“ดื่มเหล้ามากๆ ระวังจะตับแข็ง” เชื่อว่า แทบทุกคนคงเคยได้ยินประโยคนี้กันมาบ้าง แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคตับ ไม่ใช่แค่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น
พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคตับได้มาจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริมติดต่อกันเป็นเวลานานๆ หรือการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
หากใครรู้ตัวว่า กำลังอยู่ในกลุ่มเสี่ยง การตรวจตับก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้คุณรู้ว่า ตอนนี้ตับของคุณยังแข็งแรงอยู่หรือเปล่า
ความสำคัญของตับ
ตับเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญเพราะตับมีหน้าที่หลากหลาย ทำงานเชื่อมโยงกับหลายๆ ระบบในร่างกาย ดังนี้
- เป็นแหล่งผลิตสารสำคัญต่างๆ ในร่างกาย
- เป็นแหล่งสะสมอาหาร
- เป็นแหล่งสร้างน้ำดี
- ขับของเสียออกจากร่างกาย
- ป้องกันร่างกายจากเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม
- เป็นแหล่งรีไซเคิลโปรตีนในร่างกายให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ไม่มีอวัยวะใดมาทำหน้าที่เหล่านี้แทนตับได้เลย แม้แต่เทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถผลิตอุปกรณ์ใดๆ มาทำหน้าที่แทนตับได้เช่นกัน
ตับยังเป็นอวัยวะที่มหัศจรรย์อย่างมากเพราะแม้จะถูกทำลายจนเหลือใช้งานได้เพียง 30% แต่ก็ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ ตับยังมีกลไกการซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองอีกด้วยแตกต่างจากอวัยวะอื่นๆ ที่หากถูกทำลายไปแล้วก็จะไม่สามารถใช้งานได้เลย
ด้วยความมหัศจรรย์นี้เองที่ทำให้เราไม่เคยรับรู้ถึงสัญญาณเตือนใดๆ ว่า "ตับของเรากำลังมีปัญหาอยู่หรือไม่" เราจึงทำพฤติกรรมที่ทำลายตับไปเรื่อยๆ และแม้ว่าตับจะซ่อมแซมตัวเองได้ แต่หากถูกทำลายซ้ำๆโดยไม่ได้หยุดพัก ก็เกิดปัญหาได้เช่นกัน
ผู้ที่เป็นโรคตับส่วนใหญ่จึงมาพบแพทย์เมื่ออาการของโรคลุกลามไปไกลจนเกินเยียวยาและอาจส่งผลให้เป็นอันตรายถึงชีวิต
ตรวจตับวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 65%
ตรวจตับ วันนี้ เปรียบเทียบราคา / ประหยัดกว่า / ผ่อน 0% ได้ / แอดมินพร้อมให้บริการ กดที่นี่
การตรวจตับอย่างสม่ำเสมอในผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจึงมีความสำคัญอย่างมากเพราะหากทราบถึงปัญหาและหยุดยั้งสาเหตุที่ทำลายตับได้ทัน ก็มีโอกาสหายจากโรคนั้นๆ ได้ ตับก็สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติได้อีกครั้ง
ใครที่มีพฤติกรรมเสี่ยงควรตรวจตับบ้าง
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ แอลกอฮอล์จะทำลายเซลล์ตับทำให้เกิดความเสียหาย นานไปจะทำให้ตับแข็งและเป็นมะเร็งตับได้
- มีภาวะอ้วนลงพุง อาจทำให้เกิดภาวะไขมันพอกตับและทำให้ตับเกิดการอักเสบตามมา มีโอกาสทำให้ตับแข็ง และเป็นมะเร็งตับได้ในที่สุด
- รับประทานยา หรือสมุนไพร ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ตับมีหน้าที่แปลงสารต่างๆ ที่เรารับประทานเข้าไปให้อยู่ในรูปที่ร่างกายนำไปใช้งานได้ ยิ่งเรารับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริมที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย หรือไม่มีข้อบ่งชี้ของโรคเข้าไปมากๆ ตับก็ต้องทำงานหนักขึ้นตามไปด้วย
- รับประทานวิตามินและอาหารเสริม ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ หากรับประทานวิตามินเกินความจำเป็นของร่างกาย ตับก็ต้องขับวิตามินออก หากเป็นวิตามินกลุ่มที่ละลายในน้ำมัน (A D E K) ซึ่งตับขับออกไม่ได้ ก็จะเข้าไปสะสมในตับแทน เป็นสาเหตุทำให้ตับอักเสบได้เช่นกัน
- ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เชื้อไวรัสชนิดนี้จะเข้าไปทำลายเซลล์ตับทำให้ตับอักเสบ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องก็มีโอกาสเป็นมะเร็งตับได้ในที่สุด
อาการบ่งชี้ที่ทำให้รู้ว่า ควรตรวจตับได้แล้ว
- อ้วนลงพุง
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียเป็นประจำ
- จุกแน่นบริเวณชายโครงด้านขวา กดแล้วรู้สึกเจ็บ
- ตัวเหลือง ตาเหลือง
- มีไข้ต่ำๆ
- ท้องมาน ท้องโต
- อาเจียนเป็นเลือด
ส่วนมากแล้วหากตับเกิดความผิดปกติ ร่างกายแทบจะไม่แสดงอาการใดๆ เลย จะแสดงอาการให้เห็นก็ต่อเมื่อโรคดำเนินมาในระยะที่รุนแรงแล้ว
ดังนั้นการรอให้เกิดอาการจึงอาจสายเกินไป แต่ควรสังเกตจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตว่า "เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง หรือไม่" จึงตัดสินใจตรวจตับ จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ตรวจตับต้องตรวจอะไรบ้าง
การตรวจตับในผู้ที่มีภาวะเสี่ยงแพทย์จะตรวจวัดระดับค่าภายในเลือดดังนี้
- AST หรือเรียกอีกชื่อว่า SGOT เพื่อตรวจการอักเสบของตับ ค่าปกติคือ น้อยกว่า 40 ยูนิต/ลิตร*
- ALT หรือเรียกอีกชื่อว่า SGPT เพื่อตรวจการอักเสบของตับ ค่าปกติคือ น้อยกว่า 40 ยูนิต/ลิตร*
หากค่าทั้ง 2 นี้ปกติก็วินิจฉัยได้ว่า ตับของคุณยังแข็งแรง ไม่จำเป็นต้องตรวจใดๆ เพิ่มเติม แต่หากผลออกมาผิดปกติ ร่วมกับอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีอาการท้องบวม ท้องมาน ตัว ตาเหลือง แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม ดังนี้
- Alkaline Phosphatase เพื่อตรวจสอบการอุดตันของท่อน้ำดี ค่าปกติคือ น้อยกว่า 120 ยูนิต/ลิตร*
- Albumin เพื่อตรวจสอบการสร้างโปรตีนของตับ ค่าปกติคือ 3.5-5.5 กรัม/เดซิลิตร*
- ตรวจอัลตราซาวน์ช่องท้อง เพื่อตรวจหาความผิดปกติภายในตับ เช่น ก้อนเนื้องอก หรือมะเร็ง
*ค่าปกติ หรือค่ามาตรฐานของแต่ละโรงพยาบาลอาจต่างกัน ขึ้นอยู่กับน้ำยาที่ใช้ในการตรวจ
ตรวจตับได้ที่ไหนบ้าง
ตามปกติโปรแกรมการตรวจการทำงานของตับพื้นฐาน AST และ ALT นั้น ส่วนใหญ่จะมีในโปรแกรมการตรวจสุขภาพประจำปีของโรงพยาบาล หรือคลินิกต่างๆ อยู่แล้ว แต่หากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยง และอยากตรวจตับรายการอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกชั้นนำทั่วไป
สำหรับผู้สนใจแพ็กเกจตรวจตับ ตรวจสอบได้ที่นี่