เกลือยิปซั่มมีประโยชน์จริงหรือไม่?

เผยแพร่ครั้งแรก 28 ก.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
เกลือยิปซั่มมีประโยชน์จริงหรือไม่?

คุณอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการแช่เกลือยิปซั่มในสปา แต่อาจจะไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์จริงไม่ ซึ่งเสียใจด้วยที่เราต้องบอกว่ามันอาจจะไม่ได้มีประโยชน์เหมือนที่กล่าวอ้างกัน

เกลือยิปซั่มมีประโยชน์หรือไม่?

ในทางทฤษฎี เชื่อกันว่าการละลายเกลือยิปซั่ม หรือสาร magnesium sulfate heptahydrate ในน้ำแล้วอาบนั้นจะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแมกนีเซียมซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ควบคุมระดับความดันโลหิตให้ปกติ เพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูก ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ฯลฯ ได้ดีขึ้น

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

มีงานวิจัยที่พบว่าแมกนีเซียมนั้นสามารถยับยั้ง NDMA receptor ซึ่งเป็นตัวรับสัญญาณความเจ็บปวดในสมอง ทำให้สมองรู้สึกถึงความเจ็บปวดลดลง นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยที่พบว่าแมกนีเซียมสามารถช่วยลดอาการอักเสบ และการให้ magnesium sulfate ทางเส้นเลือดดำนั้นอาจจะช่วยบรรเทาอาการของไมเกรน รักษาโรคหอบหืด หรือแม้กระทั่งกระตุ้นการฟื้นตัวของร่างกายหลังจากเป็นโรคเส้นเลือดสมองอุดตัน ดังนั้นการอาบน้ำที่เต็มไปด้วยแมกนีเซียมนั้นจึงดูน่าจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

การแช่น้ำเกลือยิปซั่มในสปามีประโยชน์จริงไหม?

การได้รับแมกนีเซียมทางเลือดนั้นแตกต่างจากการแช่น้ำอาบเพื่อหวังให้แร่ธาตุนั้นจะถูกดูดซึมผ่านผิวหนัง ไม่มีงานวิจัยที่พบว่าการอาบเกลือยิปซั่มนั้นจะช่วยเพิ่มระดับแมกนีเซียมในร่างกายได้ ในทางกลับกัน งานวิจัยชิ้นหนึ่งกลับพบว่ายิ่งทาโลชั่นที่มี magnesium sulfate ลงบนผิวหนังนั้นไม่ได้ช่วยเพิ่มระดับ magnesium แต่อย่างใด เพราะถึงแม้ว่าผิวหนังจะสามารถดูดซึมสารบางอย่างได้ แต่ก็มักจะไม่สามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเกลือยิปซั่ม

ดังนั้นจึงไม่มีงานวิจัยที่ให้ความสนใจกับการอาบเกลือยิปซั่มอย่างจริงจัง ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าการอาบเกลือนั้นจะไม่มีประโยชน์ แต่อาจจะต้องรอการศึกษาเพิ่มเติม งานวิจัยบางชิ้นพบว่าการอาบโคลนนั้นจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าให้โคลนสัมผัสกับผิวหนังโดยตรงเมื่อเปรียบเทียบกับการมีเสื้อผ้า การอาบโคลนเหล่านี้นั้นมีแร่ธาตุหลากหลายซึ่งร่างกายก็อาจจะดูดซึมแมกนีเซียมผ่านทางนี้ได้เช่นกัน

แต่ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด แพทย์ทางเลือกบางคนก็อาจจะแนะนำผู้ป่วยลองใช้วิธีนี้ได้ เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าปลอดภัย โดยอาจจะแนะนำให้ทำการอาบเป็นครั้งคราวเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดและตะคริว

ควรรักษาอาการปวดเมื่อยอย่างไร?

ผู้เชี่ยวชาญอีกส่วนหนึ่งก็เชื่อว่าประโยชน์ที่ได้นั้นเกิดจากการอาบน้ำร้อนมากกว่า เพราะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย หลอดเลือดที่ผิวหนังชยายตัว และอาจจะช่วยลดอาการเจ็บปวดได้ การเติมเกลือยิปซั่มนั้นอาจจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการปวดกล้ามเนื้อ อย่าหวังพึ่งการอาบเกลือยิปซั่มเพียงอย่างเดียว ควรใช้การยืดกล้ามเนื้อ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และใช้ยาแก้ปวดเมื่อจำเป็น

และก่อนที่คุณจะเลิกอาบเกลือยิปซั่มอย่างถาวร คุณอาจจะลองพิจารณาประโยชน์ในด้านอื่นแทนเช่นอาจจะช่วยในการขัดผิว หรือเพิ่มน้ำหนักให้กับเส้นผมได้ จากการที่ช่วยดูดซัมน้ำมันส่วนเกินที่เส้นผมซึ่งทำให้ผมดูลีบ


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
7 Things You Probably Didn’t Know About Epsom Salt. Health Essentials from Cleveland Clinic. (https://health.clevelandclinic.org/7-things-you-probably-didnt-know-about-epsom-salt/)
Epsom Salt Bath: How to Take One, What It Does. WebMD. (https://www.webmd.com/a-to-z-guides/epsom-salt-bath#1)
Magnesium Sulfate (Epsom Salt) - Side Effects, Dosage, Interactions. Everyday Health. (https://www.everydayhealth.com/drugs/magnesium-sulfate)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป