เก็บเค้กไว้กินตอนวันเกิดของคุณ
แม้ว่าการฉลองวันเกิดและวันครบรอบต่างๆ นั้นจะเป็นเรื่องที่ดี แต่การใช้ข้ออ้างนี้มารับประทานน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตเพิ่มนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อสุขภาพ หากคุณพยายามลดน้ำตาล ควรระบุให้ชัดเจนว่าการเฉลิมฉลองแต่ละอย่างนั้นมีความหมายอย่างไรต่อตัวคุณ เพราะในแต่ละวันก็ย่อมเป็นวันเกิดของใครบางคน ดังนั้นคุณควรเลือกรับประทานเค้กในโอกาสพิเศษเท่านั้น หากคุณรับประทานอาหารนอกบ้าน ให้สั่งผลไม้แทนของหวาน
ดื่มชา กาแฟและน้ำที่ไม่ผสมน้ำตาล
คนส่วนมากมักดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล แต่การดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้เพียงวันละ 1 หรือ 2 แก้วนั้นก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้มากกว่า 25% เช่นเดียวกับความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด การเปลี่ยนไปทานสารให้ความหวานแทนน้ำตาลนั้นก็ไม่เหมาะสมเช่นกัน งานวิจัยบางคนเสนอให้คุณลองสอนตุ่มรับรสให้อยากอาหารหวานประเภทอื่น ในขณะที่บางคนควรหลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีน ซึ่งงานวิจัยพบว่าอาจทำให้มีชีวิตยืนยาวขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้าและชะลอการเสื่อมของความจำและการรับรู้ตัว ชาซึ่งมีสารต้านอนุมูลนั้นอาจจะช่วยลดการอักเสบ ป้องกันโรคมะเร็งและผิวหนังได้อีกด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ระวังเมนูที่คนอื่นสั่งในร้านอาหาร
คนแรกที่สั่งอาหารนั้นมักจะเป็นคนที่กำหนดรูปแบบอาหารที่รับประทานในวันนั้นสำหรับทั้งโต๊ะ เช่นหากสั่งปลาหมึกทอด คนอื่นก็อาจจะเลือกสั่งอาหารอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ในขณะที่หากสั่งสลัดนั้นจะเป็นการกดดันคนอื่นให้สั่งอาหารที่มีประโยชน์ คุณสามารถหลีกเลี่ยงบรรยากาศเหล่านี้ได้โดยการเลือกเมนูให้เสร็จก่อนที่จะเริ่มสั่งอาหาร นอกจากนั้นยิ่งมีจำนวนคนในโต๊ะมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งทานอาหารมากขึ้นเท่านั้น การมีเพื่อนรับประทานเพิ่มขึ้น 1 คนนั้นจะเพิ่มการรับประทานถึง 35% และหากรับประทานมากกว่า 4 คนนั้นจะเพิ่มถึง 75%
หยุดซื้ออาหารขยะให้เพื่อน
มันง่ายที่จะซื้อคุกกี้ หรือขนมต่างๆ ด้วยความคิดที่ว่าซื้อเผื่อเพื่อน แต่คุณควรจะคิดว่าอาหารเหล่านี้นั้นไม่ดีสำหรับคุณดังนั้นมันก็ไม่ดีสำหรับคนที่คุณรักเช่นกัน คนส่วนมากอยากกินอาหารที่มีประโยชน์และคิดว่าคนอื่นนั้นอยากกินขนมที่เป็นอาหารขยะ คุณสามารถเปลี่ยนความคิดนี้ได้โดยการเลือกอาหารหรือขนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสำหรับแขก
ลองใช้วิธีทานอาหารอื่นทดแทนที่บ้าน
เวลาที่คุณไปซื้อของ นักการตลาดต่างก็รู้ว่าคุณมักจะหยิบของที่อยู่ในระดับสายตามากกว่าชั้นอื่น คุณสามารถนำแนวคิดนี้มาปรับใช้กับที่บ้านได้โดยการนำอาหารที่ไม่ดีไว้ในตู้เย็น ช่องแช่แข็งและครัวซึ่งคุณจะมองไม่เห็น อาหารที่อยู่บนโต๊ะและอาหารที่คุณเห็นนั้นสำคัญมากต่อการเลือกอาหารที่เหมาะสม เพราะหากคุณเห็นมันทุกครั้งที่เดินผ่าน คุณก็จะอยากและหาเหตุผลในการรับประทาน ลองเปลี่ยนมาทานถั่วพิชตาชิโอ้และแอปเปิ้ลแทนการทานลูกอมและแครกเกอร์
อย่ารับประทานอาหารลักษณะแบบครอบครัว
งานวิจัยพบว่าผู้หญิงนั้นรับประทานอาหารเพิ่มขึ้น 10% และผู้ชาย 29% เวลาที่ไปกินอาหารจานใหญ่แบ่งกันตรงกลางแทนการสั่งอาหารสำหรับแต่ละคน อาหารจานใหญ่เหล่านี้จะทำให้มีแรงกดดัน และทุกคนรู้สึกว่าจะต้องลองทานทุกอย่าง การที่มีอาหารอื่นๆ อยู่บนโต๊ะนั้นยังทำให้คุณสามารถเอื้อมไปหยิบได้ง่ายโดยอาจจะไม่ทันตั้งตัว ลองทิ้งอาหารจานกลางไว้ในห้องครัวก่อนจะตักแล้วค่อยมานั่งกินร่วมกัน
กินของทานเล่นแต่พอดี
งานวิจัยพบว่าเรามักจะกินมากเกินกว่าที่ตั้งใจเวลาที่กินแบบไม่ใส่ใจ โดยผู้ร่วมวิจัยนั้นได้พลังงานเพิ่มขึ้น 167 แคลอรีต่อชั่วโมงเวลาที่นั่งรับประทานขณะที่ดูโทรทัศน์ คุณสามารถระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้โดยการหยิบขนมทานเล่นในขนาดเท่าฝ่ามือมานั่งที่โซฟา หรือที่โต๊ะ แทนการหยิบทั้งถุงหรือกล่อง เพื่อช่วยไม่ให้คุณรับประทานมากเกินไปเวลาที่คุณไม่รู้ตัว
ทานอาหารอย่างน้อย 20 นาทีทุกมื้อ
การรีบทานอาหารนั้นไม่ได้ทำให้เกิดอะไรดีขึ้น ฮอร์โมนในระบบย่อยอาหารมักจะต้องการเวลาประมาณ 20 นาทีเพื่อบอกสมองว่าคุณนั้นอิ่ม ดังนั้นหากคุณกินอาหารหมดภายใน 10 นาที คุณอาจจะทานอาหารมากกว่าที่ควรเป็ฯได้ การกินเร็วนั้นยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน อาการแสบร้อนกลางหน้าอกเป็นต้น ให้เคี้ยวอาหารให้เหมาะสมและค่อยๆ ใช้เวลาไปกับการคุยกับครอบครัวและเพื่อนในระหว่างคำ