีหลักการสื่อสารกับวัยรุ่นที่เหมาะสม เช่น พูดคุยเรื่องใดต้องพูดกันอย่างชัดเจน ตรงประเด็น ไม่อ้อมค้อม พ่อ แม่ ผู้ปกครองต้องควบคุมอารมณ์ให้สงบ ไม่พูดคุยขณะที่มีอารมณ์โกรธ หรือ ไม่พอใจ และต้องบอกถึงความคิด ความรู้สึก ความต้องการหรือพฤติกรรมที่พ่อแม่คาดหวังจากตัวลูก จากนั้นถามความคิดเห็น หรือ ชมเชย หรือ ให้กำลังใจ ไม่ใช้คำพูดเชิงประชดประชัน ข่มขู่ หรือ สร้างเงื่อนไขกับลูกวัยรุ่น ยกตัวอย่าง เช่น “ แม่มีเรื่องจะพูดคุยกับลูกนะ เรื่องการเที่ยวกลางคืน ของลูก ” (สื่อสารชัดเจน ตรงประเด็น) “ แม่เป็นห่วงลูกมากกลัวจะไปมีเรื่องกัน มีข่าววัยรุ่นทะเลาะทำร้ายและฆ่ากันตายอยู่บ่อยๆ ” (บอกความคิด ความรู้สึก) “ แม่ไม่อยากให้ลูกออกจากบ้านตอนกลางคืน ” (บอกความต้องการ) “ ลูกจะว่าอย่างไร ” (ถามความคิดเห็น) หากลูกต่อรองพร้อมทั้งบอกเหตุผลที่เหมาะสมและพ่อแม่รับข้อต่อรองนั้นได้ก็ถือได้ว่าการสื่อสารในครั้งนั้นประสบผลสำเร็จ