การเตรียมตัวของผู้สูงวัยในขณะที่มีอายุก่อนการเกษียณนั้น เป็นเรื่องที่ควรจะต้องปฏิบัติอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถปฏิบัติได้หลายด้านเพื่อความสุขและความพร้อม ในยามที่หมดภาระหน้าที่ในการทำงาน โดยการเตรียมตัวนั้นต้องเริ่มทำตั้งแต่ก่อนเกษียณหลายปี เพราะเราจะได้มีเวลาเพียงพอที่จะเตรียมเรื่องต่างๆ ก่อนถึงเวลาเกษียณจริงๆ นั่นเอง
ทางด้านร่างกาย
นับว่าเป็นความสำคัญอันดับแรกที่ควรให้ความเอาใจใส่และเตรียมเข้าสู่ช่วงผู้สูงวัย หากเรามีร่างกายแข็งแรงก็ย่อมหมายถึงความสุขที่ไม่อาจหาซื้อได้ ถ้าไม่มีการเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ โดยวิธีเตรียมร่างกายให้แข็งแรงมีดังนี้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- การรับประทานอาหาร ร่างกายในระยะนี้เป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงสูง การรับประทานอาหารให้หลากหลายในสัดส่วนที่เหมาะสมให้ครบทั้ง 5 หมู่ และดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เป็นขั้นแรกที่จะช่วยให้ร่างกายมีความสมบูรณ์ แล้วงดเว้นการรับประทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้สูงวัยอย่างเช่นอาหารรสจัด แต่ให้เน้นอาหารที่ย่อยง่ายและเคี้ยวง่ายแทน
- การออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะต้องปฏิบัติให้เหมาะสมกับผู้สูงวัย เช่น เดินช้าๆ รำไม้พลอง และไม่ออกกำลังกายที่ต้องกระทบกับข้อต่างๆ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนก่อน 22.00 น. และนอนหลับให้ได้วันละ 6 – 8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมกล้ามเนื้อ สมองสดชื่น ปลอดโปร่ง กระฉับกระเฉง แต่ไม่ควรนอนกลางวันเพราะจะทำให้กลางคืนนอนไม่หลับ
- การตรวจเช็คสุขภาพ ควรตรวจเช็คสุขภาพปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากผู้สูงวัยมักจะมีระบบการทำงานแปรปรวนหรือเสื่อมสภาพ จนทำให้เกิดโรคภัยได้ง่าย ดังนั้นการตรวจสุขภาพจะช่วยให้พบโรคตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้การรักษานั้นง่ายขึ้นและมีโอกาสหายขาดได้ อีกทั้งยังเป็นการตรวจหาความผิดปกติที่อาจนำไปสู่การเจ็บป่วย หากทราบก่อนก็จะสามารถป้องกันโรคได้นั่นเอง
ทางด้านจิตใจ
“จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” ดังนั้นเมื่อเรามีสุขภาพจิตที่ดีย่อมส่งผลให้ทุกอย่างรอบกายและสุขภาพโดยรวมของผู้สูงวัยพลอยดีไปด้วย
- ปรับอารมณ์ ผู้สูงอายุบางครั้งยังมีการปรับความรู้สึกวิตกกังวลถึงความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ว่าจะต้องมีอาชีพอะไรหรืออยู่อย่างไร จนทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดง่ายและเบื่อหน่ายชีวิต เพราะฉะนั้นการทำให้จิตใจสงบด้วยวิธียึดหลักธรรมมะง่ายๆ ก็จะช่วยได้ พร้อมกับปล่อยวางไม่ยึดติดกับสิ่งใด เข้าใจธรรมชาติความเป็นจริงของชีวิตว่า ทุกๆ สิ่งเป็นเรื่องของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
- ปรับความคิดให้เห็นสภาพความเป็นจริง ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ยุคสมัยการดำเนินชีวิตก็เช่นกัน เมื่อคนรุ่นเก่าหมดไปก็จะมีคนรุ่นใหม่มาแทนที่ มองโลกในแง่ดีเสมอว่าในเรื่องร้ายๆ มักมีเรื่องที่ดีแฝงอยู่เสมอ ใช้สติและเหตุผลให้มากกว่าการใช้อารมณ์ จะช่วยควบคุมผู้สูงวัยให้ผ่านเรื่องต่างๆ หลังการเกษียณได้เป็นอย่างดี
ทางด้านอื่นๆ
- ความสัมพันธ์กับครอบครัว ผู้สูงวัยควรใช้เวลากับคนในครอบครัวให้มากขึ้น ด้วยการเป็นที่ปรึกษาที่ดีและเป็นกำลังใจให้ลูกหลาน สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ตัวเรามีความภาคภูมิใจ มีความมั่นใจในตนเอง หลังเกษียณก็จะได้ไม่มีปัญหา
- ที่อยู่อาศัย เตรียมสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้มีลักษณะที่เหมาะสม เช่น ไม่อยู่ชั้นบนของบ้านเพื่อความสะดวกในการขึ้นลง พื้นต้องไม่ลื่นเพื่อป้องกันการหกล้ม และควรมีความสะดวกต่อการเดินทาง อยู่ในชุมชนหรือใกล้ญาติพี่น้อง
- ทำงานอดิเรก โดยทำตามกำลังความสามารถ งานอดิเรกบางอย่างสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นอาชีพหลังการเกษียณของผู้สูงวัยได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่เหงาและรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าอีกด้วย
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการเตรียมตัวของผู้สูงวัยเพื่อรองรับก่อนเกษียณ และยังคงมีอีกหลายๆ ด้าน อาทิเช่น มีการเก็บเงินไว้ในตามกำลังความสามารถ เพื่อให้มีใช้ในการดำรงชีวิตยามที่รายได้ลดลง อำนวยความสะดวกในยามเจ็บป่วย หรือปรับตัวให้มีเพื่อนและสังคม หรือทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ ถ้าเราลงมือทำได้จะช่วยให้ชีวิตหลังเกษียณย่อมพบกับความสุขอย่างครบด้าน โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องใดๆ เลย