จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่า ภาวะที่ผิดปกติจากเพศสภาพของตัวเองนั้น มีความเกี่ยวข้องซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติในระดับโครโมโซมเอ็กซ์ตั้งแต่แรกเกิด กล่าวคือหากโครโมโซมของเด็กที่ตำแหน่ง Xq28 มีความผิดปกติ จะมีโอกาสมากที่โตขึ้นจะมีความเบี่ยงเบน หลังจากงานวิจัยชิ้นนี้เผยแพร่ออกไปจนสั่นสะเทือนวงการเกย์ กระแสความคิดสนับสนุนและโต้แย้งได้ทำให้เกิดงานวิจัยอีกหลายชิ้นตามมา ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่มีใครได้ข้อสรุปว่า โครโมโซมคู่ที่ Xq28 คือ ตัวบ่งชี้ความเป็นเกย์ได้ 100% หรือไม่ เพราะถึงที่สุดแล้ว งานวิจัยก็คือ “การเลือกศึกษา” ในแง่มุมใดแง่มุมหนึ่งที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของผู้ศึกษานั่นเอง
อะไรคือสาเหตุให้ลูกชายของเราโตมากลายเป็นลูกสาว?
สาเหตุที่ทำให้เด็กเบี่ยงเบนทางเพศ อาจแบ่งออกเป็นปัจจัยทางชีวภาพ กับปัจจัยทางด้านการอบรมเลี้ยงดู
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปัจจัยทางชีวภาพ
ปัจจัยทางชีวภาพ หมายถึง สิ่งที่ติดตัวเด็กมาตามธรรมชาติหรือสภาพทางกายที่เกิดมา เช่น เด็กบางคนขณะอยู่ในครรภ์มารดานั้น เกิดมีภาวะผิดปกติของระดับฮอร์โมนที่ควบคุมความเป็นหญิงหรือชาย เด็กคนนั้นเกิดมาก็จะมีความผิดปกติทางเพศ เช่น มีอวัยวะเพศก้ำกึ่งระหว่างหญิงชาย หรือมีพฤติกรรมของเพศตรงข้ามด้วย เช่น เป็นหญิง แต่มีลักษณะท่าทางพฤติกรรมของเด็กชายที่มักเรียกกันว่าทอมบอย ทั้งนี้จากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศที่ได้รับระหว่างอยู่ในท้องแม่
ปัจจัยทางจิตใจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ภาวะแวดล้อมหลังคลอดแล้วมีความสำคัญและมีอิทธิพลอย่างมากต่อเด็กที่จะพัฒนาเพศของตนไปเป็นหญิงหรือชาย ปัจจัยเหล่านี้ประกอบด้วย
- การอบรมเลี้ยงดู การอบรมเลี้ยงดูจะเป็นปัจจัยที่กำหนดเพศ (Sex designation) ของเด็ก
ตามปกติแล้วพ่อแม่ และผู้ใหญ่จะปฏิบัติต่อเด็กหญิงและเด็กชายต่างกันตั้งแต่แรกเกิด เช่น คำพูดที่พูดด้วยความอ่อนโยน การจับต้องตัวเด็ก เสื้อผ้าของใช้ต่างๆ อาจมีลักษณะต่างกัน สีก็อาจจะใช้ต่างกัน เช่น สีชมพูสำหรับเด็กหญิง สีฟ้าสำหรับเด็กชาย ของเล่นที่ซื้อให้ก็ต่างกัน เช่น ตุ๊กตาสำหรับเด็กหญิง ปืน รถหุ่นยนต์สำหรับเด็กชาย
นอกจากกนี้ การอบรมด้วยคำพูดก็มีส่วนในการแยกเพศให้เด็ก เช่น พ่อแม่จะพูดกับเด็กว่า “เป็นเด็กผู้หญิงต้องเรียบร้อยหน่อยจ้ะลูก” หรือ “ผู้ชายเขาไม่พูดลากเสียงแบบนี้นะ ต้องพูดจาให้เข้มแข็งซิลูก” การสอนของผู้ใหญ่ก็มีส่วนกล่อมเกลาเด็กให้มีพฤติกรรมเป็นหญิงหรือชายชัดเจนขึ้นได้ เช่น “ลูกเก่งมากที่เป็นสุภาพบุรุษแบบนี้”
- การเป็นแบบอย่างของพ่อแม่ ทารกที่เกิดขึ้นนั้นไร้เดียงสา ต้องมาเรียนรู้ในโลกเกือบทุกอย่าง บทบาททางเพศก็เช่นเดียวกัน เด็กจะค่อยๆ เรียนรู้ภายหลังจากสังคมกำหนดว่าเพศใดมีบทบาทอย่างไร โดยการเอาอย่างผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิด
โดยเฉพาะพ่อแม่ซึ่งเป็นบุคคลที่เด็กรักและนับถือมาก พ่อแม่จึงเป็นแบบอย่างให้เด็กได้ทำตาม โดยเป็นแบบอย่างให้แก่ลูก ตามธรรมชาติเด็กหญิงมักเอาแบบอย่างแม่ เด็กชายเอาแบบอย่างพ่อ
พ่อแม่คู่ไหนที่มีปัญหา อาจจะทำให้ลูกมีปัญหาตามไปด้วยได้ เช่น พ่อกับแม่มีความสัมพันธ์ไม่ดี ไม่อบอุ่น พ่อหายไปจากบ้านเสมอ เมื่อแม่โกรธและไม่พอใจพ่อมากๆ ลูกชายนอกจากจะไม่มีโอกาสใกล้ชิดเอาแบบอย่างพ่อแล้ว โดยแม่อาจพูดจาติเตียนหรือพูดถึงพ่อในแง่ลบต่างๆ ให้ลูกฟัง ลูกชายจึงไม่ต้องการเอาแบบอย่างพ่อที่ไม่ดีแบบนั้น
- สภาพแวดล้อมที่เด็กเติบโต เด็กผู้หญิงบางคนเติบโตท่ามกลางเด็กผู้ชายทั้งหมด เด็กผู้ชายบางคนมีพี่น้อง ญาติ เพื่อนเล่น เป็นผู้หญิงหมด อาจทำให้ท่าทีของเด็กคนนั้นคล้ายผู้หญิงไปด้วยได้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปว่าสภาพแวดล้อมเพียงปัจจัยเดียวสามารถทำให้เกิดพฤติกรรมผิดเพศได้หรือไม่
แล้วจะทำอย่างไร?
เนื่องจากการเบี่ยงเบนทางเพศเป็นผลมาจากปัจจัยทางชีวภาพ หรือความผิดปกติในระดับโครโมโซม ดังนั้นการที่ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนจึงไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีบังคับให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้
การมีเพศที่ไม่ใช่หญิงหรือชายไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด ที่สำคัญคือพ่อ แม่ ลูก ควรเปิดใจพูดคุยกัน และทำความเข้าใจสิ่งที่ลูกเป็น หากมีปัญหาอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น จิตแพทย์ นักจิตวิทยา ที่สามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องได้