เมื่อไหร่ที่พ่อแม่ควรขอความช่วยเหลือในการจัดการกับปัญหาพฤติกรรมของลูก?

ระบุสัญญาณเตือนและปัจจัยเสี่ยงของปัญหาทางพฤติกรรมที่รุนแรง
เผยแพร่ครั้งแรก 18 ก.ย. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
เมื่อไหร่ที่พ่อแม่ควรขอความช่วยเหลือในการจัดการกับปัญหาพฤติกรรมของลูก?

การยอมรับว่าลูกของคุณอาจต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาทางพฤติกรรมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญหากคุณสงสัยว่าลูกของคุณอาจมีปัญหา การแก้ไขตั้งแต่ระยะเริ่มต้นนั้นมักเป็นกุญแจสู่การรักษาที่ประสบความสำเร็จ

การเข้าพบผู้เชี่ยวชาญนั้นไม่ได้หมายความว่าลูกของคุณเป็นบ้าหรือหมายความว่าคุณเป็นพ่อแม่ที่ไม่ได้ แต่บางครั้งเด็กอาจจะต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือใช้วิธีการฝึกระเบียบวินัยในรูปแบบอื่นเพื่อให้พวกเขามีความประพฤติที่ดี

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

หากคุณสงสัยว่าลูกของคุณอาจจะต้องการความช่วยเหลือ อย่าลังเลที่จะหาวิธีการรักษา หากปัญหาดังกล่าวไม่ใช่ปัญหาที่รุนแรงคุณก็จะได้สบายใจ แต่ถ้าหากตรวจพบปัญหา ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมเด็กก็สามารถระบุปัญหาได้ก่อนที่ปัญหาจะยิ่งแย่ลง

ปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมโดยทั่วไป

ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมหรือจิตแพทย์อาจช่วยคุณได้ หากวิธีการฝึกระเบียบวินัยของคุณใช้ไม่ได้ผล บางครั้งคุณก็ต้องการการพบผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่ครั้งก็จะสามารถหาวิธีที่เหมาะสมและช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกคุณได้

หากพฤติกรรมของลูกคุณมีผลต่อชีวิตประจำวันของพวกเขา ให้ขอความช่วยเหลือ ตัวอย่างเช่น หากลูกอายุ 10 ปีของคุณเรียนได้ไม่ดีเนื่องจากเขาต้องเข้าพบครูใหญ่บ่อยครั้ง แสดงว่าปัญหาด้านพฤติกรรมของเขาอาจขัดขวางการเรียนรู้ หรือถ้าหากคุณมีลูกวัยรุ่นที่ไม่สามารถเป็นเพื่อนกับคนอื่นได้เนื่องจากหยาบคายและทะเลาะกับคนอื่นตลอดเวลา ลูกของคุณอาจต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

นอกจากนั้นหากพฤติกรรมของลูกคุณไม่ได้พัฒนาอย่างเหมาะสมก็ควรมองหาความช่วยเหลือเช่นกัน แม้ว่าการที่ลูกอายุ 3 ขวบจะมีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจจะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าหากเป็นเด็ก 7 ขวบที่มีพฤติกรรมดังกล่าวทุกครั้งที่โกรธ พวกเขาอาจมีปัญหาทางด้านพัฒนาการหรือทางจิตที่ควรได้รับการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ

สัญญาณเตือนแบบเฉพาะ

มีบางพฤติกรรมที่ค่อนข้างเป็นสัญญาณเฉพาะว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่อายุเท่าไหร่ก็ตาม ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นสัญญาณเตือนว่าคุณควรมองหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

  • ทารุณกรรมสัตว์
  • เล่นกับไฟ
  • มีพฤติกรรมทางเพศ
  • มีพฤติกรรมก้าวร้าว (ก้าวร้าวกว่าปกติในเด็กก่อนวัยเรียน) ทำลายข้าวของ ข่มขู่คนอื่น โยนของหรือทำร้ายคนอื่น
  • ทำร้ายตัวเองเช่นเอาศีรษะโขกพื้น กรีดตัวเอง หรือใช้สารเสพติด
  • ไม่สามารถควบคุมได้เลย
  • พฤติกรรมดังกล่าวไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะลงโทษพวกเขาอย่างสม่ำเสมอก็ตาม
  • มีรายงานเกี่ยวกับอาการทางจิต เช่นได้ยินหรือเห็นของบางอย่างที่คนอื่นไม่เห็นหรือได้ยิน
  • ไม่มีความรู้สึกใส่ใจหรือเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น

ผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยเหลือได้อย่างไร

ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสามารถตัดโรคทางจิตที่อาจอยู่เบื้องหลังปัญหาทางด้านพฤติกรรมได้เช่นโรคสมาธิสั้น หากลูกของคุณเป็นโรคนี้ ผู้เชี่ยวชาญสามารถให้คำแนะนำเรื่องการรักษาและวิธีการฝึกระเบียบวินัยที่เหมาะสมสำหรับเด็กที่เป็นโรคได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

ในบางครั้ง โรคซึมเศร้าก็อาจทำให้เกิดปัญหาทางพฤติกรรม ตัวอย่างเช่นเด็กวัยรุ่นที่ซึมเศร้ามักกระสับกระส่ายและอาจไม่ยอมตื่นเช้าไปโรงเรียนหรืออาจจะต้องการใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องของตัวเอง

โรควิตกกังวลอาจทำให้เกิดปัญหาทางพฤติกรรมเช่นกัน เด็กที่วิตกกังวลนั้นอาจทะเลาะหรือไม่ทำการข้อตกลงหากพวกเขากังวลเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง การประเมินอย่างสมบูรณ์จะช่วยตัดโรคทางจิตเหล่านี้และสามารถรักษาโรคที่อยู่เบื้องหลังพฤติกรรมดังกล่าวซึ่งอาจทำให้พฤติกรรมดังกล่าวดีขึ้นได้

ผู้เชี่ยวชาญอาจให้คำแนะนำและส่งต่อให้ลูกของคุณเข้ารับการรักษาต่อไปได้ ตัวอย่างเช่น เด็กที่อาจถูกทำร้ายทางจิตใจจากเหตุการณ์รุนแรงอาจได้รับประโยชน์จากการปรึกษาส่วนตัว หรือเด็กที่มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ของครอบครัวอาจได้รับประโยชน์จากการบำบัดคนเดียวหรือร่วมกับครอบครัว

บางครั้ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงลูกอาจต้องการพูดคุยกับคุณโดยที่ไม่มีลูกของคุณอยู่ด้วย การให้การสนับสนุนและฝึกการเลี้ยงลูกจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างรวดเร็วในการแก้ปัญหาด้านพฤติกรรม

เมื่อผู้ดูแลได้เรียนรู้วิธีการอบรมเด็กและฝึกเทคนิควิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วนั้น พวกเขาอาจจะทำได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้นักบำบัดที่ทำงานร่วมกับเด็กเพียงสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง

บางครั้งการรักษาแบบผู้ป่วยนอกก็ไม่เพียงพอ หากปัญหาทางพฤติกรรมดังกล่าวนั้นรุนแรง อาจจะต้องมีการรักษาที่บ้าน โดยการรักษาแบบนี้จะเกิดขึ้นที่บ้านและช่วยสอนให้คุณสามารถฝึกระเบียบวินัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในรายที่มีปัญหารุนแรงมากและไม่ปลอดภัยที่จะอยู่ในชุมชน อาจจะต้องมีการรักษาในโรงพยาบาล

จะขอความช่วยเหลือได้อย่างไร

หากคุณสงสัยว่าปัญหาพฤติกรรมของลูกคุณนั้นไม่ปกติ ให้สอบถามกุมารแพทย์ ปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องที่คุณกังวล และถ้าหากจำเป็นพวกเขาจะเป็นผู้ส่งให้คุณไปพบกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติกรรมของเด็กเพื่อเข้ารับการประเมิน ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตใจที่ได้รับการฝึกฝนมานั้นสามารถประเมินความต้องการของคุณและสร้างวิธีการในการจัดการกับปัญหาพฤติกรรมนี้ได้อย่างเหมาะสม


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
11 toddler behavior problems and how to handle them. BabyCenter. (https://www.babycenter.com/0_11-toddler-behavior-problems-and-how-to-handle-them_10338614.bc)
When to Seek Professional Help for Behavior Problems. Verywell Family. (https://www.verywellfamily.com/when-do-child-behavioral-problems-require-professionals-1094789)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป