ถ้าลูกน้อยของเราสามารถนอนหลับได้เองเหมือนผู้ใหญ่ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนคงจะเบาแรงไปเยอะในการเลี้ยงลูก เพราะการนอนของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนนอนหลับได้ง่าย บางคนกว่าจะให้หลับได้ก็เล่นเอาพ่อแม่หมดแรง แถมเด็กบางคนยังชอบตื่นมากลางดึกร้องไห้จ้า ทำให้พ่อแม่ไม่ได้หลับได้นอนไปด้วย หากเราสามารถทำให้ลูกนอนหลับได้เอง หรือหากตื่นก็ยังสามารถนอนหลับต่อได้เองคงจะดีไม่น้อยนะค่ะ วันนี้เรามีเทคนิคมาแนะนำค่ะ
ให้พาลูกไปยังที่นอน ก่อนที่เขาจะหลับ
หลายๆ ครั้งที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ มักจะปล่อยให้ลูกนอนหลับขณะที่ตนกำลังอุ้มลูกอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการอุ้มพาดบ่า หรืออุ้มแนบอก การที่เด็กหลับขณะที่เราอุ้มอยู่นั้นจะทำให้เด็กติดค่ะ หมายความว่า ต่อจากนี้ไป เด็กจะไม่ยอมนอนจนกว่าเราจะอุ้มแกไว้ค่ะ และเมื่อเราเอาลูกไปวางบนที่นอนหลังจากที่หลับคาอกเราแล้ว เมื่อเด็กตื่นขึ้นมา เด็กจะร้องและไม่สามารถหลับต่อได้เอง เนื่องจากว่าสภาวะก่อนที่เขาจะหลับได้เปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรที่จะพาลูกไปนอนยังที่นอนของเขาก่อนที่เขาจะหลับเสมอค่ะ หากเป็นช่วงที่กินนม แล้วเขาเผลอกินแล้วหลับละก็ ลองอุ้มแกไปที่นอนจากนั้นก็อาจจะกระตุ้นให้แกตื่นด้วยการลูบเบาๆ ที่หัวแม่เท้า หรือจักจี้ที่ฝาเท้าเบาๆ เพื่อเด็กรู้สึกตัวอีกครั้ง จากนั้นคุณค่อยให้แกนอนหลับค่ะ ฝึกแบบนี้บ่อยๆ จะทำให้เด็กชินกับที่นอนมากกว่าการนอนบนอกหรือบ่าของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ หรืออาจจะเลื่อนเวลาในการให้นมให้เร็วขึ้นอีกนิด เพื่อที่เขาจะได้กินนมหมด แล้วยังพอมีเวลาที่คุณจะพาแกไปยังที่นอนค่ะ
ใช้คำเดิมๆ ในการบอกลูกว่าได้เวลานอนแล้วนะ
การพูดกับลูก แม้ว่าลูกจะยังเป็นทารก หรือเด็กที่เริ่มโตแล้วก็ตาม เด็กจะสามารถเรียนรู้ได้ค่ะ อย่าเพิ่งคิดว่าแกฟังไม่รู้เรื่องนะค่ะ หากคุณพาแกไปยังที่นอนแล้ว คุณควรที่จะใช้คำพูดเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกครั้งในการบอกแกว่า ได้เวลานอนแล้ว น้ำเสียงควรจะเป็นโทนต่ำ ราบเรียบนะค่ะ เพื่อเป็นการฝึกให้เด็กได้เรียนรู้ว่า เมื่อพ่อแม่พูดคำนี้ น้ำเสียงแบบนี้บนที่นอน นี่คือสัญญาณว่าได้เวลานอนแล้ว
ให้ลูกหลับด้วยวิธีเดียวกันเสมอๆ
ไม่ว่าจะเป็นการนอนตอนกลางวัน กลางคืน คุณควรที่จะฝึกให้เขาเรียนรู้ว่า เมื่อคุณปฏิบัติตามเคล็ดลับที่ 1 และ 2 แล้ว นั้นคือเวลาเข้านอนของเขาแล้ว แรกๆ เด็กอาจจะปรับตัวไม่ได้ แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไป เด็กๆ จะสามารถเรียนรู้ได้เองค่ะ คุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนและให้เวลากับลูกให้มากนะค่ะ
พยายามอย่าอุ้มลูกขึ้นมาเมื่อตื่น
หากลูกรู้สึกตัว อาจจะเพราะว่าฉี่หรืออึ หรืออาจจะเพราะได้ยินเสียงดังเลยตกใจตื่น หรือด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามที่เราเห็นว่าแกยังนอนไม่เต็มอิ่ม คุณไม่ควรที่จะอุ้มแกขึ้นมากล่อมนะค่ะ แค่เพียงพูดคุยในประโยคเดิมๆ ว่าได้เวลานอนแล้ว สัมผัสแกให้รู้ว่าคุณอยู่ข้างๆ และให้แกรู้สึกว่าปลอดภัยค่ะ จะสามารถแก้ไขปัญหาที่ต้องมาคอยอุ้มกล่อมลูกในยามดึกได้ค่ะ
คงสภาวะในห้องนอนของลูกให้เหมือนเดิมมากที่สุด
ก่อนที่เด็กจะนอนหลับไป สภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแสง อากาศ เสียง หรืออุณหภูมิในห้อง เด็กๆ ล้วนบันทึกไว้ก่อนหลับแล้วค่ะ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรที่จะเปลี่ยนหรือทำให้สภาวะห้องเปลี่ยนไป เพราะเมื่อเด็กตื่นขึ้น หากเขาเห็นว่าห้องไม่เหมือนเดิม เขาจะรู้สึกไม่ปลอดภัย และร้องไห้มากกว่าเดิมค่ะ
เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่คงจะอยากฝึกให้ลูกนอนหลับด้วยตัวเองแล้วใช่ไหมค่ะ สำหรับบางท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วเราควรจะเริ่มฝึกให้ลูกเริ่มนอนหลับได้ด้วยตัวเองเมื่อลูกอายุเท่าไรดีนั้น จริงๆ แล้วเด็กทารกแรกเกิดเราก็สามารถเริ่มฝึกได้แล้วค่ะ แต่ถ้าลูกไม่สบาย คุณควรที่จะยกเลิกการฝึกชั่วคราว และรอจนกว่าจะหายดี เพราะไม่อย่างนั้นเราคงจะไม่สามารถแยกได้ว่า ที่เด็กร้องไห้นั้นเป็นเพราะว่าเขาไม่สบาย หรือว่าเป็นเพราะว่าเขากำลังปรับตัวกับการฝึกนี้ค่ะ