การตั้งครรภ์และคลอดบุตรในแต่ละครั้งนั้นแตกต่างกัน อาการที่พบได้บ่อยในคุณแม่ส่วนใหญ่ได้แก่
- รู้สึกเต้านมคัดตึง
- ประจำเดือนไม่มา
- คลื่นไส้ แต่ไม่อาเจียน
- ปัสสาวะบ่อย
- อ่อนเพลีย
หากมีอาการเหล่านี้ควรตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ ถ้าผลเป็นบวกควรไปฝากครรภ์ต่อไป อย่างไรก็ตาม บางคนอาจมีอาการอื่นๆ ได้ หรือในคุณแม่รายเดียวกันก็อาจมีอาการแตกต่างกันไปในการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง
วิธีหนึ่งที่ใช้ตรวจสุขภาพครรภ์คือตรวจฮอร์โมน Human chorionic gonardotropin (hCG) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกิดจากรก ฮอร์โมนนี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไปจนกว่าจะคลอด สามารถตรวจฮอร์โมนนี้เพื่อพิสูจน์การตั้งครรภ์ทางเลือดได้ตั้งแต่วันที่ 11 หลังปฏิสนธิ และทางปัสสาวะได้ตั้งแต่วันที่ 12-14 หลังการปฏิสนธิ
บางทีหากระบบไหลเวียนโลหิตของมารดามีฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนต่ำ อาจมีการใช้วิธีฉีดฮอร์โมน hCG เพื่อกระตุ้นระดับฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนให้เพิ่มขึ้น เป็นการรักษาครรภ์ทางหนึ่ง ทางเลือกอื่นๆ ในการรักษาครรภ์ได้แก่ ให้ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนโดยตรง อย่างไรก็ตาม ยังเป็นที่ถกเถียงกันทั้งสองวิธีมีประโยชน์จริงหรือไม่
คุณแม่ที่ต้องการตรวจสุขภาพครรภ์ให้ได้ผลแม่นยำที่สุด แนะนำให้ใช้การตรวจอัลตราซาวนด์ ซึ่งจะแสดงให้เห็นพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้จากการเต้นของหัวใจ เริ่มตรวจพบได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 6 สัปดาห์