ยาสมุนไพร คือ ยาที่ได้มาจากส่วนต่างๆ ของพืช สัตว์ และแร่ธาตุจากธรรมชาติที่มีสรรพคุณในทางยา มนุษย์หลายวัฒนธรรมทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยต่างรู้จักการใช้ยาสมุนไพรเพื่อรักษาบรรเทาอาการเจ็บป่วยมาช้านาน ดังมีหลักฐานปรากฏในตำรายาเก่าแก่มากมาย ถึงอย่างนั้นยาสมุนไพรก็คลายความนิยมลงไปเมื่อมีการคิดค้นยาสมัยใหม่ หรือยาเคมีเกิดขึ้นมา อย่างไรก็ตาม คนบางกลุ่มยังคงเชื่อมั่นและนิยมใช้ยาสมุนไพรรักษาโรคอยู่ ปฏิเสธยาสมัยใหม่ บางกลุ่มก็หันมาใช้ยาสมุนไพรเพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมี
ยาสมุนไพรคล้ายคลึงกับยาแผนปัจจุบัน คือ มีผลกระทบต่อร่างกายได้หากใช้ไม่ถูกวิธี ใช้ไม่ถูกต้อง และใช้ไม่เหมาะสม จึงต้องมีการกำหนดขนาดการใช้และข้อควรระวังในเรื่องผลข้างเคียง เช่นเดียวกับยาแผนปัจจุบัน
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ใครควรใช้ยาสมุนไพร
อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ใช้ยาอื่นรักษาโรคอยู่แล้ว ผู้ป่วยที่เป็นโรคร้ายแรง เช่น โรคตับ หรือโรคไต ผู้ที่ต้องได้รับการผ่าตัด ผู้สูงอายุ และเด็ก ส่วนผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนที่จะเริ่มใช้ยาสมุนไพรเสมอ
ข้อควรระวังเกี่ยวกับยาสมุนไพร
- อาจเกิดปัญหากับยาชนิดอื่นๆ ได้ คือ อาจไปเพิ่ม หรือลดประสิทธิภาพ รวมถึงผลข้างเคียงของยาเหล่านั้นได้
- อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง หรืออาการแพ้ได้ จากการใช้ยาสมุนไพร เช่น มะเกลือมีฤทธิ์ในการถ่ายพยาธิ แต่มีผลข้างเคียงคือ คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย หลังจากนั้นจะตามัว และตาบอดตามลำดับได้ จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผลมะเกลือที่แก่เต็มที่จนมีสีดำนั้น อาจจะมีสารแนฟทาลีน (naphthalene) ซึ่งเป็นพิษต่อประสาทตาโดยตรง
- บางชนิดอาจไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนว่า มีความปลอดภัยต่อการใช้
- ข้อมูล และหลักฐานทางวิทยศาสตร์ยังคงมีจำกัด อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยบางรายใช้แล้วได้ผล ส่วนมากยาสมุนไพรมักจะใช้กับการแพทย์แผนโบราณ หรือตามความเชื่อของผู้ป่วย
- ถ้าเป็นโรคที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ารักษาด้วยสมุนไพรได้ผลดีก็ไม่ควรรักษาด้วยสมุนไพร เช่น บาดทะยัก พิษสุนัขบ้า
- ถ้ามีอาการที่ต้องการับการรักษาอย่างเร่งด่วนเพราะอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น ท้องเดินอย่างรุนแรง ตกเลือดมาก หายใจไม่ออก
- ไม่ควรใช้ยาสมุนไพรติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เพราะอาจเกิดการสะสมที่ตับได้
- ถ้าใช้สมุนไพรแล้วมีอาการพิษ หรืออาการข้างเคียงเกิดขึ้นควรหยุดใช้ยาสมุนไพร และไปพบแพทย์
- ถ้าผู้ป่วยต้องเข้าพบแพทย์ หรือมีปัญหาสุขภาพ หรือต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรแจ้งแพทย์และเภสัชกรก่อนทุกครั้งว่า ใช้ยาสมุนไพรชนิดใดบ้าง
ยาสมุนไพรและการผ่าตัด
ผู้ป่วยต้องแจ้งแพทย์ หรือบุคลากรทางการแพทย์ทุกครั้งก่อนที่จะได้รับการผ่าตัดว่าตนเองใช้ยาสมุนไพรอยู่ และใช้ชนิดใดบ้าง เนื่องจาก
- บางชนิดมีผลกับยาสลบ ยาชา หรือยาชนิดอื่นที่ผู้ป่วยต้องใช้ในระหว่างและหลังการผ่าตัด
- บางชนิดส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด และ ความดันโลหิต ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงต่อการมีเลือดออกไม่หยุดระหว่าง หรือหลังการผ่าตัด
- แพทย์จะสั่งให้หยุดยาสมุนไพรทุกชนิดก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
จะเลือกซื้อยาสมุนไพรอย่างไร
- ควรเลือกซื้อยาสมุนไพรที่ได้รับการขึ้นทะเบียน และผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยาแล้วซึ่งจะมีตราสัญลักษณ์อยู่บนบรรจุภัณฑ์ หมายความว่า มีการผลิตที่ผ่านมาตรฐานและตรงตามกฎหมายกำหนด ส่งผลถึงความปลอดภัยในการใช้ของผู้ป่วย
- ยาสมุนไพรโดยมากจะผลิตมาสำหรับโรคที่ไม่ร้ายแรง หรืออาการที่ผู้ป่วยสามารถรักษาด้วยตนเองได้ เช่น ไอ เป็นหวัด หรืออาการปวดเล็กน้อย เป็นต้น การใช้ยาสมุนไพรกับโรคที่ร้ายแรงอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเริ่มใช้
- ยาสมุนไพรที่ได้รับการขึ้นทะเบียน และผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยา ไม่ได้หมายความว่า จะมีความปลอดภัยและเหมาะสมกับผู้ป่วยทุกประเภท ดังนั้นก่อนใช้ยาทุกชนิดควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ความเสี่ยงในการสั่งซื้อยาสมุนไพรออนไลน์
- การสั่งซื้อออนไลน์อาจเสี่ยงต่อการได้รับของปลอม ยาต่ำกว่ามาตรฐาน หรือมีสารปนเปื้อนเจือปนอยู่มากกว่าสินค้าปกติ
- ยาที่ไม่ผ่านการขึ้นทะเบียน หรือยาที่ไม่ผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยา ผู้ประกอบการอาจจะนำมาขายออนไลน์แทนเพื่อเลี่ยงข้อกฎหมาย หรืออาจมียาทำปลอม ลอกเลียนแบบ หรืออาจมีการลักลอบผสมสารต้องห้าม ผู้ป่วยสามารถตรวจสอบรายชื่อสารเหล่านี้ได้จากเว็บไซต์ขององค์การอาหารและยา ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้ผู้ป่วยไม่ควรสั่งซื้อยาสมุนไพรออนไลน์ ควรซื้อสินค้าจากร้านขายยาที่มีเภสัชกรให้คำปรึกษา
- ยาลดน้ำหนักจากสมุนไพร หรือยาเสริมสมรรถภาพทางเพศจากสมุนไพร เป็นสินค้าที่ควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากโดยมากจะลักลอบผสมสารอันตราย หรือสารเคมี โดยไม่ได้แจ้งไว้ในฉลาก
การรายงานผลข้างเคียงต่อการใช้ยาสมุนไพร
ผู้ใช้ยาสมุนไพรสามารถรายงานผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้ยาสมุนไพรได้ โดยการโทรศัพท์แจ้งองค์การอาหารและยา หรือกรมคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อรับการช่วยเหลือต่อไป และที่สำคัญที่สุดหาเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาสมุนไพร ให้หยุดยาแล้วรีบไปโรงพยาบาลโดยด่วน
ยาสมุนไพรก็เหมือนยาสมัยใหม่ที่มีทั้งคุณและโทษ แม้จะปราศจากสารเคมี แต่หากใช้ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกโรค ใช้ผิดวิธี หรือใช้สินค้าไม่ได้มาตรฐานก็อาจนำมาซึ่งอันตรายต่อร่างกายและชีวิตได้