คุณพ่อคุณแม่คงสังเกตว่าทารกชอบเอานิ้วเข้าปาก เมื่อโตขึ้นมาก็ชอบดูดนิ้วมือหรือนิ้วเท้าของตนเองเวลาว่าง ไม่มีกิจกรรมทำ
พฤติกรรมเช่นนี้บางครั้งอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความกังวล ว่าจะเป็นการนำสิ่งสกปรกจากนิ้วเข้าสู่ร่างกาย หรือทำให้เด็กติดดูดนิ้ว เมื่อโตขึ้นอาจจะมีรูปนิ้วไม่สวยงาม ฟันเหยิน
ลูกชอบดูดนิ้วเป็นเรื่องผิดปกติหรือไม่?
ประมาณ 80% ของเด็กทารกที่คลอดออกมาจะมีพฤติกรรมดูดนิ้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่พบได้
มีการศึกษาพบว่า เมื่อถึงอายุ 1 ปีจะมีจำนวนทารก 6 คนใน 100 คนที่ยังดูดนิ้วอยู่ และเมื่ออายุมากกว่า 2 ปี จะเหลือเพียง 3 คนใน 100 คนที่ยังคงดูดนิ้ว
ส่วนใหญ่เด็กจะเลิกดูดนิ้วได้เองเมื่ออายุประมาณ 4 ขวบ ยกเว้นเด็กที่เคยมีปัญหากับคุณพ่อคุณแม่มาก่อนเรื่องการดูดนิ้ว อาจทำให้เลิกช้ากว่าปกติได้
ทำไมลูกจึงชอบดูดนิ้ว?
การดูดนิ้ว เป็นพัฒนาการปกติที่พบได้ตั้งแต่แรกเกิดเป็นต้นไป โดยเด็กอายุน้อยกว่า 3 เดือนจะเรียนรู้การดูดนิ้วโดยบังเอิญ แล้วพบว่าการดูดนิ้วทำให้ตนเองรู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด ทำให้สงบ
เวลาที่ลูกชอบดูดนิ้วมากที่สุดคือช่วงเหนื่อย หิว เครียด ง่วง เบื่อ ไม่มีอะไรทำ ต้องการการปลอบประโลม รู้สึกไม่ปลอดภัยหรือไม่มั่นคง
เมื่อลูกโตขึ้นจนสามารถคว้าจับสิ่งของต่างๆ ได้ ก็จะเอาของเข้าปากเพื่อเป็นการเรียนรู้ลักษณะสัมผัสรูปร่างของสิ่งนั้นๆ
โดยเด็กจะใช้การดูด อม เลีย เพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี นอกจากนี้เมื่อกล้ามเนื้อของเด็กพัฒนาความแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น พบว่าเด็กจะสามารถดูด อม เลีย นิ้วเท้าได้อย่างง่ายๆ ด้วย
ลูกชอบดูดนิ้วมีผลเสียหรือไม่ และมีผลเสียอย่างไร?
แม้การดูดนิ้วจะเป็นพัฒนาการปกติตามวัย แต่หากยังไม่สามารถเลิกดูดนิ้วได้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนี้
- ผลต่อฟันและช่องปาก เกิดภาวะการสบฟันผิดปกติ เช่น ฟันหน้ายื่น ฟันสบกันไม่สนิท รากฟันผิดปกติ
- ผลต่อนิ้วมือ นิ้วมือผิดรูป มีนิ้วด้านหนา จมูกเล็บอักเสบ
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร ได้รับสิ่งสกปรกจากนิ้วมือที่ปนเปื้อน
- ผลต่อสภาวะทางจิตใจ โดนพ่อแม่หรือญาติว่ากล่าว ขาดความมั่นใจในตนเอง รู้สึกเป็นปมด้อย โดนเพื่อนล้อ เกิดผลเสียต่อความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและกระทบต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่น
พ่อแม่ควรทำอย่างไรหากลูกชอบดูดนิ้ว?
เด็กจะใช้การดูดนิ้วเพื่อการเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่และผู้เลี้ยงดูควรทำความเข้าใจ หาสาเหตุที่ทำให้ลูกดูดนิ้วมากขึ้น และหลีกเลี่ยงการดุ ด่า ตี บ่น พยายามดึงมือออกจากปากลูกบ่อยๆ รวมถึงไม่ควรแสดงความไม่พอใจต่อพฤติกรรมของลูก
เพราะสิ่งเหล่านี้จะยิ่งทำให้เกิดความสัมพันธ์ด้านลบระหว่างผู้เลี้ยงดูกับเด็ก และยิ่งทำให้เด็กดูดนิ้วมากขึ้น
สำหรับเด็กวัยต่างๆ คุณพ่อคุณแม่ควรมีวิธีปฏิบัติเมื่อลูกดูดนิ้ว ดังนี้
วัยเด็กเล็ก
ควรแก้ไขที่สาเหตุที่ทำให้ลูกดูดนิ้วเพื่อลดความเครียด ความกังวลและผ่อนคลายตัวเอง เช่น
- ถ้าลูกดูดนิ้วเพราะหิว ควรหานมให้เด็กกิน
- ถ้าลูกดูดนิ้วเพราะง่วง ควรพาเข้านอน
- ถ้าลูกดูดนิ้วเพราะเบื่อ ควรหาของเล่นให้เด็กถือเล่นแทน โดยเลือกของที่มีขนาดไม่เล็กจนเกินไป สะอาด และปลอดภัย
นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่อาจหาสิ่งทดแทนเพื่อช่วยให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย เช่น ใช้จุกหลอกดูดแทน หาผ้าหรือตุ๊กตาให้ลูกโอบกอด เป็นต้น
ในวัยเด็กโตที่อายุมากกว่า 4 ขวบ
คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกช่วยตัดสินใจและอาศัยความร่วมมือในการเลิกดูดนิ้ว โดยเด็กควรที่จะสนใจและมีความพร้อมก่อน เพราะการบังคับจะยิ่งทำให้การเลิกดูดนิ้วเป็นเรื่องยากขึ้น
คำแนะนำมีดังนี้
- ควรหลีกเลี่ยงวิธีดุ ว่า หรือลงโทษด้วยความรุนแรง หากเด็กยังเลิกดูดนิ้วไม่ได้
- ใช้ความเข้าใจ กำลังใจ หรือให้แรงเสริมทางบวก ต่อความพยายามในการเลิกดูดนิ้วของเด็ก
- สอนให้เด็กรู้ตัวเองว่ากำลังจะดูดนิ้ว เพื่อที่จะได้ห้ามใจตอนเอง
- พูดคุยอธิบายถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นและทำข้อตกลงกันในการเลิกดูดนิ้ว เช่น “หนูอยากให้แม่เตือนหนูแบบไหนหากหนูเผลอดูดนิ้ว เช่น เรียกชื่อและแตะตัวหนู” “หนูอยากให้แม่หาอุปกรณ์มาใส่ที่มือ เช่น ถุงมือ หรือ เอาบอระเพ็ดมาทาที่มือ เพื่อให้หนูดูดนิ้วลดลง วิธีนี้หนูเห็นว่าอย่างไรจ๊ะ”
- ในช่วงแรกของการเลิกดูดนิ้ว อาจอนุโลมให้เด็กดูดนิ้วได้เป็นเวลา เช่น ช่วงง่วงนอน เมื่อหลับแล้วค่อยๆ เอามือออก
- ให้รางวัลเพื่อเป็นแรงเสริมทางบวกเมื่อลูกทำได้ เช่น “หากวันไหนลูกไม่ดูดนิ้ว จะได้สติกเกอร์ดาว เมื่อสะสมครบ 10 ดวง คุณพ่อคุณแม่จะให้รางวัลที่หนูต้องการ” โดยเลือกรางวัลที่มีมูลค่าไม่มาก ไม่ต้องใหญ่โตอะไร แต่เป็นสิ่งที่เด็กต้องการเพื่อให้เห็นถึงความพยายามและความตั้งใจ
บางครั้งหากคุณพ่อคุณแม่ไม่สนใจดูดนิ้วของลูก หรือเพิ่มการให้แรงเสริมทางบวก จะยิ่งส่งเสริมให้เด็กเลิกดูดนิ้วได้เร็วขึ้น
เมื่อไรควรพาลูกไปพบแพทย์?
หากลูกเข้าข่ายต่อไปนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปปรึกษาแพทย์
- พ่อแม่และลูกโต้เถียงกันทุกครั้งเวลาจะเลิกดูดนิ้ว
- ลูกรู้สึกอับอาย ขาดความไม่มั่นใจในตนเอง
- เด็กอายุมากกว่า 6 ปีแล้วยังไม่สามารถเลิกดูดนิ้วได้ กรณีนี้ควรพาไปพบทันตแพทย์เพื่อให้ตรวจสภาพฟัน และพิจาราณาใส่อุปกรณ์ช่วยเหลือ