ขณะที่ลูกยังอยู่ในวัยแรกเกิดถึงปฐมวัย (แรกคลอด - 6 ขวบ) ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับการดูแล สอน และฝึกนิสัยต่างๆ ให้กับลูก หลายครั้งที่พ่อแม่ทำบางสิ่งบางอย่างโดยที่ไม่คาดคิดว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้น จะมีผลต่อลูกในระยะยาว วันนี้เราจะแนะนำสิ่งที่พ่อแม่ควรจะเตรียมตัว และต้องรู้ก่อนที่จะเผลอทำผิดกับลูกโดยไม่ตั้งใจกัน
1. พ่อแม่ควรจะเข้าใจพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงอายุ
เด็กที่เติบโตขึ้นแล้วมีปัญหา เช่น เป็นเด็กดื้อ, ไม่ยอมกินข้าว (กินแต่ขนมหรือนม), เป็นเด็กก้าวร้าว, หรือแม้กระทั่งติดการอุ้ม ฯลฯ พ่อแม่ต้องเข้าใจก่อนว่า สิ่งเหล่านี้คือผลลัพท์ที่เกิดขึ้นจากสิ่งกระทบต่อเด็ก มันไม่ใช่ความผิดของเด็กทั้งหมดเสมอไป ดังนั้นพ่อแม่ควรจะต้องปรับทัศนคติก่อน หากลูกของตัวเองมีปัญหาอย่าได้โทษหรือเหมาเอาว่าทั้งหมดเป็นความผิดของลูก แต่ขอให้ย้อนกลับมาพิจารณาถึงสาเหตุ และการเลี้ยงดูเป็นอันดับแรกเสมอ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
2. อย่าปล่อยให้ลูกเผชิญปัญหาโดยลำพัง
การแก้ไขปัญหาต่างๆ พ่อแม่ควรจะเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขด้วย ไม่ใช่การตวาด ว่ากล่าว ให้เด็กปรับปรุงแล้วจบเพียงแค่นั้น เพราะเด็กจะมีความรู้สึกต่อต้าน (เพราะปมในใจของเขายังไม่ได้ถูกแก้ไข) ไม่ว่าจะเป็นการฝึกให้ลูกเข้าห้องน้ำ, อาบน้ำ, ทานอาหาร ฯลฯ พ่อแม่ควรจะรู้ว่า ลูกของตัวเองในช่วงอายุขณะนั้นกำลังต้องการและมีอุปนิสัยอย่างไร
3. อย่าหวังพึ่งบุคคลอื่นในการแก้ไขปัญหามากเกินไป
บางครั้งการเอาปัญหาของลูกไปปรึกษาคุณหมอก็เป็นเรื่องที่ดี แต่พ่อแม่หลายคนเหมือนกับวิตกกังวลมากเกินไปจึงนำทุกเรื่องไปปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญตลอดเวลา พ่อแม่ที่ดีควรจะศึกษาและค้นคว้าหนทางการแก้ไขปัญหาลูกของตัวเองให้มากก่อนที่จะไปขอคำปรึกษาจากผู้อื่น
4. อย่าเอาตัวเองเป็นไม้บรรทัด
พ่อแม่หลายคนมักจะทำผิดโดยไม่ตั้งใจ โดยการเอามาตราฐานของตัวเอง หรือความคาดหวังของตัวเองเป็นที่ตั้ง เมื่อลูกไม่สามารถทำได้ตามที่ตัวเองตั้งใจไว้ (ทั้งการกระทำ คำพูดต่างๆ รวมถึงวิธีคิด) พ่อแม่หลายคนกลับทำผิดพลาดด้วยการว่ากล่าวลูก หรือดุด่า ตี ฯลฯ ซึ่งพ่อแม่ควรจะเข้าใจให้มากว่า ลูกของตัวเองนั้น ไม่ใช่ตุ๊กตา ลูกของตัวเองนั้นมีความคิด มีสมอง มีวิธีชีวิตที่เป็นตัวของตัวเองแม้ว่าเขาจะยังเป็นเด็กอยู่ก็ตาม พ่อแม่ที่ดีจึงควรที่จะส่งเสริมจุดเด่นของลูก และพัฒนาปรับปรุงจุดด้อยของลูกให้ดีขึ้น ไม่ใช่การบังคับให้ลูกต้องมีจุดเด่นตามที่พ่อแม่ต้องการ
5. อดทนกับลูกให้มาก
ความอดทนของพ่อแม่นั้นแม้ว่าจะมีมาก แต่พ่อแม่ก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดา ความอดทนต่อสิ่งเร้า เช่น ลูกร้องไห้, ความดื้อ ซน ของลูก, กริยาต่างๆ ที่ลูกกระทำต่อพ่อแม่ ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้พ่อแม่โมโห และเผลอตวาด ใช้คำพูดที่รุนแรง หรือใช้ความรุนแรงตอบกลับไป จะทำให้ลูกได้รับผลกระทบ และจำฝังใจไปจนโต ดังนั้นหากรู้ตัวว่าลูกเริ่มกวนใจอาจจะใช้วิธีเดินออกไปสงบสติอารมณ์ก่อนแล้วค่อยกลับมานั่งคุยกันอีกครั้งจะดีกว่า
การเลี้ยงดูลูกจะเป็นสิ่งที่ง่ายและไม่มีปัญหาอะไรหนักใจหากพ่อแม่สามารถเข้าใจ และรู้ถึงปัญหาของเด็กในแต่ละช่วงวัย เมื่อพ่อแม่เข้าใจนิสัยของเด็กในแต่ละช่วงอายุวัยแล้ว การรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นก็จะเป็นเรื่องที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงคุณพ่อคุณแม่ไปได้