น้ำตาล สารที่ให้รสหวาน จนกลายเป็นที่ชื่นชอบสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งการรับประทานน้ำตาลในปริมาณมาก ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกาย เนื่องจากระดับปริมาณน้ำตาลในร่างกายของเรา จะมีมากเกินไปทำให้ไม่เป็นผลดี โดยที่นักโภชนาการ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า ปริมาณน้ำตาลที่เกิน 150 แคลอรี่ มักจะก่อให้เกิดโอกาสในการเป็นโรคอ้วน และโรคเบาหวานมากกว่าเดิม และนอกจากนี้ปริมาณน้ำตาลที่รับเข้าไปในแต่ละวันที่มากเกินไป ยังถูกจับตามอง และทำการวิจัยอยู่ว่า สิ่งเหล่านี้อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง กับโอกาสที่จะทำให้เราเกิดโรคหัวใจได้หรือไม่
ถ้าหากคุณกำลังกลัวที่จะรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล และเลือกที่จะตัดขาดกับสิ่งเหล่านี้ บทความนี้จะบอกให้คุณได้รู้ว่า ความจริง เกี่ยวกับพฤติกรรมในการบริโภคน้ำตาล ว่าบริโภคแบบไหนที่นับได้ว่าไม่ปลอดภัย และส่งผลเสียต่อร่างกายของเรา
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ไม่ใช่น้ำตาลทุกชนิดที่ทำร้ายเรา
เพราะในบางครั้งน้ำตาลบางชนิดก็ยังคงมีประโยชน์กับร่างกายของเราอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำตาลที่เราได้มาจากธรรมชาติ เช่นน้ำผึ้ง หรือผักผลไม้บางชนิด ที่นอกจากจะช่วยในการปรุงแต่งรสชาติของอาหารให้น่าทานมากขึ้นแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญในการช่วยต้านอนุมูลอิสระ ที่เป็นวสาเหตุหลักๆของมะเร็ง และโรคร้ายหลายชนิด
แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ การได้รับในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจจะก่อให้เกิดโรคอ้วน และเบาหวานได้เช่นเดียวกันกับน้ำตาลสังเคราะห์ ดังนั้นหากได้รับน้ำตาลจากผลไม้แล้ว เราอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องได้รับน้ำตาลจากที่อื่นอีก
อ่านฉลากให้ละเอียด
คุณจะพบว่าในหลายๆครั้ง ที่เราได้ลองอ่านฉลากข้างตัวสินค้า และค้นพบว่าสินค้าบางตัวได้ประกอบไปด้วยปริมาณความหวาน หรือน้ำตาลที่ได้มาจากธรรมชาติ เช่นน้ำผึ้ง หรือน้ำผลไม้บางอย่าง ที่ให้น้ำตาลในปริมาณที่มาก
ดังนั้นหากต้องการที่จะลดน้ำตาลจริงๆ การอ่านฉลากควรดูให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณของแคลอรี่ของอาหารชนิดนั้น ส่วนผสมของน้ำตาลธรรมชาติ น้ำตาลสังเคราะห์ และสารปรุงแต่รสชาติต่างๆ
น้ำตาลน้อยไม่ได้หมายความว่าจะอ้วนน้อยลง
เพราะในบางครั้งหน่วยของการใส่น้ำตาลในอาหารอาจจะระบุแตกต่างกัน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ผู้หญิงไม่ควรได้รับน้ำตาลในปริมาณที่เกินกว่า 100 แคลอรี่ หรือ 6 ช้อนชาต่อวัน แต่เราจะพบว่าในความจริงแล้ว คนส่วนใหญ่มักจะบริโภคน้ำตาลมาเกินเกณฑ์มาตรฐานอยู่ไม่น้อยทีเดียว ดังนั้นหากต้องการที่จะควบคุมปริมาณของน้ำตาลที่ได้รับในแต่ละวันอย่างจริงจัง ให้จำไว้เสมอว่า น้ำตาล 1 ช้อนชา มีน้ำหนักเท่ากับน้ำตาล 4 กรัม ดังนั้นเมื่อบริโภคไปเท่าไหร่ ก็ให้คำนวณว่าหลังจากอาหารมื้อนั้น เราควรได้รับน้ำตาลอีกไม่เกินเท่าไหร่ ก็จะช่วยลดการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปได้อย่างได้ผล
ถึงแม้ว่าน้ำตาลในปริมาณมาก จะนำมาซึ่งผลร้ายต่อสุขภาพอย่างมากมาย แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นเดียวกันว่า การได้รับน้ำตาล จะช่วยให้ร่างกายของเรามีพลังงานที่เพิ่มมากขึ้น เพราะน้ำตาลก็เป็นอีกหนึ่งแหล่ง ที่ให้พลังงานกับร่างกาย และการเลือกที่จะควบคุมปริมาณของน้ำตาล ให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ดูเหมือนว่าจะเป็นทางออกที่ดีมากกว่าการตัดน้ำตาลออกจากรายการอาหารโดยตรง